เปิดตัว Volvo EX30 Cross Country ขุมพลังมอเตอร์คู่ เริ่มต้น 1.89 ล้าน
วอลโว่ เปิดตัว Volvo EX30 Cross Country รถไฟฟ้า SUV ขนาดเล็ก ต่อยอดจากรุ่นมาตรฐานอย่าง EX30 ถูกออกแบบตกแต่งให้มีสไตล์สายลุยและบึกบึนมากขึ้น จองได้ทางออนไลน์บนเว็บไซต์ Volvo Car website และจัดแสดงคันจริงในงาน Fast Auto Show Thailand 2025 ระหว่างวันที่ 2-6 กรกฎาคม ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา, ฮอลล์ BH102-103 บูธวอลโว่ (B4)
ราคา Volvo EX30 Cross Country
เริ่มต้น 1,890,000 บาท
การอัปเกรดใน Volvo EX30 Cross Country
- กระจังหน้าแบบใหม่ที่เพิ่มลวดลายกราฟิกเฉพาะตัว ซึ่งแสดงภาพภูมิประเทศของเทือกเขาเค็บเนอไคเซ ทางตอนเหนือของสวีเดน พร้อมแสดงตำแหน่งละติจูด ลองติจูดของเทือกเขาบนลวดลาย
- ล้อดีไซน์ใหม่สำหรับรุ่น Cross Country ขนาด 19” นิ้ว แบบ 5 ก้าน สีเทากราไฟต์ด้านและดำด้าน มาพร้อมยาง Summer tires ขนาดใหญ่ 720 มม. (235/50/19) เพิ่มมิติและลุคที่ดูลุย
- ดีไซน์แผ่นกันกระแทกหน้าและหลังด้วยสีเทา (Vapour Grey) แบบด้าน
- ดีไซน์แผงด้านหลังตกแต่งด้วยผิวสีดำด้าน
- กันชนล่างด้านหลังและบริเวณเสา C เสริมเอกลักษณ์เฉพาะรุ่นด้วยโลโก้ Cross Country บ่งบอกความพิเศษของรุ่น
- ดีไซน์กันชนหน้าและส่วนขยายซุ้มล้อสีดำด้านรูปแบบใหม่
- เบาะใหม่ในสี "Pine" สีเขียวที่มอบความรู้สึกอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ และยังมีตัวเลือกเบาะสี “Indigo” โทนน้ำเงินเข้ม ที่ให้ความรู้สึก สุขุม และมีเอกลักษณ์
- เพิ่มความสูงจากพื้นถนนถึง 19 มม. (12 มม. จากแชสซี และ 7 มม. จากล้อ) เพื่อรองรับการขับขี่ในทุกสถานการณ์มากขึ้น
- ปรับจูนระบบการขับขี่ช่วงล่างเพิ่มความนุ่มนวลและความสบาย พร้อมประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนในทุกรูปแบบการขับขี่
- เพิ่มฟีเจอร์ระบบทำความร้อนที่เบาะนั่งคู่หน้าและพวงมาลัย
- ระบบขับเคลื่อน Twin Motor Performance (พลังการขับเคลื่อนเท่ากับรุ่น EX30 Twin Motor Performance)
ขุมพลังและการขับเคลื่อน
Volvo EX30 Cross Country เป็นรถ SUV ขนาดเล็ก ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% AWD พละกำลัง 428 แรงม้า (315 kW) แรงบิดสูงสุด 543 นิวตันเมตร ที่สามารถขับขี่ได้ไกลสูงสุด 490 กิโลเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในระยะเวลา 3.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม. เกียร์เป็นแบบ Single Speed มิติตัวรถความยาว 4,233 มม. กว้าง 1,838 มม. และสูง 1,567 มม. ระยะฐานล้อ 2,650 มม.
ระบบการชาร์จไวจาก 10 – 80% ภายในเวลาเพียง 28 นาที (รองรับกำลังไฟสูงสุด DC 175 kW, AC 11 kW) ปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ อัตราการใช้ไฟฟ้า มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (All-Wheel Drive) ดีไซน์ฝากระโปรงหน้าและท้ายที่ถูกตกแต่งด้วยสีดำ กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ที่ถูกแต่งเติมลวดลายกราฟิก แรงบันดาลใจจากภูมิประเทศของเทือกเขาเค็บเนอไคเซ (Kebnekaise) ในเขตอาร์กติกของสวีเดน โครงกันกระแทกด้านหน้า–ด้านหลัง และขอบล้อแบบเสริมดีไซน์พิเศษ
ระบบความปลอดภัย
- ระบบป้องกันการชน พร้อมฟังก์ชันหยุดรถ
- สัญญาณเตือนมุมอับสายตา
- ระบบแจ้งเตือนรถตัดผ่านด้านหน้า และเบรกอัตโนมัติ
- ถุงลมนิรภัยด้านหน้าและด้านข้างสำหรับที่นั่งคู่หน้า
- ถุงลมนิรภัยระหว่างผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า
- ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง
- ระบบป้องกันการบาดเจ็บของกระดูกต้นคอและหลัง
- ระบบกระจายแรงกระแทกจากการชนด้านข้าง
ระบบช่วยเหลือการขับขี่
- ไฟหน้าสูง-ต่ำอัตโนมัติ
- ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน ฟังก์ชันหยุดและออกตัวอัตโนมัติ
- ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเลน
- ระบบแจ้งเตือนมีรถวิ่งผ่านขณะเปิดประตู
- จอกลางขนาด 12.3 นิ้ว
- ระบบช่วยขึ้น-ลงทางลาดชัน
- เซ็นเซอร์ช่วยจอด ด้านหน้า และด้านหลัง
- กล้องมุมมอง 360 องศา
- ระบบช่วยจอด
สิ่งอำนวยความสะดวก
- ระบบควบคุมคุณภาพอากาศภายในรถ เซ็นเซอร์วัดค่า PM2.5
- ระบบกรองอากาศภายในห้องโดยสาร
- ระบบปรับอากาศ 2 โซน
- เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า
- เบาะหลังปรับได้ 60/40
- พาโนรามิกซันรูฟ
- ฝาท้ายแบบไฟฟ้า
- ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย
- ไฟส่องสว่างภายในปรับเปลี่ยนธีมได้
ระบบเครื่องเสียง
- Digital Services (Google Assistant, Google Maps, Google Play)
- แอปพลิเคชันสำหรับควบคุมรถ
- Apple CarPlay
- เครื่องเสียง Harman Kardon พร้อม Soundbar กำลังขับ 1040 วัตต์ ลำโพง 9 ตัว (คอมแพค วูฟเฟอร์ และซับวูฟเฟอร์)
ภายในห้องโดยสาร EX30 Cross Country ถ่ายทอดเทคโนโลยีจากรุ่นมาตรฐาน และหนึ่งในดีไซน์ที่น่าสนใจคือการย้ายลำโพงจากบริเวณแผงประตูมาติดตั้งรวมไว้บนซาวด์บาร์บริเวณคอนโซลหน้า เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของขนาดใหญ่ตรงประตูให้สามารถใส่สัมภาระชิ้นใหญ่ได้มากขึ้น
พื้นที่เก็บของส่วนกลางระหว่างผู้ขับและผู้โดยสารออกแบบให้ใช้งานได้หลากหลาย ที่วางแก้วสามารถเลื่อนพับเก็บได้เมื่อไม่ใช้งาน พร้อมช่องเก็บของขนาดใหญ่ส่วนล่างระหว่างเบาะหน้าผู้ขับและผู้โดยสาร และช่องเก็บของหน้ารถ (Glove compartment) ถูกย้ายมาไว้ใต้คอนโซลกลาง บริเวณช่องใส่สัมภาระตรงกลางมีช่องเก็บของสำหรับผู้โดยสารด้านหลังที่สามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้ อีกทั้งบริเวณพื้นที่ใส่สัมภาระท้ายรถยังมีรายละเอียดที่แสดงถึงความใส่ใจอย่างแผ่นป้าย “Will it fit?” ที่แสดงขนาดการจุสัมภาระ
Google Built-in ติดตั้งภายในรถ สามารถนำทางผ่าน Google Maps ที่พร้อมใช้งานทันที ระบบเบรกและการควบคุมพวงมาลัยได้รับการออกแบบให้สามารถช่วยหลีกเลี่ยงการชนจากด้านหน้า, รถที่สวนทาง, ผู้ใช้ถนน หรือจักรยาน รวมถึงระบบเซนเซอร์ตรวจจับความพร้อมของผู้ขับขี่ แจ้งเตือนเมื่อระบบพบสัญญาณของความเหนื่อยล้า หรือภาวะขาดสมาธิ
การรับประกัน
- รับประกันตัวรถ 3 ปี หรือ 100,000 กม. (เมื่ออย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- บริการช่วยเหลือ 24 ชม. ระยะเวลา 1 ปี
- รับประกันคุณภาพแบตเตอรีแรงดันสูง 8 ปี หรือ 160,000 กม. (เมื่ออย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
และ วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย เตรียมเปิดตัว Volvo Go แคมเปญไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ ผ่านกิจกรรมที่ชวนให้ออกไปใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย รายละเอียดเพิ่มเติมของโปรแกรม Volvo Go เร็ว ๆ นี้