โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 28ส.ค.“แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” ที่ระดับ 32.39 บาทต่อดอลลาร์

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 13 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 28ส.ค.2568 ที่ระดับ 32.39 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ 32.48 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่าแนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า แม้เงินดอลลาร์จะทยอยอ่อนค่าลงบ้างในช่วงคืนที่ผ่านมา ทว่าการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์อาจเป็นไปอย่างจำกัด จนกว่าผู้เล่นในตลาดจะปรับเพิ่มความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด

ซึ่งอาจเกิดขึ้นหลังผู้เล่นในตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมถึงถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด ทำให้เราประเมินว่า ในช่วงก่อนตลาดรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว ในช่วงราว 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย นั้น เงินดอลลาร์อาจแกว่งตัว Sideways และมีโอกาสรีบาวด์ขึ้นบ้าง

เนื่องจากสถานการณ์ความวุ่นวายของการเมืองฝรั่งเศสนั้นยังคงอยู่ และอาจกลับมากดดันตลาดการเงินฝั่งยุโรป โดยเฉพาะเงินยูโร (EUR) ได้บ้าง (เราประเมินว่า การแข็งค่าขึ้นของเงินยูโร อาจเป็นไปอย่างจำกัด จนกว่าประเด็นความเสี่ยงการเมืองฝรั่งเศสจะคลี่คลายลง)

นอกจากนี้ ในช่วงระหว่างวัน เงินบาทก็มีโอกาสเผชิญแรงกดดันบ้าง จากทั้งโฟลว์ธุรกรรมซื้อเงินดอลลาร์และสกุลเงินต่างประเทศอื่นๆ จากผู้เล่นในตลาด อาทิ ฝั่งผู้นำเข้า รวมถึง แรงขายสินทรัพย์ไทยจากบรรดานักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะแรงขายหุ้นไทย

ขณะเดียวกัน ราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นมาทดสอบโซนแนวต้านและยังคงเห็นแรงขายทำกำไรผู้เล่นในตลาดบ้าง จำกัดการปรับตัวขึ้นต่อของราคาทองคำ ในช่วงก่อนตลาดรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม ซึ่งภาพดังกล่าวจะช่วยชะลอการแข็งค่าขึ้นของเงินบาทได้ โดยเราประเมินว่า เงินบาท (USDTHB) อาจยังติดโซนแนวรับ 32.30 บาทต่อดอลลาร์ โดยมีโซนแนวรับถัดไปในช่วง 32.10 บาทต่อดอลลาร์

อย่างไรก็ดี ในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ นั้น เงินบาทเสี่ยงผันผวนมากขึ้น เผชิญความเสี่ยง Two-way risk (พร้อมเคลื่อนไหวสองทิศทาง) ขึ้นกับว่า รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะออกมาอย่างไร โดยหากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าคาด ก็จะช่วยหนุนให้เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ รีบาวด์ขึ้นบ้าง ตามการปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด (อาจไม่มากนัก)

ทว่าเงินบาทก็อาจยังติดโซนแนวต้าน 32.50 บาทต่อดอลลาร์ ทั้งนี้ อาจต้องติดตามภาวะตลาดการเงินสหรัฐฯ และการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ เนื่องจากหากราคาทองคำปรับตัวขึ้นบ้าง ตามภาวะปิดรับความเสี่ยงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็อาจชะลอการอ่อนค่าของเงินบาทได้

ในทางกลับกัน หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาแย่กว่าคาด เรามองว่า ผู้เล่นในตลาดอาจปรับเพิ่มความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดบ้าง กดดันทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ หนุนการแข็งค่าขึ้นของเงินบาทเพิ่มเติม ซึ่งหากบรรยากาศในตลาดการเงินสหรัฐฯ ปิดรับความเสี่ยงและหนุนการปรับตัวขึ้นต่อของราคาทองคำ ก็อาจทำให้เงินบาทแข็งค่าทะลุโซนแนวรับ 32.30 บาทต่อดอลลาร์ ทดสอบโซนแนวรับถัดไป ได้ไม่ยาก

นอกจากนี้ ในช่วงราว 3.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ของเช้าวันศุกร์นี้ เงินบาทก็เสี่ยงแข็งค่าขึ้นได้ โดยเราประเมินว่าถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด Christopher Waller จะย้ำจุดยืนเดิม สนับสนุนการเดินหน้าลดดอกเบี้ยของเฟด ซึ่ง Christopher Waller อาจส่งสัญญาณแสดงความกังวลต่อภาวะตลาดแรงงานสหรัฐฯ และแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพิ่มเติม ทำให้ ผู้เล่นในตลาดต่างมั่นใจต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดมากขึ้น ซึ่งจะกดดันทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ เพิ่มเติม พร้อมกับหนุนการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำได้

เรายังคงมีความกังวลเดิม คือ ความผันผวนของเงินบาทที่อาจกลับมาสูงขึ้นได้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของการดำเนินนโยบายการค้าของสหรัฐฯ และสถานการณ์การเมืองไทย ซึ่งเรามองว่า ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ Options เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.25-32.55 บาท/ดอลลาร์

โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) ทยอยแข็งค่าขึ้นบ้างในลักษณะ Sideways Down (แกว่งตัวในกรอบ 32.38-32.51 บาทต่อดอลลาร์) หนุนโดยการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องของราคาทองคำ (XAUUSD) เข้าใกล้โซนแนวต้าน 3,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อีกครั้ง

หลังผู้เล่นในตลาดทยอยปรับเพิ่มความคาดหวังแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด ท่ามกลางความกังวลต่อแนวโน้มการเข้าแทรกแซงการทำงานของเฟด โดยฝั่งการเมืองสหรัฐฯ ซึ่งภาพดังกล่าวได้กดดันให้เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ทยอยปรับตัวลดลง

นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ยังเผชิญแรงกดดันเพิ่มเติม ตามการรีบาวด์ขึ้นของเงินยูโร (EUR) หลังปรับตัวอ่อนค่าลงในช่วงก่อนหน้า จากความกังวลสถานการณ์การเมืองฝรั่งเศส ทั้งนี้ การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทก็เป็นไปอย่างจำกัด หลังผู้เล่นในตลาดบางส่วนยังคงทยอยเข้าซื้อเงินดอลลาร์และสกุลเงินต่างประเทศในช่วงปลายเดือน

บรรดาผู้เล่นในฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ ชะลอการเดินหน้าเปิดรับความเสี่ยง เพื่อรอลุ้นรายงานผลประกอบการของ Nvidia ทำให้โดยรวมดัชนี S&P500 ปิดตลาด +0.24% อย่างไรก็ดี แม้ว่าผลประกอบการของ Nvidia จะออกมาดีกว่าคาด ทั้งการเติบโตของรายได้และผลกำไร ทว่าคาดการณ์ผลประกอบการที่น่าผิดหวัง ได้กดดันให้ราคาหุ้น Nvidia ปรับตัวลดลง -3.1% หลังรับรู้รายงานผลประกอบการ ส่งผลกระทบให้บรรยากาศในตลาดการเงินสหรัฐฯ พลิกกลับมาอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยงได้ สะท้อนจากการปรับตัวลงของสัญญาฟิวเจอร์สตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ล่าสุด ปรับตัวลดลงราว -0.4%

ทางฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 รีบาวด์ขึ้นเล็กน้อย +0.10% หลังปรับตัวลดลงหนักในวันก่อนหน้า จากความกังวลต่อสถานการณ์การเมืองของฝรั่งเศส นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดต่างก็รอลุ้นรายงานผลประกอบการของหุ้นเทคฯ ใหญ่ สหรัฐฯ อย่าง Nvidia ซึ่งอาจสะท้อนถึงแนวโน้มผลประกอบการของบรรดาหุ้นธีม AI/Semiconductor อย่าง ASML ในตลาดหุ้นยุโรปได้

ส่วนในฝั่งตลาดบอนด์ ความกังวลการเข้าแทรกแซงการทำงานของเฟดจากฝั่งการเมืองสหรัฐฯ ซึ่งหนุนให้ผู้เล่นในตลาดทยอยปรับเพิ่มความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด ยังคงเป็นปัจจัยที่กดดันให้ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ย่อตัวลงบ้างสู่ระดับ 4.23%

ทั้งนี้ ในช่วงระยะสั้น เราคงมุมมองเดิมว่า บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ยังมีแนวโน้มผันผวนไปตามการมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด โดยยังพอมีโอกาสที่จะเห็นบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นได้บ้าง หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในช่วงหลังจากนี้ ทำให้ผู้เล่นในตลาดปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดลงบ้าง

เราจึงมองว่า ผู้เล่นในตลาดควรรอจังหวะบอนด์ยีลด์ระยะยาวสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น ในการทยอยเข้าซื้อ ส่วนผู้ที่มีสถานะลงทุนในบอนด์ระยะยาว ก็สามารถ Let Profits Run ได้ เนื่องจากเราคงคาดการณ์ว่า บอนด์ยีลด์ระยะยาวสหรัฐฯ ยังมีแนวโน้มทยอยปรับตัวลดลง ตามการเดินหน้าลดดอกเบี้ยของเฟด (คาดว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยจนถึงระดับ 3.00-3.25%)

ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์พลิกกลับมาอ่อนค่าลง สอดคล้องกับการปรับตัวลดลงของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ตามการปรับเพิ่มความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด กอปรกับเงินยูโร (EUR) ก็รีบาวด์แข็งค่าขึ้นบ้าง หลังปรับตัวอ่อนค่าลงพอสมควรในช่วงก่อนหน้า จากความกังวลสถานการณ์การเมืองฝรั่งเศส ส่งผลให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ย่อตัวลงสู่โซน 98.1 จุด (แกว่งตัวในกรอบ 98.1-98.7 จุด)

ในส่วนของราคาทองคำ จังหวะปรับตัวลดลงของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ท่ามกลาง ความกังวลการเข้าแทรกแซงการทำงานของเฟดจากฝั่งการเมืองสหรัฐฯ ซึ่งยังคงหนุนการปรับเพิ่มความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด ได้ช่วยหนุนให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. 2025) ทยอยปรับตัวสูงขึ้น ทดสอบโซนแนวต้าน 3,450 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อีกครั้ง

สำหรับในช่วง 24 ชั่วโมงหลังจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญจากฝั่งสหรัฐฯ อาทิ อัตราการเติบโตเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 ยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) รวมถึงข้อมูลตลาดบ้าน อย่าง ยอด Pending Home Sales ในเดือนกรกฎาคม และดัชนีภาวะภาคธุรกิจโดยบรรดาเฟดสาขาต่างๆ ในเดือนสิงหาคม นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด

โดยเฉพาะ Christopher Waller (Board of Governor และ FOMC Voting member) ซึ่งในการประชุม FOMC ล่าสุด Christopher Waller ได้ออกมาสนับสนุนการลดดอกเบี้ย จากความกังวลต่อแนวโน้มการจ้างงานสหรัฐฯ (ก่อนที่จะรับรู้รายงานข้อมูลการจ้างงานเดือนกรกฎาคมที่ออกมาแย่กว่าคาด และมีการปรับลดข้อมูลการจ้างงาน 2 เดือนก่อนอย่างมีนัยสำคัญ)

ส่วนในฝั่งยุโรป ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตาม รายงานการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ล่าสุด เพื่อหาสัญญาณต่อแนวโน้มการปรับนโยบายการเงินของ ECB ในระยะข้างหน้า โดยล่าสุด ผู้เล่นในตลาดให้โอกาสเพียง 40% ที่ ECB จะเดินหน้าลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีก 1 ครั้ง 25bps ในปีนี้

ทางฝั่งเอเชียนั้น ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น ผลการประชุมธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) ส่วนในช่วงราว 6.30-7.00 น. ของเช้าศุกร์ที่ 29 สิงหาคม นี้ ตามเวลาประเทศไทย ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของญี่ปุ่น อาทิ ยอดค้าปลีก (Retail Sales) และยอดผลผลิตอุตสาหกรรม (Industrial Production) ในเดือนกรกฎาคม รวมถึงอัตราเงินเฟ้อ CPI ของกรุงโตเกียว ในเดือนสิงหาคม ซึ่งอาจส่งผลต่อมุมมองผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) โดยล่าสุด ผู้เล่นในตลาดประเมินว่า BOJ มีโอกาสราว 68% ที่จะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย 25bps 1 ครั้ง ในปีนี้

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่าค่าเงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 32.38-32.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (8.45 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 32.47 บาทต่อดอลลาร์ฯ

โดยเงินบาทขยับแข็งค่าขึ้นเช่นเดียวกับทิศทางของสกุลเงินเอเชียอื่น ๆ ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ กลับมาเผชิญแรงขายสอดคล้องกับการปรับตัวลงของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ท่ามกลางการคาดการณ์เรื่องโอกาสการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมเดือนก.ย. ประกอบกับแรงหนุนของเงินดอลลาร์ฯ ยังไม่มีความต่อเนื่อง เนื่องจากตลาดยังคงมีจุดสนใจในประเด็นเรื่องความเป็นอิสระของเฟดอยู่ในระยะนี้

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 32.25-32.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ สถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลก และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2568 และข้อมูลยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนก.ค.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

LIVE ถ่ายทอดสดการจับสลากยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก UCL 2025/26 เช็กช่องดูสดที่นี่

35 นาทีที่แล้ว

คณะกรรมการพีดีพีชุดใหม่ถกนัดแรกเดือน ก.ย. หลังแผนค้างเติ่ง 3 ปี

44 นาทีที่แล้ว

เซ็นทรัลพัฒนา แจ้งตลาดฯปฏิเสธข่าวและชี้แจงถือหุ้นในดุสิตธานี

48 นาทีที่แล้ว

ย้อนรอย 'คลิปเสียงฮุน เซน' 17.06 นาที จุดปัญหาที่ล่ามแปลไม่ครบ

50 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่นๆ

นักวิเคราะห์ แนะ “ย่อซื้อ” หุ้นไทยรับความเสี่ยงการเมือง-ทองคำจ่อทะลุ

TNN ช่อง16

ระส่ำ! "นวลพรรณ ล่ำซำ" ชิงลาออกกรรมการ DUSIT สะเทือนเก้าอี้บริหาร

PostToday

KFC ประเทศไทย ฉลองเดือนเกิดผู้พัน เปิดตัวกล่องสุ่มลิมิเต็ด “เบบี้ แซนเดอร์ส คอลเลกชัน” เจาะคนรุ่นใหม่ มี 6 คาแรกเตอร์ แลกซื้อ 79 บาท 28 สิงหาคม – 24 กันยายนนี้

BTimes

ปากีสถานระเบิดเขื่อน ลดแรงดัน หลังน้ำสูง ท่วมวิหารซิกข์ อพยพแล้ว 2 แสน

Amarin TV

[บทความ] AI Data Center สมองกลที่หิวโหยพลังงาน และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

BT Beartai

ETL รุกเส้นทาง จีน–เวียดนาม บริหารต้นทุน หนุนกำฟื้น

TNN ช่อง16

ชีวิตไม่มีใคร… ไม่เคยเจ็บ เจ็บคออม… มายบาซิน โอทีซี รสส้มและรสมะนาว

สวพ.FM91

อินเดีย เล็งคุมเข้ม Shadow Lenders สั่งห้ามบริษัทย่อยทำธุรกิจซ้ำซ้อนบริษัทแม่

การเงินธนาคาร

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...