3 แหล่งอาหารป้องกัน “เบื่ออาหารในผู้สูงอายุ” มังสวิรัติ เลือกกินอย่างไร?
ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงที่จะได้รับพลังงานและสารอาหารที่ไม่เพียงพอจากภาวะเบื่ออาหาร ซึ่งมาจากหลายสาเหตุ ทั้งทางร่างกายและจิตใจ เช่น การรับกลิ่นและรสที่เปลี่ยนแปลง ฮอร์โมนควบคุมความหิวและความอิ่มที่ไม่สมดุล ระบบทางเดินอาหารที่เคลื่อนไหวช้าลง การอักเสบที่เพิ่มขึ้น ภาวะซึมเศร้า เป็นต้น นอกเหนือจากภาวะเบื่ออาหารแล้ว ระบบทางเดินอาหารของผู้สูงอายุยังดูดซึมสารอาหารได้ลดลง ทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะขาดวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ
ประโยชน์ “มะละกอ” อุดมด้วยวิตามินและเอนไซม์ปาเปน กินแต่พอดีช่วยสุขภาพ
เทคนิคเลือกอาหารเพื่อสุขภาพชะลอวัย ป้องกันโรคจากวัยทอง
ซึ่งสารอาหารเหล่านี้มีบทบาทสำคัญต่อการทำงานภายในร่างกาย และอาจส่งผลต่อความอยากอาหารของผู้สูงอายุ
อาหารป้องกันภาวะเบื่ออาหารในผู้สูงอายุ
สังกะสี (Zinc)
เป็นแร่ธาตุตัวหนึ่งที่มีความสำคัญต่อทั้งการเจริญเติบโตและภูมิคุ้มกัน ปริมาณสังกะสีที่ผู้สูงอายุต้องการต่อวันคือ 10.9 มิลลิกรัมในผู้ชายและ 8.6 มิลลิกรัมในผู้หญิง อาการหนึ่งของภาวะขาดสังกะสี คือ การรับรสที่ผิดปกติ (Dysgeusia) ทำให้อาหารส่วนใหญ่ที่รับประทานมีรสขมหรือรสโลหะ และสามารถนำไปสู่ภาวะเบื่ออาหารได้
เนื่องจากสังกะสีมีส่วนช่วยในการสร้างและรักษาเนื้อเยื่อบุผิว ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นผม ผิว เล็บ ในส่วนของการรับกลิ่นและรส เนื้อเยื่อรับกลิ่น และปุ่มรับรสที่ลิ้น มีโครงสร้างเป็นเนื้อเยื่อบุผิวเช่นกัน อีกทั้งเอนไซม์จำนวนมากมีสังกะสีเป็นส่วนประกอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณรูรับรส นอกจากนี้สังกะสียังมีความสำคัญในการสังเคราะห์ DNA ซึ่งมีบทบาทในการสร้างโปรตีน เมื่อร่างกายขาดสังกะสี การสร้างปุ่มรับรสทดแทนจึงทำได้ช้าลง เกิดปัญหาในการรับรสได้
- แหล่งอาหารของสังกะสี ได้แก่ เนื้อสัตว์ ปลาและอาหารทะเล
- อาหารมังสวิรัติ ได้แก่ ธัญพืชไม่ขัดสีต่าง ๆ เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ถั่วเมล็ดแห้ง ถั่วเปลือกแข็ง เมล็ดพืชต่าง ๆ รวมถึงผลิตภัณฑ์ของธัญพืช เช่น เต้าหู้ เทมเป้ ขนมปังธัญพืช เป็นต้น
ธาตุเหล็ก (Iron)
เป็นแร่ธาตุที่อยู่ในโครงสร้างของฮีโมโกลบิน ส่วนประกอบสำคัญของเม็ดเลือดแดงซึ่งมีหน้าที่พาออกซิเจนไปทั่วร่างกาย การขาดธาตุเหล็กจึงเป็นสาเหตุสำคัญของภาวะโลหิตจางโดยปริมาณธาตุเหล็กที่แนะนำในผู้สูงอายุ คือ 11 มิลลิกรัมในผู้ชาย และ 10 มิลลิกรัมในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน
ภาวะเบื่ออาหารพบได้บ่อยในผู้สูงอายุที่มีภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก การศึกษาในปี ค.ศ. 2020 ที่ตีพิมพ์ลงในวารสาร PLOS ONE พบว่า ผู้ที่มีภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก จะมีระดับของฮอร์โมนเกรลิน (Ghrelin) ต่ำกว่าคนที่ไม่มีภาวะโลหิตจาง ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความอยากอาหาร อย่างไรก็ตาม ภาวะโลหิตจางอาจเกิดจากสาเหตุอื่นที่ไม่ใช่การขาดธาตุเหล็ก เช่น การขาดวิตามินบี 12 การขาดโฟเลต โรคเรื้อรัง หรือการใช้ยาบางชนิด เป็นต้น
- แหล่งอาหารของธาตุเหล็ก ได้แก่ เนื้อสัตว์ ไข่
- อาหารมังสวิรัติ ธัญพืช ถั่วเมล็ดแห้ง ผักใบเขียวเข้มบางชนิด เช่น ผักโขม เป็นต้น
โดยเนื้อสัตว์จะมีธาตุเหล็กในรูปฮีมถูกดูดซึมได้ดีกว่าธาตุเหล็กที่ไม่มีฮีม ซึ่งมักพบในพืช การรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กคู่กับผักผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง จะช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น
วิตามินซี (Ascorbic acid)
เป็นวิตามินที่มีความสำคัญในการต้านอนุมูลอิสระ สังเคราะห์คอลลาเจนและช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก ปริมาณวิตามินซีที่ผู้สูงอายุต้องการต่อวันคือ 100 มิลลิกรัมในผู้ชาย และ 85 มิลลิกรัมในผู้หญิง โรคที่เกิดจากการขาดวิตามินซีที่รู้จักกันดีคือ โรคลักปิดลักเปิด (Scurvy) ซึ่งหนึ่งในอาการนำของภาวะนี้คือ ความอยากอาหารลดลง
หนึ่งในโรคทางช่องปากที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ คือ โรคปริทันต์ เกิดจากภาวะเหงือกอักเสบที่ไม่ได้รับการรักษา สามารถนำไปสู่ภาวะเบื่ออาหาร จากความเจ็บปวดและปัญหาการเคี้ยวอาหาร หากปล่อยทิ้งไว้จะเกิดการสะสมของแบคทีเรียที่บริเวณนั้น จนอาจทำให้สูญเสียฟันได้ในที่สุด งานวิจัยที่ศึกษาประชากร 12,419 คน พบว่า การบริโภควิตามินซีที่ลดลง เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคปริทันต์ถึง 19% และหากเป็นผู้ที่สูบบุหรี่มาก่อน ความเสี่ยงจะยิ่งเพิ่มขึ้นอีก
แหล่งอาหารของวิตามินซี ได้แก่ ผักผลไม้ เช่น ฝรั่ง มะขามป้อม มะขามเทศ เงาะ มะละกอ ส้มโอ พริกหวาน คะน้า บรอกโคลี เป็นต้น
แม้วิตามินและแร่ธาตุจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับภาวะเบื่ออาหารของผู้สูงอายุ แต่การเสริมวิตามินในรูปแบบของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารควรจะอยู่ในความดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้สูงอายุท่านนั้นได้เสริมวิตามินหรือแร่ธาตุตัวที่ร่างกายขาด และสามารถป้องกันอันตรายจากการได้รับวิตามินและแร่ธาตุเกินขนาดได้
ขอบคุณข้อมูลจาก : BDMS Wellness Clinic