โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ยานยนต์

ตลาดรถหรูไฟฟ้ามาแน่ วิจัยชี้สิ้นปี 2030 โตเกือบเท่าตัว

Manager Online

เผยแพร่ 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา • MGR Online

ที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์พลังไฟฟ้าถูกโฟกัสลงไปที่กลุ่มรถยนต์ระดับกลางถึงล่าง ซึ่งการพัฒนารถยนต์ประเภทนี้ออกสู่ตลาดคือ การช่วยลดค่าพลังงานในการใช้งานแต่ละวัน และเป็นกลุ่มฐานลูกค้าที่มีขนาดใหญ่ ขณะที่แบรนด์รถยนต์ระดับหรูเองก็มีการทำตลาดด้วยเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้มีทางเลือกที่มากหรือเยอะเท่า

อย่างไรก็ตาม มีการเปิดเผยถึงบริษัทวิจัยอย่าง The Business Research Company ได้เปิดเผยรายงานพร้อมระบุว่าตัวเลขของมูลค่าตลาดรถยนต์พลังไฟฟ้าระดับหรูจะขยับจาก 248.38 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มาเป็น 473.96 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2029 อย่างแน่นอน

แม้ว่าจำนวนในเชิงตัวเลขยอดขายรถยนต์จะไม่ได้มาก แต่รถยนต์ที่ถูกขายในแต่ละคันจะมีมูลค่าที่ค่อนข้างมาก และรถยนต์ระดับหรูปลอดภัยจากสงครามตัดราคาที่แบรนด์จีนโหมกระหน่ำเข้ามา รวมถึงแบรนด์รถยนต์จีนที่พยายามบอกตัวเองว่าเป็นพรีเมียมนั้น ยังไม่สามารถก้าวข้ามขึ้นมาแข่งขันกับแบรนด์ระดับหรูของจากยุโรป อเมริกาและญี่ปุ่นได้อย่างเต็มที่

วิจัยชี้ตลาดไฟฟ้าหรูไปได้ดีแน่ในอนาคต

งานวิจัยจำนวน 200 หน้าของ The Business Research Company ที่ถูกเปิดเผยเมื่อต้นปีนี้มีการคาดการณ์ว่าขนาดตลาดรถยนต์ไฟฟ้าระดับหรูจะเติบโตอย่างรวดเร็วในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดยจะเติบโตถึง 473.96 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2029 ด้วยอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR) ที่ 17.5%

ขณะที่งานวิจัยของ Towards Automotive ยืนยันว่า ตัวเลขมูลค่าตลาดจะขยับเป็น 625.38 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2034 หรือมีอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR) ที่ 12.05% ในระหว่างปี 2025-2034

การเติบโตในช่วงคาดการณ์นั้นสามารถอธิบายได้ด้วยหลากหลายปัจจัยที่เอื้อต่อการใช้งาน เช่น การสนับสนุนและแรงจูงใจจากรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ความพร้อมจำหน่ายของรถยนต์ไฟฟ้าระดับหรูที่เพิ่มขึ้น การขยายเครือข่ายชาร์จเร็ว ความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นสำหรับการขนส่งที่ยั่งยืน การผสานรวมคุณสมบัติการขับขี่อัตโนมัติ แนวโน้มหลักในช่วงคาดการณ์นั้นรวมถึงตัวเลือกการปรับแต่งสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าระดับหรู การผสานรวมระบบอินโฟเทนเมนต์ขั้นสูง การนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในการจัดการรถยนต์ การพัฒนารถยนต์ SUV ไฟฟ้าระดับหรู และความร่วมมือระหว่างผู้ผลิตรถยนต์ระดับหรูและบริษัทเทคโนโลยี

นอกจากนั้น ด้วยเหตุที่รถยนต์ระดับหรูมักจะเป็นพื้นที่ในการนำนวัตกรรมที่เพิ่งถูกพัฒนามาใช้งาน ทำให้เป็นจุดเด่นที่สำคัญในการดึงดูดใจลูกค้านอกเหนือจากภาพลักษณ์ และ Brand Value ของแบรนด์รถยนต์เหล่านั้นอีกด้วย

อีกประเด็นที่เป็นตัวช่วยเร่งในเรื่องของตลาดคือ การเพิ่มจำนวนรุ่นหรือโมเดล รวมถึงแบรนด์หรูที่กระโดดเข้ามาสู่ตลาดรถยนต์พลังไฟฟ้า ทำให้ลูกค้ามีทางเลือกมากขึ้น โดยในปี 2021 อัตราส่วนของรถยนต์ที่จำหน่ายในตลาดระดับหรูนั้น มีโมเดลที่เป็น BEV เพียงแค่ 6% เท่านั้น แต่เชื่อว่าภายในทศวรรษนี้ ตัวเลขจะขยับขึ้นมาเป็น 46% อย่างแน่นอน

โดยตลาดเอเชีย-แปซิฟิก ถูกมองว่าฐานสำคัญสำหรับรถยนต์ประเภทนี้ โดยเฉพาะในจีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของรถยนต์พลังไฟฟ้า และกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสินค้าในระดับหรูมีอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งคนกลุ่มนี้เลือกที่จะใช้รถยนต์ระดับหรูจากยุโรปหรือสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก

แบรนด์จีนยังไม่สามารถสร้างผลกระทบได้

ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ตลาดรถยนต์พลังไฟฟ้าถูกยึดครองโดยแบรนด์จีน ปัจจัยหนึ่งคือ เรื่องของการเปิดตัวโมเดลที่มีหลากหลายทางเลือกออกมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยราคาที่สามารถเข้าถึงและจับต้องได้ รวมถึงการทำสงครามราคากับแบรนด์ที่เป็นหัวแถวในตลาด แต่ทว่าแบรนด์รถยนต์พลังไฟฟ้าจากจีนยังไม่สามารถทำเช่นนี้ได้กับตลาดรถยนต์ระดับหรู

‘จริงอยู่ที่มีหลายแบรนด์ในตลาดรถยนต์พลังไฟฟ้าระดับหรูมีการแชร์พื้นฐานและโครงสร้างร่วมกับพันธมิตรเป็นแบรนด์จีน แต่ในเรื่องนั่นก็จะอยู่แค่ในกลุ่ม Luxury Entry Level เท่านั้น แบรนด์จีนยังต้องใช้เวลาอีกสักระยะในการยกระดับตัวเองขึ้นมา แม้ว่าจะมีหลายแบรนด์ที่อัพเกรดตัวเองขึ้นมาเป็นพรีเมียม BEV ก็ตาม’ นักวิเคราะห์รายหนึ่งให้ความเห็นในงานวิจัยชิ้นนี้ ‘รถยนต์ BEV ระดับหรูก็เหมือนกับสินค้าระดับหรูอื่นๆ พวกเขาขายความพึงพอใจ ภาพลักษณ์ และมูลค่าของแบรนด์มากกว่าเรื่องของสมรรถนะ นวัตกรรม หรือราคา ต้องยอมรับว่าสินค้าระดับหรู คนซื้อใช้อารมณ์กับความรู้สึกในการตัดสินใจมากกว่าหลักเรื่องเหตุและผล ซึ่งตรงนี้ยังถือว่าเป็นจุดที่แบรนด์รถยนต์จีนยังไม่สามารถทำได้ในตอนนี้’

ที่ผ่านมา แม้ว่าจะหลายต่อหลายค่ายพยายามอัพเกรดตัวเองขึ้นด้วยนวัตกรรมและสินค้าที่มีความล้ำสมัย แต่แบรนด์อย่าง Xpeng, Denza, Zeekr หรือ Lynk&Co ก็ทำได้ดีแค่ระดับหนึ่งเท่านั้น แต่ยังไม่สามารถอัพเกรดภาพลักษณ์ขึ้นเทียบชั้นกับแบรนด์ระดับหรูอย่าง Mercedes-Benz, BMW, Audi หรือ Porsche ได้ และยังไม่นับรวมแบรนด์ซูเปอร์ลักชัวรี่อย่าง Aston Martin, Rolls-Royce, Ferrari และ Lamborghini

Ferrari สวนทาง ตลาดหรูไปได้ดี แต่ขอชะลอเปิดตัว

ขณะที่วิจัยชี้ว่าอนาคตของรถยนต์พลังไฟฟ้าระดับหรูมีทิศทางที่ดี แต่สำหรับ Ferrari กลับสวนทาง โดยทาง Reuter ซึ่งอ้างจากแหล่งข่าววงในที่ตรงกันถึง 2 คนว่า ทางแบรนด์กำลังวางแผนชะลอการเปิดตัวรถยนต์พลังไฟฟ้ารุ่นที่ 2 ของแบรนด์ออกไป จากเดิมจะเปิดตัวในปี 2026 แต่ครั้งนี้อาจจะลากยาวออกไปจนถึงปี 2028

เหตุผลของการเลื่อนเปิดตัวนั้นไม่ได้มาจากปัญหาในเชิงเทคนิคทั้งในแง่ของการพัฒนา และการผลิตเท่านั้น แต่มาจากการที่ผลตอบรับของลูกค้าในตลาดที่ไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวัง บวกกับสภาพตลาดและเศรษฐกิจในปัจจุบันที่เข้าสู่โหมดชะลอตัว ทำให้กำลังซื้อของกลุ่มลูกค้าหายไป

Ferrari เริ่มปรับนโยบายในการรุกตลาดรถซูเปอร์คาร์ด้วยพลังงานทางเลือกมาตั้งแต่ปี 2019 โดยในตอนนั้นเปิดตัว LaFerrari กับขุมพลังแบบไฮบริด และจากนั้นก็มีการนำเสนอทางเลือกใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งประกาศก้าวเข้าสู่ตลาดรถยนต์พลังไฟฟ้าอย่างเต็มตัวด้วยการเปิดตัวรถสปอร์ต BEV รุ่นแรกในปลายปีนี้ช่วงเดือนตุลาคม

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นคือ การขาดเสน่ห์ในเรื่องของเสียงคำรามจากเครื่องยนต์ และแบตเตอรี่ที่จะต้องรองรับต่อสมรรถนะที่เร้าใจของมอเตอร์บวกกับระยะทางการใช้งาน ทำให้ตัวรถต้องมีน้ำหนักเพิ่ม และส่งผลโดยตรงต่อสมรรถนะของการขับขี่ เมื่อบวกกับภาพรวมของเศรษฐกิจ การเลื่อนเปิดตัวน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้

สำหรับแบรนด์คู่แข่งอย่าง Lamborghini นั้น พวกเขาวางแผนเปิดตัวซูเปอร์คาร์พลังไฟฟ้าเช่นกัน แต่เป็นปี 2029 ขณะที่ Porsche เองถือว่าได้บุกเบิกตลาดประเภทนี้แล้วกับรถยนต์รุ่น Taycan แต่ทว่ายังไม่ได้มีแผนการนำระบบไฟฟ้ามาใช้กับรถสปอร์ตที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์อย่าง 911 แต่เลือกใช้ระบบนี้กับรถยนต์ทั่วไปอย่าง Macan และ Cayenne มากกว่า

ขณะที่ Maserati นั้น จะเปิดตัวเวอร์ชันพลังไฟฟ้าในปี 2030 กับรถสปอร์ตรุ่น MC20

ถือเป็นอีกสมรภูมิตลาดที่น่าสนใจว่า สุดท้ายแล้วการวิเคราะห์และการประเมินของบรรดาบริษัทวิจัยทั้งหลายมีแนวโน้มว่าจะเป็นไปตามที่หวังหรือไม่ เพราะในตอนนี้ตลาดกลุ่มนี้ยังถือว่าแทบจะไม่ได้รับผลกระทบจากแบรนด์จีนเลย

website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Manager Online

“ห้องอาหารเบญจรงค์” บ้านดุสิตธานี ชวนสัมผัสเสน่ห์อาหารไทยในชุดปิ่นโตสุดประณีต

37 นาทีที่แล้ว

“อุ๊งอิ๊ง”ก่อวิกฤต ทุกเรื่อง ไปไม่รอด!?

58 นาทีที่แล้ว

งานนิทรรศการ “เบื้องหลังความโหดร้ายในอุตสาหกรรมไข่” : เมื่อเสียงจากแม่ไก่ในกรงเหนือกว่าคำพูดใดของมนุษย์

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

GenAI ยอดใช้พุ่งทั่วโลก "พาโล อัลโต เน็ตเวิร์กส์" พบทราฟฟิกเพิ่ม 9 เท่าตัว

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความยานยนต์อื่น ๆ

‘เลอ ม็องส์ 24 ชั่วโมง’ สนามพิสูจน์สมรรถนะ ประสิทธิภาพ และนวัตกรรมจากมิชลิน

ไทยโพสต์

GenAI ยอดใช้พุ่งทั่วโลก "พาโล อัลโต เน็ตเวิร์กส์" พบทราฟฟิกเพิ่ม 9 เท่าตัว

Manager Online

ส่องราคาสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Vigorous Sprite-1 พาหนะคู่ใจ "ฮุนเซน"

Manager Online

บอร์ดบีโอไอ เห็นชอบมาตรการส่งเสริมการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ หรือ Local Content

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

โตโยต้า เดินหน้าสร้างเยาวชน “เด็กไทย ใฝ่ดี” สานแนวคิด “TOYOTA GIVING”

Manager Online

"เที่ยวไทยคนละครึ่ง" ขึ้น Google Trends คนเพชรฮิตเสิร์ช "thai id ล่ม"

Manager Online

ข่าวและบทความยอดนิยม

Bentley Batur Convertible เปิดตัวสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ปิดตำนาน W12 ด้วยรุ่นพิเศษ 16 คันทั่วโลก

Manager Online

ลัมโบร์กินี รุกตลาดโลก ดันดีไซน์+ฝีมืออิตาลี ครองใจไฮเอนด์

Manager Online

อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ไทย จุดแข็งที่สั่นคลอนท่ามกลางความท้าทายใหม่

Manager Online
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...