“บ้านไหนหนัง” ประตูสู่ความงดงามกลางอ่าวท่าเลน ท่องเที่ยววิถีชุมชน สัมผัสธรรมชาติอย่างยั่งยืน

เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

จังหวัดกระบี่ไม่ได้มีดีแค่ทะเลสวย แต่ยังซ่อนเพชรเม็ดงามอย่าง “ชุมชนบ้านไหนหนัง” จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ผสมผสานเสน่ห์ธรรมชาติ วิถีชีวิต และภูมิปัญญาท้องถิ่นไว้อย่างลงตัว พร้อมได้รับการรับรองมาตรฐาน STAR ระดับ 5 ดาว

ไฮไลต์ที่ถ้าใครเดินทางมาเยือนที่นี่ต้องห้ามพลาดคือการล่องเรือหัวโทงฝีมือชาวบ้าน สู่ “เขากาโรส” ภูเขาหินปูนรูปร่างแปลกตาที่ตั้งตระหง่านกลางอ่าวท่าเลน ระหว่างทางนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความงดงามของ ถ้ำลอดกลางน้ำ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ถ้ำห้องรับแขก” โถงถ้ำขนาดใหญ่ที่ถูกธรรมชาติแกะสลักอย่างวิจิตร

นอกจากทิวทัศน์ที่ตื่นตาแล้ว ที่นี่ยังเป็นแหล่งป่าโกงกางที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในภาคใต้ อ่าวท่าเลนทำหน้าที่เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำหลากชนิด และเป็นบ้านของนกทะเล นกน้ำ และสัตว์หายาก เป็นโอกาสให้ผู้มาเยือนได้เรียนรู้ความสำคัญของระบบนิเวศและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

เวิร์กช็อปชุมชนบ้านไหนหนัง – สัมผัสวิถีพื้นถิ่นและธรรมชาติอย่างใกล้ชิด : หลังจากอิ่มเอมกับอาหารกลางวันพื้นถิ่นที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่จาก พื้นที่โคก หนอง นา โมเดล นักท่องเที่ยวจะได้ก้าวเข้าสู่โลกแห่งภูมิปัญญาชาวบ้าน ผ่านกิจกรรมเวิร์กช็อปกับชุมชนบ้านไหนหนัง หนึ่งในชุมชนต้นแบบด้านการท่องเที่ยวยั่งยืน

การทำขนมกล้วยหยำและเครื่องดื่มผลไม้ตามฤดูกาล : ผู้มาเยือนจะได้ลงมือทำ ขนมกล้วยหยำ ขนมโบราณหอมหวานที่หากินได้ยาก โดยชาวบ้านจะถ่ายทอดขั้นตอนการเลือกกล้วยน้ำว้าสุกงอมพอดี เคล้ากับมะพร้าวขูดและน้ำตาลมะพร้าว ก่อนนำไปนึ่งจนสุกหอม นอกจากนี้ยังได้ร่วมทำ เครื่องดื่มจากผลไม้ตามฤดูกาล ที่ปราศจากสารปรุงแต่ง เพื่อให้ได้รสชาติธรรมชาติแท้ๆ ตามแบบฉบับชุมชน

และอีกหนึ่งในไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด คือการเรียนรู้และร่วมกิจกรรม ปล่อยผึ้งชันโรงคืนสู่ธรรมชาติ จากแมลงผสมเกสรตัวจิ๋วที่ไม่มีเหล็กในและไม่ต่อย จึงเป็นมิตรกับคนและสัตว์ ชุมชนบ้านไหนหนังใช้การเลี้ยงผึ้งชันโรงเป็นส่วนหนึ่งของการฟื้นฟูระบบนิเวศ เพราะผึ้งชันโรงมีบทบาทสำคัญในการผสมเกสรพืช ช่วยเพิ่มผลผลิตและความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ป่าโกงกางและสวนผลไม้

นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้ตั้งแต่การสังเกตรังผึ้งธรรมชาติ วิธีเพาะเลี้ยงในกล่องไม้ ไปจนถึงการปล่อยผึ้งกลับคืนสู่ป่าอย่างถูกวิธี พร้อมฟังเรื่องราวการนำ น้ำผึ้งชันโรง มาใช้เป็นอาหารและสมุนไพร ซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการสูงและเป็นที่ต้องการในตลาดสุขภาพ

หลังจากเต็มอิ่มกับกิจกรรมในชุมชนบ้านไหนหนัง ก็ถึงเวลาเดินทางเข้าพักที่ Varana Hotel Krabi โรงแรมหรูที่ผสมผสานแนวคิด Wellness & Sustainability ไว้อย่างลงตัวที่นี่ใช้สถาปัตยกรรมการออกแบบให้สอดรับกับสภาพภูมิอากาศท้องถิ่น ช่วยลดการใช้พลังงานโดยอาศัยการระบายอากาศตามธรรมชาติและการจัดวางอาคารให้รับลมทะเลอย่างเต็มที่ กระจกและผนังเลือกใช้วัสดุที่ช่วยลดความร้อน ทำให้ผู้เข้าพักรู้สึกเย็นสบายแม้ในวันที่แดดแรง พลังงานสะอาดและการจัดการทรัพยากรอย่างมีระบบ

โรงแรมใช้ ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Energy) เป็นแหล่งพลังงานทดแทน ควบคู่กับระบบจัดการน้ำฝนและน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดเพื่อนำกลับมาใช้ซ้ำในงานสวนและทำความสะอาด ลดการใช้น้ำประปาอย่างสิ้นเปลือง

การลดขยะและผลิตภัณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทุกห้องพักใช้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกและบรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้เพื่อลดขยะพลาสติก โรงแรมมีนโยบาย “No Single-Use Plastic” และส่งเสริมการแยกขยะอย่างเคร่งครัด ทั้งยังมีการคัดสรรวัตถุดิบจากผู้ผลิตในท้องถิ่นเพื่อลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ด้วย

ปิดท้ายก่อนพักผ่อน กับการชมวิวมุมมอง 360 องศา สัมผัสความงดงามของทะเลกระบี่แบบเต็มตา ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นทั้งทิวเขาหินปูน น้ำทะเลสีฟ้าใส และหมู่เกาะที่เรียงรายสุดสายตา โดยเฉพาะช่วงเย็นที่พระอาทิตย์ค่อย ๆ ลับขอบฟ้า แสงสีทองสาดกระทบผิวน้ำ

ร้านเขาทองฮิลล์ อาหารท้องถิ่นและแนวคิด Zero Waste ดำเนินงานภายใต้แนวคิด Zero Waste โดยลดการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว เลือกใช้ภาชนะที่นำกลับมาใช้ซ้ำได้ และจัดการเศษอาหารอย่างมีระบบเพื่อทำปุ๋ยหมัก นอกจากนี้ยังคัดสรร วัตถุดิบเกษตรอินทรีย์ จากชาวบ้านในพื้นที่ เช่น ผักสด ผลไม้ และอาหารทะเลจากชุมชนประมงพื้นบ้าน เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่นและลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์

เส้นทางการเดินทางทั้งหมดนี้ ททท. ต้องการนำเสนอ จังหวัดกระบี่ ในฐานะหนึ่งใน “เส้นทางสีเขียว” ภายใต้โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว Green Tourism อย่างยั่งยืน เพื่อยกระดับภาพลักษณ์จาก “เมืองท่องเที่ยว” สู่ “เมืองสีเขียว” และจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก สอดคล้องกับมาตรฐานสหภาพยุโรป (EU) ครอบคลุมมิติสิ่งแวดล้อม สังคม เศรษฐกิจ และระบบการจัดการ พร้อมการรับรองมาตรฐานสากล

เส้นทางกระบี่เป็นหนึ่งใน 10 เมืองสีเขียว และ 20 เส้นทางท่องเที่ยวยั่งยืนที่ได้รับการคัดสรร ไม่เพียงโดดเด่นด้านธรรมชาติและวัฒนธรรม แต่ยังมาพร้อมสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีคุณภาพ พร้อมต่อยอดสู่ตลาดนักท่องเที่ยวยุโรป

ภาพโดย: ธนาชัย ประมาณพาณิชย์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง