เกษียณวัย 45 ปี บรรทัดฐานทำงาน คนรุ่นใหม่ เลิกคิด Work Life Balance
ข่าวใหญ่สะเทือนมนุษย์เงินเดือน คนทำงาน คือ การประกาศจากธนาคารยักษ์ใหญ่ของไทยอย่าง “กสิกรไทย” หรือ KBANK สำหรับ “โครงการเออร์ลี่รีไทร์” (Early Retire) ปี 2568 “เกษียณก่อน เกษมสุข” ซึ่งเปิดให้พนักงานอายุ 45 ปีขึ้นไป “เกษียณก่อน” โดยมีการมอบสิทธิประโยชน์เป็นค่าชดเชยตามอายุงาน บวกกับเงินช่วยเหลือพิเศษระยะเวลา 8-12 เดือน จะเริ่มวันที่ 15 สิงหาคม - 7 ตุลาคม 2568 และมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2568
ประเด็นร้อน และโลกโซเชียล ประชาชน รวมถึงนักธุรกิจชั้นนำของเมืองไทย ได้ออกมาแสดงความเห็นหลากมิติแตกต่างกันออกไป เช่น อายุ 45 คือช่วงเวลา “ครึ่งทาง” ของชีวิตการทำงาน อายุ 45 ปี อยู่ในโหมดต้องเกษียณจากการทำงานแล้ว เหตุการณ์นี้เป็นเวลาของการปรับตัว การมองเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์(เอไอ)ทรงอิทธิพลในโลกทำงาน ใดๆ นี่เป็นเหตุการณ์ที่สะท้อน “ความไม่มั่นคงในโลกการทำงาน” ด้วย
อีกบุคคลแถวหน้าที่มีทัศนะต่อเรื่อง “เกษียณในวัย 45 ปี” คือ ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ นายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ดังนี้
ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ
..ถ้าการเกษียณที่อายุ 45 ปี เป็นบรรทัดฐานของคนรุ่นใหม่ เราต้องออกแบบชีวิตอย่างไรดี
- ควรเรียนในระบบแค่ 15 ปี เพราะต้องเร่งเป็นผู้ใหญ่
- ช่วงอายุ 15-25 เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย สร้าง portfolio สร้างอาชีพ เริ่มเก็บเงิน และใช้เงินทำงาน
- อายุ 25-35 เลือกงานเพื่อสร้าง profile ประสบการณ์ ย้ายงาน เปลี่ยนตำแหน่ง ทุก 2 ปี ให้ได้สัก 3-4 ครั้ง ทำในงานที่ส่วนใหญ่คนอื่นทำไม่ได้
- อายุ 35 ปีขึ้นเป็น CEO หรือไม่ก็ออก เพื่อไปเปิดบริษัทเอง อาจดูเหมือนเสี่ยงแต่ก็ดีกว่าอยู่รอไปอีก 10 ปี ที่อาจจะเสี่ยงกว่า
- อายุ 45 ปีเกษียณ พร้อมมี passive income ก้อนหนึ่ง เพราะเราไม่ได้เป็นรัฐสวัสดิการ
- หลังอายุ 45 ปี ทำงาน Freelance ดูแลสุขภาพ ย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดหรือประเทศที่มีค่าครองชีพต่ำ
- เลิกคิด work life balance ทำบ้าน ทำคอนโดมิเนียม ให้เป็น Home office ควรมี Second Job , Third Job และ AI เป็นผู้ช่วย และเพื่อนร่วมงาน
#โลกเปลี่ยนเราแค่ปรับ
อย่างไรก็ตาม ความเห็นของบุคคลแถวหน้า และคร่ำหวอดในวงการธุรกิจ เป็นเสมือนคำแนะนำให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ และยังเป็นแนวทางในการรับมือ ซึ่งในโลกของการทำงาน ล้วนเผชิญเหตุการณ์เหล่านี้ได้ทุกเมื่อ
พิสูจน์อักษร….สุรีย์ ศิลาวงษ์