“ทรัมป์” เล็งลดพนักงานรัฐบาลกลางสหรัฐ 300,000 คน ในปีนี้ หวังเพิ่มประสิทธิภาพรัฐ
"ทรัมป์" เล็งลดพนักงานรัฐบาลกลางสหรัฐ 300,000 คน ในปีนี้ 80% ลาออกเอง และอีก 20% ถูกเลิกจ้าง สะท้อนความมุ่งมั่นของทรัมป์ในการลดขนาดและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของรัฐบาลกลาง
วันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 02.56 น. สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า แหล่งข่าวระบุว่า ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์คาดว่าจะลดจำนวนพนักงานภาครัฐลงราว 300,000 คนภายในปีนี้ ซึ่งจะเท่ากับการลดกำลังคนภาครัฐลงประมาณ 12.5% นับตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา
สก็อตต์ คูปอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารงานบุคคล (OPM) ระบุว่า 80% ของพนักงานที่จะออกจากงานจะเป็นการลาออกโดยสมัครใจ และอีก 20% จะถูกเลิกจ้าง ตัวเลขนี้เกือบเป็นสองเท่าของพนักงาน 154,000 คนที่สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อเดือนที่แล้วว่ารับเงินชดเชยเพื่อออกจากงาน
นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม ประธานาธิบดีทรัมป์ได้เปิดตัวแคมเปญครั้งใหญ่เพื่อลดขนาดกำลังคนพลเรือนของรัฐบาลกลางซึ่งมีอยู่ 2.4 ล้านคน โดยให้เหตุผลว่ามีขนาดใหญ่เกินไปและไม่มีประสิทธิภาพ “ผมไม่สามารถบังคับให้คนไล่พนักงานออกได้” คูเปอร์กล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์ที่กรุงวอชิงตันเมื่อวันพฤหัสบดี พร้อมเสริมว่าตนต้องโน้มน้าวให้รัฐมนตรีกระทรวงต่าง ๆ เห็นพ้องกับวิสัยทัศน์เรื่องประสิทธิภาพของรัฐบาล
ถ้อยแถลงนี้ตัดกับแนวทางในช่วงไม่กี่เดือนแรกของวาระที่สองของทรัมป์ ซึ่งในตอนนั้น ผู้นำ OPM ได้สั่งการโดยตรงให้หน่วยงานต่าง ๆ เลิกจ้างพนักงานที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง ตามเอกสารที่ยื่นต่อศาล
หากประมาณการของคูปอร์แม่นยำ จำนวนพนักงานที่จะออกจากราชการกลางในปีนี้จะมากกว่าสองเท่าของอัตราการออกจากงาน (attrition) 5.9% ในปีงบประมาณ 2566 ซึ่งเป็นข้อมูลล่าสุดของการลาออกโดยสมัครใจที่จัดทำโดยองค์กรไม่แสวงหากำไร Partnership for Public Service
คูปอร์ปฏิเสธที่จะเปิดเผยจำนวนพนักงานแยกตามหน่วยงาน โดยระบุว่า OPM จะเผยแพร่ตัวเลขดังกล่าวในภายหลัง ทั้งนี้ หน่วยงานต่าง ๆ จะยื่นข้อเสนอการปรับลดกำลังคนให้รัสส์ โวท ผู้อำนวยการงบประมาณของทำเนียบขาว ขณะที่ประธานาธิบดีเตรียมจัดทำคำของบประมาณฉบับถัดไปเพื่อเสนอต่อสภาคองเกรส โดยคูปอร์กล่าวว่าได้หารือกับสำนักงบประมาณแล้วเมื่อวันพุธ
อ้างอิง : reuters.com