'ฮุน มาเนต'ลั่นรอผู้มีอำนาจที่แท้จริงของไทย เข้ามาแก้ไขปัญหากับกัมพูชา
นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชาได้แสดงความผิดหวังและเยาะเย้ยต่อความคิดเห็นของนักการเมืองไทยที่กล่าวว่าปัญหาภายในของไทยในปัจจุบันมีสาเหตุมาจากการวางแผนของกัมพูชา จากการรายงานของสำนักข่าว Koh Santepheap Daily ของกัมพูชา
ฮุน มาเนต ได้กล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเฉลิมฉลองวันปลาแห่งชาติและการปล่อยปลาประมาณ 1.5 ล้านตัวลงในทะเลสาบโตนเลบาตี จังหวัดตาแก้ว เมื่อเช้าวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 โดยกล่าวว่าที่ผ่านมากัมพูชาได้อดทนเป็นอย่างมากเพราะไม่ต้องการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น แต่กลับโยนความผิดและกดดันกัมพูชา และยังกล่าวหาว่ากัมพูชาเป็นผู้วางแผนความขัดแย้งภายในในประเทศไทย
ฮุน มาเนต กล่าวว่ากัมพูชาไม่ได้แทรกแซงกิจการภายในของไทยตามที่ไทยกล่าวหา ดังนั้นโปรดหยุดวาดภาพกัมพูชาในเชิงลบ
ขณะเดียวกัน ฮุน มาเนต ยังได้ตั้งคำถามว่า ปัญหาของไทยกำลังเผชิญอยู่เกิดจากการบงการของกัมพูชาจริงหรือ?
ขณะเดียวกัน ฮุน มาเนต กล่าวว่ากัมพูชาจะเดินหน้าแก้ไขปัญหาชายแดนโดยสันติและเป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ อย่ามองว่ากัมพูชานิ่งเฉย อย่าคิดว่ากัมพูชากลัวตัวเอง กัมพูชามีศักยภาพที่จะตอบโต้ได้ทุกเมื่อ
นอกจากนี้ ฮุน มาเนต ยังเน้นย้ำว่ากัมพูชาจะไม่นิ่งเฉย กัมพูชากำลังรอผู้มีสิทธิ์ที่แท้จริง ผู้มีอำนาจที่แท้จริงของไทย เข้ามาแก้ไขปัญหากับกัมพูชา ปัญหาชายแดนจะแก้ไขได้ก็ต่อเมื่อไทยเปิดจุดผ่านแดนอีกครั้งฝ่ายเดียว
นอกจากนี้ ฮุน มาเนต ยังกล่าวอีกว่ากัมพูชาไม่จำเป็นต้องโอ้อวดเหมือนคนอื่น ๆ โดยบอกว่าภายใน 5 นาที เครื่องบินจะทิ้งระเบิด หรือต้องการยึดจังหวัดนี้หรือจังหวัดนั้นของกัมพูชา กัมพูชาขอเพียงสิทธิในการป้องกันตัวเอง แต่ในการป้องกันก็มีกลยุทธ์ตอบโต้ด้วย
หัวหน้ารัฐบาลกัมพูชาย้ำอีกครั้งว่า พื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และช่องบก ยังเป็นพื้นที่ที่ยังไม่มีการเจรจากันอย่างเต็มรูปแบบ และไม่มีใครสามารถอ้างสิทธิได้ฝ่ายเดียว ดังนั้น จึงขอให้ฝ่ายไทยดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ)
รายงานโดย Koh Santepheap Daily แปลและเรียบเรียงโดยทีมข่าวต่างประเทศ The Better
Photo*- ประธานวุฒิสภาและประธานพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ฮุน เซน (ซ้าย) พูดคุยกับฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา (ขวา) ในพิธีเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 74 ปีการก่อตั้งพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ในกรุงพนมเปญ เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2025 (ภาพโดย TANG CHHIN Sothy / AFP)*