โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

เงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย เปิดที่ 32.28 บาท/ดอลลาร์ ตลาดระวัง Two-Way Risk

สยามรัฐ

อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย เปิดที่ 32.28 บาท/ดอลลาร์ ตลาดระวัง Two-Way Risk

วันที่ 8 สิงหาคม 2568 นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) ทยอยแข็งค่าขึ้นบ้าง ในลักษณะ Sideways Down (แกว่งตัวในกรอบ 32.27-32.39 บาทต่อดอลลาร์) สอดคล้องกับการทยอยอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ ที่มาพร้อมกับการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องของราคาทองคำ (XAUUSD) ซึ่งปรับตัวขึ้นเข้าใกล้โซนแนวต้าน 3,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยแม้ว่าบรรดาผู้เล่นในตลาดจะยังไม่ได้ปรับเปลี่ยนมุมมองต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดอย่างมีนัยสำคัญ (ให้โอกาสเฟดลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ ราว 42% และโอกาสลดดอกเบี้ยเพิ่มอีก 3 ครั้ง ในปีหน้า ราว 79%) ทว่า เงินดอลลาร์ก็เผชิญแรงกดดันจากการแข็งค่าขึ้นของเงินปอนด์อังกฤษ (GBP) หลังธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) มีมติไม่เป็นเอกฉันท์ 5-4 ให้ลดดอกเบี้ย 25bps สู่ระดับ 4.00% ตามคาด (ต้องมีการโหวตถึง 2 รอบ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การประชุม BOE) และส่งสัญญาณดำเนินนโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง (ไม่ลดดอกเบี้ยเร็วหรือมากเกินไป) ทำให้ผู้เล่นในตลาดประเมินว่า การลดดอกเบี้ยครั้งนี้ของ BOE คือ Hawkish Cut และปรับมุมมองใหม่ว่า BOE มีโอกาสราว 71% ที่จะลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีก 1 ครั้ง ในปีนี้ นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ยังเผชิญแรงกดดันจากประเด็นการแต่งตั้ง Board of Governor (BoG) ของเฟด คนใหม่ โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งจะมาแทน Adriana Kugler ที่ลาออกไป โดยผู้เล่นในตลาดมองว่า BoG คนใหม่ อาจมีแนวโน้มสนับสนุนการเดินหน้าลดดอกเบี้ยของเฟด และสะท้อนความพยายามเข้ามาแทรกแซงการทำงานของธนาคารกลางจากฝั่งการเมืองสหรัฐฯ

บรรยากาศตลาดหุ้นสหรัฐฯ พลิกกลับมาอยู่ในภาวะระมัดระวังตัว และยังไม่รีบเดินหน้าเปิดรับความเสี่ยงเพิ่มเติม หลังผู้เล่นในตลาดต่างรอรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม และผู้เล่นในตลาดบางส่วนก็เลือกจะทยอยขายทำกำไรออกมาบ้าง นอกจากนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังเผชิญแรงกดดันจากการปรับตัวลงของหุ้นบริษัทยาขนาดใหญ่ อย่าง Eli Lilly -14.1% หลังบริษัทรายงานผลการทดลองยาลดน้ำหนักที่น่าผิดหวัง ส่งผลให้ ดัชนี S&P500 ปิดตลาด -0.08%

ทางฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 พลิกกลับมาปรับตัวขึ้นกว่า +0.92% โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของบรรดาหุ้นกลุ่มธนาคารและการเงิน รวมถึงหุ้นธีม AI/Semiconductor อย่าง ASML +3.0% นอกจากนี้ ข่าวผลการทดลองยาลดน้ำหนักของ Eli Lilly ที่ออกมาน่าผิดหวัง ได้หนุนให้ ราคาหุ้นบริษัทยาคู่แข่ง อย่าง Novo Nordisk พุ่งขึ้น +6.7% หนุนการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นยุโรป ขณะเดียวกัน ความหวังต่อแนวโน้มการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ก็มีส่วนช่วยหนุนบรรยากาศโดยรวมของตลาดหุ้นยุโรป

ส่วนในฝั่งตลาดบอนด์ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย แต่โดยรวมยังอยู่แถวระดับ 4.20%-4.25% หลังผู้เล่นในตลาดต่างรอรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม นอกจากนี้ ผลการประมูลบอนด์ 30 ปี ซึ่งสะท้อนความต้องการของผู้เล่นในตลาดที่น้อยลง ก็มีส่วนกดดันให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นบ้าง แต่การปรับตัวขึ้นก็เป็นไปอย่างจำกัด ท่ามกลางภาวะระมัดระวังตัวของผู้เล่นในตลาด อีกทั้ง มุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดก็ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงชัดเจน อนึ่ง เรามองว่า ควรระวังความเสี่ยงที่ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ อาจปรับตัวสูงขึ้นต่อได้บ้าง หากตลาดทยอยปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด หรือบรรยากาศในตลาดการเงินยังคงอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง โดยเราคงมุมมองเดิมว่า ผู้เล่นในตลาดควรรอจังหวะบอนด์ยีลด์ระยะยาวสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น ในการทยอยเข้าซื้อ ส่วนผู้ที่มีสถานะลงทุนในบอนด์ระยะยาว ก็สามารถ Let Profits Run ได้ เนื่องจากเราคงคาดการณ์ว่า บอนด์ยีลด์ระยะยาวสหรัฐฯ ยังมีแนวโน้มทยอยปรับตัวลดลง ตามการเดินหน้าลดดอกเบี้ยของเฟด

ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์ทยอยอ่อนค่าลง หลังเงินปอนด์อังกฤษ (GBP) แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ตอบรับการลดดอกเบี้ย Hawkish Cut ของ BOE ซึ่งทำให้ผู้เล่นในตลาดมองว่า BOE อาจยังไม่เร่งรีบเดินหน้าลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม สวนทางกับเฟดที่มีแนวโน้มเดินหน้าลดดอกเบี้ย 2-3 ครั้ง ของเฟดในปีนี้ และลดดอกเบี้ยอีกเกือบ 3 ครั้ง ในปีหน้า ส่งผลให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ปรับตัวลดลง สู่ระดับ 98.1 จุด (แกว่งตัวในกรอบ 98.0-98.5 จุด) ในส่วนของราคาทองคำ บรรยากาศระมัดระวังตัวของตลาดการเงินสหรัฐฯ และการทยอยอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ ได้หนุนให้ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. 2025) ปรับตัวสูงขึ้นสู่โซน 3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อีกครั้ง

สำหรับในช่วง 24 ชั่วโมงหลังจากนี้ แม้จะไม่มีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ ทว่า ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน ส่วนในฝั่งยุโรป ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ BOE เพื่อประกอบการประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของ BOE และในฝั่งไทย สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา ก็จะเป็นอีกปัจจัยที่ผู้เล่นในตลาดต่างรอติดตามเช่นกัน


สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทก็อาจถูกชะลอแถวโซนแนวรับ 32.30 บาทต่อดอลลาร์ ได้ หลังราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องทดสอบโซนแนวต้าน ซึ่งหากราคาทองคำไม่สามารถปรับตัวขึ้นต่อได้ชัดเจน เนื่องจากขาดปัจจัยสนับสนุนใหม่ๆ เพิ่มเติม เรามองว่า จังหวะการย่อตัวลงบ้างของราคาทองคำก็อาจพอช่วยชะลอการแข็งค่าขึ้นของเงินบาทได้ และหากราคาทองคำปรับตัวลงชัดเจน ก็จะสามารถเป็นอีกปัจจัยที่กดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงได้เช่นกัน ซึ่งภาพดังกล่าวอาจเกิดขึ้น ในจังหวะที่ตลาดการเงินกลับมาเดินหน้าเปิดรับความเสี่ยง หรือผู้เล่นในตลาดทยอยปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งจะหนุนให้เงินดอลลาร์รีบาวด์แข็งค่าขึ้นได้เช่นกัน โดยเรามองว่า อาจต้องรอจับตารายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ในระยะข้างหน้า โดยเฉพาะรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI รวมถึงถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด

ทั้งนี้ เราคงมุมมองเดิมว่า เงินบาทเสี่ยงเผชิญความผันผวน Two-Way risk (พร้อมเคลื่อนไหวได้ทั้งสองทิศทาง) ขึ้นกับการปรับมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด ในเชิงเทคนิคัล เงินบาทยังคงมีโซนแนวรับแถว 32.30 บาทต่อดอลลาร์ (แนวรับถัดไป 32.10 บาทต่อดอลลาร์) ส่วนโซนแนวต้านได้ขยับลงมาแถว 32.50 บาทต่อดอลลาร์ และมีโซน 32.65 บาทต่อดอลลาร์ เป็นแนวต้านถัดไป เรายังคงมีความกังวลเดิม คือ ความผันผวนของเงินบาทที่อาจกลับมาสูงขึ้นได้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของการดำเนินนโยบายการค้าของสหรัฐฯ และสถานการณ์การเมืองไทย ซึ่งเรามองว่า ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ Options เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.20-32.40 บาท/ดอลลาร์

#เงินบาท #ค่าเงินบาทวันนี้ #อัตราแลกเปลี่ยน #KrungthaiGlobalMarkets #ตลาดเงิน #เศรษฐกิจโลก #ดอกเบี้ยเฟด #ตลาดหุ้น #ทองคำ #ความผันผวนเงินบาท

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สยามรัฐ

Dragkooler เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ “Prune Anti Acne Cooling Clear Gel” เจลเย็นแต้มสิวลูกพรุน ชูจุดขาย อ่อนโยนแต่เอาอยู่

14 นาทีที่แล้ว

“บิ๊กเล็ก” เผยวงจีบีซี กัมพูชาให้ความร่วมมือ แม้ยังไม่รับข้อเสนอเก็บทุ่นระเบิด ระบุ มาเลย์ให้คำมั่น สหรัฐฯ-จีน ไม่แทรกแซง ย้ำ ไทยขอผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวเท่านั้น

18 นาทีที่แล้ว

"รมช.กลาโหม" ลั่น! จะจี้ถามข้อตกลง "เก็บกู้ระเบิด-ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์" จนกว่า "กัมพูชา" จะยอมรับ

23 นาทีที่แล้ว

ขับเคลื่อนนวัตกรรมด้านการท่องเที่ยวไทยและเกาหลีใต้ จัดขึ้นภายใต้งาน Techsauce Global Summit 2025

24 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

ธุรกิจอาหาร ไทยเบฟ ขยายตลาดส่งออกอาหารสำเร็จรูปฯ ลุยอาเซียน-ยุโรป

การเงินธนาคาร

“คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์” ขึ้นแท่นตัวเต็งนั่งเก้าอี้ “ประธานเฟดคนใหม่” ในยุครัฐบาลทรัมป์

การเงินธนาคาร

CPAXT เปิดผลงานครึ่งปีแรก 68 รายได้ 259,030 ล้านบาท ออนไลน์โตเด่น 34%

การเงินธนาคาร

นายกฯ อินเดียไม่อ่อนข้อภาษีทรัมป์ ย้ำชาวนาในประเทศต้องมาก่อน

PPTV HD 36

Krungthai GLOBAL MARKETS เผยค่าบาทเปิดที่ 32.28-ตลาดรอลุ้นผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน

Manager Online

ไข่ไก่-กุ้งล้นตลาด พาณิชย์เร่งเชื่อมโยงผลผลิต สกัดราคาตก

ประชาชาติธุรกิจ

D กำไร Q2/68 โต 27% อานิสงส์งานเทรดดิ้งโต 50% – พร้อมลุยงานประมูลเต็มสูบ

การเงินธนาคาร

TNL มั่นใจรายได้-กำไรครึ่งปีหลังโตต่อเนื่อง

Manager Online

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...