ไทม์ไลน์นรก
วันที่ ๑๓-๑๕ สิงหาคม สภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๙ วาระที่ ๒-๓
ปฏิทินทางการเมืองชวนระทึกขึ้นเรื่อยๆ ครับ….
หมายความว่าเดดล็อกการเมืองถูกปลดไปอีก ๑ เงื่อนไข
ถือเป็นเงื่อนไขสำคัญครับ เพราะการที่งบประมาณยังไม่ผ่าน เป็นข้ออ้างในการตัดสินใจทางการเมือง จะไม่ยุบสภา หรือไม่ลาออก
ก็เข้าใจได้ครับ หากงบประมาณล่าช้าจะมีปัญหาด้านเศรษฐกิจหนักกว่าเดิม
ฉะนั้นเมื่องบประมาณผ่าน อาจทำให้ “ทักษิณ” ตัดสินใจง่ายขึ้น สั่ง “อุ๊งอิ๊ง” ลาออกก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยคดี คลิปอังเคิลวุ้นเส้นก็เป็นได้
เพราะลาออกเองดีกว่าศาลรัฐธรรมนูญถอดถอนเพราะละเมิดจริยธรรมร้ายแรงเป็นไหนๆ
แม้ “ทักษิณ” จะเป็นคนกล้าเสี่ยง กล้าได้กล้าเสีย ก็ตามที แต่กรณีนี้ต้องคิดหนัก หากอนาคตยังจะคิดใช้งานลูกสาวให้ทำงานการเมืองต่อไป
เพราะหากศาลรัฐธรรมนูญมีมติถอดถอน ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จากการขาดความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ นั่นก็คือ ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๖๐ (๔)
หมดสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี หรือเป็นรัฐมนตรีตลอดชีวิต
เว้นเสียแต่ว่ารัฐธรรมนูญถูกแก้ไข ตัดมาตรานี้ออก!
คดีคลิปอังเคิลวุ้นเส้น คงจะจบในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ เพราะ “แพทองธาร” ขอขยายเวลาส่งคำชี้แจงข้อกล่าวหาครั้งที่ ๒ ซึ่งจบลงแล้วเมื่อวันที่ ๔ สิงหาคม ที่ผ่านมา
ที่จริงคำชี้แจงคดีนี้ไม่น่าจะมีอะไรมาก เพราะทุกอย่างปรากฏอยู่ในบทสนทนาระหว่าง “อังเคิลวุ้นเส้น” กับ “หลานอิ๊งค์” หมดแล้ว
มันมีอยู่แค่นั้น
จะปฏิเสธเจตนาของตัวเอง อ้างว่าเป็นวิธีการเจรจา ก็อยู่ที่ศาลจะเชื่อหรือไม่ แต่คนส่วนใหญ่เขาไม่เชื่อ
การบอกว่าทหาร แม่ทัพภาคที่ ๒ เป็นฝ่ายตรงข้าม มันไม่ใช่เทคนิคการเจรจา แต่มันมาจากจิตสำนึกของคนตระกูลชินวัตร
เพราะถูกรัฐประหารมา ๒ ครั้ง
แต่คนในตระกูลชินวัตรไม่เคยยอมรับหรอกครับ ว่าสาเหตุที่แท้จริงของรัฐประหารทั้ง ๒ ครั้งมาจากการคอร์รัปชันของรัฐบาลระบอบทักษิณ
รัฐบาลแพทองธารถึงได้ย่ำรอยเดิม
คดีนักโทษเทวดาชั้น ๑๔ คือจุดตายของ “ทักษิณ”
วันที่ ๙ กันยายน “ทักษิณ” ต้องไปฟังผลการไต่สวนที่ศาลด้วยตัวเอง ตามคำสั่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ยังไม่ทราบว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยคดีถอดถอน “แพทองธาร” วันไหน แต่น่าจะก่อนวันที่ ๙ กันยายน
อาจเป็นช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกับคดีนักโทษเทวดา!
คดี ม.๑๑๒ ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาวันที่ ๒๒ สิงหาคม
ทั้งหมดนี้คือไทม์ไลน์นรกของตระกูลชินวัตร
“ภูมิธรรม เวชยชัย” นักการเมืองที่มีความน่าเชื่อถือต่ำที่สุดอีกคน ตอบคำถามนักข่าวที่ฟังแล้วเหมือนไม่ประสีประสา เรื่อง “แพทองธาร” ลาออกหลังงบประมาณ ๖๙ ผ่านสภา
“…ข่าวมาจากไหน มันไม่มีกระแสข่าวหรอก เพราะไม่มีคนพูดและท่านนายกฯ ก็ไม่เคยพูด ซึ่งท่านก็พิสูจน์ตัวเอง อย่าไปเอาอะไรที่คนพูดนิดๆ หน่อยๆ มาเป็นกระแสในสังคมเพราะจะเป็นปัญหา
ยืนยันว่าไม่มี ยืนยันท่านนายกรัฐมนตรีไม่ได้พูด จบนะ…"
เชียร์ไม่ให้ออกครับ
อย่าลาออกเด็ดขาด
พิสูจน์ตัวเองให้ถึงที่สุด
อยู่รอจนถึงวันที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยถอดถอนออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
จะได้จารึกไว้ว่า “แพทองธาร” ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ละเมิดจริยธรรมร้ายแรง
ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองตลอดชีวิต!
“ภูมิธรรม” ยังบอกว่า “…พรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็พูดชัดเจนแล้วว่าเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพราะฉะนั้นอย่าไปทำให้มีประเด็นอะไร ซึ่งจริงๆ ไม่มีอะไรเลย ย้ำว่าพวกเราไม่เคยได้ยินอะไรเลย และยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีแผนสำรอง ทุกอย่างว่าไปตามกระบวนการ…”
สาธุ….
อย่ามีแผนสำรองเด็ดขาด
เอาให้จบที่ “แพทองธาร”
ล้างบางกันเสียที
แต่…ไม่หรอกครับ “ทักษิณ” มีแผนสาม แผนสี่ ยันแผนหนีอีกครั้ง
เรื่อง “ชัยเกษม นิติสิริ” จะรับไม้ต่อคุยกันมาเยอะแล้ว นั่นคือแผนสองของ “ทักษิณ” แต่เป็นแค่แผนยืดลมหายใจระยะสั้นเท่านั้น ไม่ใช่แผนครองอำนาจจนครบเทอม
แผนสามแผนสี่ ได้แค่คิด เพราะในทางปฏิบัติแทบเป็นไปไม่ได้ ที่ “ทักษิณ” จะยอมยกเก้าอี้นายกรัฐมนตรีให้พรรคการเมืองอื่น
ไม่ใช่พรรคส้ม หรือพรรคน้ำเงิน
แต่เป็นพรรครวมไทยสร้างชาติ
ดัน “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” ขึ้นมาเป็นนายกฯ แทน
ในความเป็นไปไม่ได้ก็มีความเป็นไปได้อยู่เหมือนกัน เพราะ “ทักษิณ” หมดทางเลือก
“พีระพันธุ์” คือทางเลือกเดียวในการต่อลมหายใจต่อจาก “ชัยเกษม”
ตัว “พีระพันธุ์” เองก็คงโอเค เพราะอุ้มกันมาถึงขั้นนี้แล้ว
ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว มีแต่ได้กับได้หากได้เป็นนายกรัฐมนตรี
แม้จะเป็นนายกรัฐมนตรีส้มหล่นก็ตาม
แต่…ที่บอกว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยก็มาจากอนาคตที่ยังลูกผีลูกคนของ “ทักษิณ” นั่นเอง
๙ กันยายน จะถูกจับส่งเรือนจำหรือไม่
หาก “ทักษิณ” ต้องกลับไปรับโทษจำคุก ๑ ปี นั่นคือหายนะของพรรคเพื่อไทย และรัฐบาลที่ง่อนแง่นอาจถึงกาลต้องล่มสลาย
งบผ่านแล้วคนยุบสภาไม่ใช่ “แพทองธาร”
แต่จะเป็น “ชัยเกษม”
ไปไม่ถึง “พีระพันธุ์”.