โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

งานนิทรรศการ “เบื้องหลังความโหดร้ายในอุตสาหกรรมไข่” : เมื่อเสียงจากแม่ไก่ในกรงเหนือกว่าคำพูดใดของมนุษย์

Manager Online

เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • MGR Online

เป้าหมายและวัตถุประสงค์ของการจัดงาน นิทรรศการภาพถ่าย "เบื้องหลังความโหดร้ายในอุตสาหกรรมไข่" นี้ มิได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืนแต่เป็นผลลัพธ์จากการลงพื้นที่ตรวจสอบและเก็บภาพเบื้องหลังฟาร์มไข่ไก่ในหลายประเทศมาตั้งแต่ปี 2565 โดยเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่างซิเนอร์เจีย แอนนิมอล (Sinergia Animal) และเครือข่าย Open Wing Alliance (OWA) ซึ่งรวมองค์กรพิทักษ์สัตว์เกือบ 100 แห่งทั่วโลก

นิทรรศการภาพถ่ายครั้งนี้ ถือเป็นการจัดแสดงภาพถ่ายระดับโลกที่รวบรวมชีวิตจริงจากฟาร์มอุตสาหกรรมพร้อมกันใน 7 ประเทศ ใน Global South หรือ กลุ่มประเทศโลกใต้ รวมถึงประเทศไทย ภายในงานจัดแสดงภาพถ่ายจาก 37 ประเทศทั่วโลก ที่เผยให้เห็นชีวิตจริงของแม่ไก่ที่ถูกกักขังในกรงเล็ก ๆ แคบ ๆ โดยแต่ละตัวมีพื้นที่น้อยกว่าขนาดหน้าจอ iPad (ไอแพด) ไร้อิสรภาพไม่มีแม้แต่พื้นที่ให้กางปีก หรือเดินได้อย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งเป็นการเลี้ยงสัตว์ที่โหดร้ายที่สุดรูปแบบหนึ่งในปัจจุบัน

ศนีกานต์ รศมนตรี ผู้อำนวยการ ซิเนอร์เจีย แอนนิมอล ประเทศไทย กล่าวว่า "เป้าหมายหลักของเราคือการเปิดเผยความจริงอันโหดร้ายที่แม่ไก่ต้องเผชิญในฟาร์มอุตสาหกรรมทั่วโลก เพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้ผู้บริโภคได้เห็นถึงความทุกข์ทรมานที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังไข่ทุกฟอง และตั้งคำถามกับทางเลือกในการบริโภคของตน"

ภาพรวมสถานการณ์ความโหดร้ายในอุตสาหกรรมไข่ไก่ ทั้งในไทยและต่างประเทศ ในหลายประเทศ เช่น สหภาพยุโรป ภูฏานสวิสเซอร์แลนด์ มีการแบนการใช้กรงตับแล้ว แต่ในเอเชียเป็นภูมิภาคที่มีผู้ผลิตไข่รายใหญ่ที่สุดของโลก โดยมีสัดส่วนแม่ไก่ในระบบกรงสูงถึง63% หรือมากกว่า 3 พันล้านตัว รวมถึงประเทศไทยที่มีแม่ไก่เกือบ 95 ล้านตัว โดยอยู่ในระบบกรงกว่า 53 ล้านตัว ซึ่งผลิตไข่ไก่ประมาณ44 ล้านฟองต่อวัน เป็นการเลี้ยงในภาวะที่เร่งให้ออกไข่เฉลี่ยเกือบวันละ 1 ฟอง มากกว่าไก่ไข่ที่มีชีวิตปกติจะทำได้ถึงเกือบ 3,000% แต่ระบบนี้ยังถูกใช้อย่างแพร่หลาย แม่ไก่ในไทยต้องใช้ชีวิตทั้งชีวิตอยู่ในกรงแคบ โดยถูกบีบคั้นให้ผลิตไข่ฟองแล้วฟองเล่า เป็นการทรมานและทำลายวิถีธรรมชาติของสัตว์อย่างสิ้นเชิงผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม: มากกว่าแค่เรื่องสวัสดิภาพสัตว์

นอกจากความโหดร้ายต่อสัตว์แล้ว ระบบอุตสาหกรรมไข่ไก่ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อมอย่างมีนัยสำคัญ ฟาร์มที่เลี้ยงไก่จำนวนมากอยู่ในพื้นที่แออัด ทำให้แม่ไก่มีความเครียดสูง ระบบภูมิคุ้มกันต่ำลง งานวิจัยพบว่าภูมิคุ้มกันของสัตว์ปีกที่ลดลงมีความเชื่อมโยงกับโรคระบาดจากสัตว์สู่คน รวมถึงไข้หวัดนกซึ่งการระบาดในหลายประเทศก่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง เช่น บราซิล และยังมีรายงานผู้เสียชีวิตล่าสุดในกัมพูชา ไก่ที่มีชีวิตอยู่ในกรงสัมผัสกับมูลไก่และไก่ที่ตายเน่าเปื่อยตลอดเวลา ส่งผลให้เกิดการแพร่พันธุ์ของแบคทีเรียชนิดต่างๆ โดยเฉพาะเชื้อซัลโมเนลลา(Salmonella) ที่สามารถปนเปื้อนในไข่ได้ ในด้านสิ่งแวดล้อม ฟาร์มขนาดใหญ่เหล่านี้ปล่อยของเสียปริมาณมาก ทั้งน้ำเสียและก๊าซมีเทน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน นอกจากนี้ ภาคปศุสัตว์ยังเป็นแหล่งกำเนิดแอมโมเนียจำนวนมหาศาล ซึ่งเป็นสารตั้งต้นสำคัญของการก่อตัวของฝุ่น PM 2.5 รวมถึงการทำเกษตรเชิงเดี่ยวเพื่อผลิตอาหารสัตว์ เช่น ข้าวโพดและถั่วเหลือง และการเผาตอซังพืช ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดฝุ่น PM 2.5

การเปลี่ยนผ่านของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ

การเปลี่ยนแปลงได้เริ่มขึ้นแล้วอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับที่มาของอาหารมากขึ้น หลายคนหันมารับประทานอาหารจากพืช (plant-based) และสนับสนุนสินค้าที่มีจริยธรรม ในภาคธุรกิจเองก็มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วปัจจุบันมีบริษัทกว่า 2,600 แห่งทั่วโลก ที่ประกาศเลิกใช้ไข่จากระบบกรงตับ แม้สถานการณ์ในประเทศไทยจะยังไม่ก้าวหน้าเท่าหลายประเทศเช่น ออสเตรีย ลักเซมเบิร์ก สวิตเซอร์แลนด์ หรือภูฏาน ที่ภาครัฐประกาศยกเลิกระบบกรง 100% ไปแล้ว แต่กระแสการเปลี่ยนแปลงก็ได้ก่อตัวขึ้นทั้งจากภาคประชาชนและภาคธุรกิจในประเทศ

ปัจจุบันมีบริษัทในประเทศไทยถึง 88 แห่งที่ประกาศนโยบายไข่ไก่ปลอดกรง (cage-free) อาทิZen Corporation Group, Minor Food, Minor Hotels, และ Sukishi Intergroup นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจระดับนานาชาติชั้นนำที่ดำเนินงานในไทยก็กำลังดำเนินการในทิศทางเดียวกัน และล่าสุดONYX Hospitality Group บริษัทบริหารจัดการโรงแรม รีสอร์ต และเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ แถวหน้าของประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้แสดงความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนมาใช้ไข่ไก่ปลอดกรง 100%

ขณะเดียวกัน ฟาร์มเลี้ยงไก่ในไทยหลายแห่งต่างหันมาใช้ระบบเลี้ยงแบบไม่ขังกรงเพิ่มขึ้น เช่นสงวนฟาร์ม และแสงทองสหฟาร์ม รวมถึงผู้ผลิตรายใหญ่อย่าง CP และ Betagro ก็เริ่มปรับตัวให้มีสัดส่วนของไข่ไก่ปลอดกรง นอกจากนี้ ห้างสรรพสินค้าบางแห่งได้เริ่มนำไข่ไก่ปลอดกรงมาวางจำหน่าย เพื่อเพิ่มทางเลือกแก่ผู้บริโภค ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดีของการเปลี่ยนแปลง

อย่างไรก็ตาม ยังมีบริษัทอีกจำนวนไม่น้อยที่เคยให้คำมั่นสัญญาด้วยการประกาศนโยบายไข่ไก่ปลอดกรง แต่ยังไม่มีการรายงานความคืบหน้ากับสาธารณะอย่างเป็นรูปธรรม อาทิ Inspire Brands (ผู้บริหาร Dunkin' และ Baskin-Robbins), โรงแรมในเครือ Chatrium, IHG และ Marriott ซึ่งซิเนอร์เจีย แอนนิมอลไม่ได้เพียงเฝ้ารอ แต่ได้ลุกขึ้นจัดแคมเปญรณรงค์รวมถึงการส่งสาส์นถึงบริษัทผ่านงานนิทรรศการในครั้งนี้ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริงและเป็นรูปธรรม ในขณะที่บางบริษัทได้มีความมุ่งมั่นที่จะทำตามคำมั่นสัญญา อย่าง IKEA ที่ได้รายงานความคืบหน้าว่าบริษัทใช้ไข่เปลือกที่ได้รับการรับรองว่าเป็นไข่ไร้กรง 100% จากฟาร์มในท้องถิ่นที่แม่ไก่มาจากการเลี้ยงแบบไม่ขังกรง และกำลังร่วมมือกับพันธมิตรในประเทศไทยเพื่อจัดหาไข่ไก่เหลวจากไก่ในระบบปลอดกรง เพื่อทำให้เป้าหมายนี้เป็นจริงในอนาคต

บทบาทของซิเนอร์เจีย แอนนิมอล

ในฐานะองค์กรพิทักษ์สัตว์ระดับสากล ซิเนอร์เจียแอนนิมอล มุ่งมั่นทำงานร่วมกับพันธมิตร ตลอดจนภาคธุรกิจและภาครัฐ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายไข่ไก่ปลอดกรง องค์กรทำงานด้านการรณรงค์ควบคู่ไปกับการสื่อสารสาธารณะอย่างต่อเนื่องทุกเดือน ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ รวมถึงการจัดเก็บรายชื่อผู้สนับสนุนผ่านเว็บไซต์ เพื่อขยายฐานการรับรู้และความร่วมมือ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ตรวจสอบความคืบหน้าของบริษัทต่างๆ ที่ให้คำมั่นสัญญาว่าจะเลิกใช้ไข่จากระบบกรง พร้อมทั้งเปิดเผยข้อมูลความล่าช้าให้สาธารณะได้รับทราบ

“เราเชื่อมั่นว่า หากทุกคนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและได้เห็นภาพจริงของระบบอุตสาหกรรมสัตว์ จะเกิดพลังในการเลือกและขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ไม่ถูกต้องได้จริง ด้วยเหตุนี้นิทรรศการ "เบื้องหลังความโหดร้ายในอุตสาหกรรมไข่" จึงถูกจัดขึ้นเพื่อเปิดเผยความจริงที่ซ่อนอยู่ กระตุ้นให้เกิดความตระหนักรู้ และสร้างคำถามเกี่ยวกับทางเลือกที่ดีกว่าในการบริโภค นอกจากนี้ ซิเนอร์เจีย แอนนิมอลยังได้จัดกิจกรรมรณรงค์เพื่อเรียกร้องให้ภาคการเงินยุติการสนับสนุนอุตสาหกรรมที่ทำร้ายสัตว์” ศนีกานต์ กล่าว

ทำไมต้อง “ไก่”?

คุณศนีกานต์ เน้นย้ำอย่างหนักแน่นถึงความสำคัญของแม่ไก่ในฐานะสัตว์ฟาร์มที่มีจำนวนมหาศาลที่สุดในโลก ทว่ากลับถูกละเลยมากที่สุดเช่นกัน ด้วยจำนวนไก่ในประเทศไทยเกือบ 95 ล้านตัว และการที่ไข่ถูกใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารเกือบทุกชนิด ทำให้การเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมนี้มีศักยภาพอันยิ่งใหญ่ ที่จะขับเคลื่อนระบบอาหารทั้งหมดให้ก้าวไปสู่ทิศทางที่มีจริยธรรมและยั่งยืนอย่างแท้จริง

การประเมินผลแคมเปญขับเคลื่อนทางสังคม: มิติเชิงปริมาณและคุณภาพ

การประเมินผลของแคมเปญขับเคลื่อนทางสังคมของซิเนอร์เจีย แอนนิมอลนั้น ดำเนินการอย่างรอบด้าน ทั้งในเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ เพื่อวัดผลสำเร็จของการส่งเสริมการเปลี่ยนแปลง ในเชิงปริมาณ: เราพิจารณาจากจำนวนบริษัทที่ประกาศนโยบายเลิกใช้ไข่จากระบบกรงตับและหันมาใช้ไข่ไก่ cage-free ยอดผู้สนับสนุนแคมเปญ ยอดการแชร์ข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์การเข้าถึงของสื่อมวลชน รวมถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เห็นได้อย่างชัดเจน ในเชิงคุณภาพ: เราดูจากรายงานความคืบหน้าของบริษัทที่ประกาศนโยบายไปแล้วว่ามีความคืบหน้าในทางปฏิบัติจริงไปแล้วกี่เปอร์เซ็นต์ และได้ทำตามที่เคยให้คำมั่นสัญญาหรือไม่ และเรายังให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงในระดับทัศนคติของสังคม การรับรู้ประเด็นในวงกว้างและการก่อกำเนิดบทสนทนาใหม่ๆ เกี่ยวกับเรื่องความเป็นธรรมในระบบอาหาร การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้คือรากฐานสำคัญที่นำไปสู่ก้าวที่ยั่งยืนในระยะยาว

บทบาทของผู้หญิงในงานขับเคลื่อนสังคม

คุณศนีกานต์ ได้ให้มุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับบทบาทของผู้หญิงในงานขับเคลื่อนสังคม โดยกล่าวว่า "ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ต่างก็สามารถทำงานรณรงค์และขับเคลื่อนประเด็นทางสังคมได้เช่นเดียวกัน"

อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้หญิง เธอมองว่ามีข้อท้าทายเฉพาะตัว โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ต้องลงพื้นที่รณรงค์ ซึ่งอาจเผชิญกับความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับการต้อนรับ แต่ในอีกด้านหนึ่ง "ความเข้าอกเข้าใจ" และ "การสื่อสารอย่างมีเมตตา" กลับกลายเป็นหัวใจสำคัญและเป็นจุดแข็งที่ช่วยให้การขับเคลื่อนประเด็นที่ละเอียดอ่อนและท้าทายเช่นนี้ประสบความสำเร็จได้ดียิ่งขึ้น

เป้าหมายในอนาคต

คุณศนีกานต์ เผยถึงเป้าหมายอันชัดเจนขององค์กรว่า "เป้าหมายของเราคือการยกระดับระบบไข่ไร้กรงให้เป็นมาตรฐานของอุตสาหกรรมไข่ไก่ การยุติระบบกรงตับให้หมดไป และในระยะยาว เราหวังจะเห็นระบบอาหารที่มีความเมตตาโปร่งใส และยั่งยืนมากขึ้น" เธอย้ำว่า แคมเปญนี้มิใช่จุดสิ้นสุด แต่เป็นเพียง"ก้าวแรก" ในการสร้างความเข้าใจด้านสวัสดิภาพสัตว์ โดยหากประสบความสำเร็จในการขับเคลื่อนประเด็นไก่ไข่แล้ว ซิเนอร์เจีย แอนนิมอลก็มีแผนที่จะขยายขอบเขตการทำงานไปสู่สัตว์ฟาร์มชนิดอื่น ๆ ต่อไป

สำหรับผู้ชมและผู้บริโภคที่ต้องการมีส่วนร่วมในการสนับสนุน ง่ายที่สุดคือการเริ่มต้นจากการหันมาลองบริโภคอาหารจากพืช (plant-based) หรือการส่งเสียงถึงแบรนด์ต่างๆ ให้หันมาใช้ไข่ไก่จากระบบที่ไม่ขังกรงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถร่วมลงชื่อสนับสนุนหรือสมัครเป็นอาสาสมัครกับซิเนอร์เจีย แอนนิมอลเพื่อมีส่วนร่วมในการผลักดันให้เกิดความเปลี่ยนแปลงได้อีกด้วย

"และเป้าหมายสูงสุดคือ อยากเห็นประเทศไทยมีระบบอาหารที่ยั่งยืน และมีการใช้ไข่ไก่ปลอดกรงแบบ 100%" คุณศนีกานต์ทิ้งท้าย พร้อมเชิญชวนให้ผู้ชมไม่หยุดเพียงแค่การรับรู้ แต่ร่วมแบ่งปันเรื่องราวนี้กับคนรอบข้าง เพื่อขยายพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง

website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Manager Online

ยอดดับไฟไหม้โรงงานยาอินเดียระหว่างชั่วโมงทำงานใน "รัฐเตลังคานา" พุ่ง 34 ศพโดนเผาเป็นตอตะโก “โมดี” เสนอเยียวยา 200,000 รูปี

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เพจดังตั้งคำถาม? เด็กที่เข้าร่วมกิจกรรมในวันสถาปนาลูกเสือฯ ล้มป่วยจำนวนมาก ใครจะรับผิดชอบ (ชมคลิป)

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“ห้องอาหารเบญจรงค์” บ้านดุสิตธานี ชวนสัมผัสเสน่ห์อาหารไทยในชุดปิ่นโตสุดประณีต

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“อุ๊งอิ๊ง”ก่อวิกฤต ทุกเรื่อง ไปไม่รอด!?

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

รถอเนกประสงค์แหกโค้งชนเสาไฟฟ้าคว่ำลงข้างทาง รองผู้กำกับฯ สภ.เมืองอุบลราชธานี บาดเจ็บสาหัส ก่อนไปเสียชีวิตที่ รพ.

สวพ.FM91
วิดีโอ

รวมพลังแผ่นดิน นัดชุมนุมใหญ่ กลางเดือนสิงหาคม 68 คปท. ยังตรึงกำลังทำเนียบรัฐบาล จตุพร ยืนยันไม่เอารัฐประหาร

BRIGHTTV.CO.TH

ทรัมป์ ยืนยันเนทันยาฮูเผยต้องการยุติสงครามในฉนวนกาซา

JS100

ยอดดับไฟไหม้โรงงานยาอินเดียระหว่างชั่วโมงทำงานใน "รัฐเตลังคานา" พุ่ง 34 ศพโดนเผาเป็นตอตะโก “โมดี” เสนอเยียวยา 200,000 รูปี

Manager Online

นายกฯสั่งด่านศุลกากรตรวจเข้ม สกัดของเถื่อนทะลัก – ขยาย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 จ่าย 10% ปิดหนี้ 3 หมื่นบาท

ไทยพับลิก้า

ฮุน มานี มาใกล้ด่านช่องจอม คาดดูแรงงานเขมรไปทำกับทุนจีน หลังกลับจากไทย

Khaosod

วุฒิสภาสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมาย 'ใหญ่และสวยงาม' ของทรัมป์ด้วยการลงคะแนนชี้ขาด

JS100

ตร.เผย 10ล้านที่หาย เป็นเงินส่วนตัวเจ้าอาวาสวัดม่วง เก็บสะสมมา

TNews

ข่าวและบทความยอดนิยม

เปิดตลาดนำเข้าหมูสหรัฐฯ ปลิดชีวิตฟาร์มไทยทั้งระบบนับแสน

Manager Online

นาทีชีวิต! นักเรียนน้ำใจงามช่วยเหลือพระพิการพลัดตกคลองขณะบิณฑบาต

Manager Online

ปานเทพ สับนายกฯ! สั่งเปิดด่านช่วยเขมร เสี่ยงเอื้อธุรกิจสีเทา ทำดุลอำนาจเจรจาประเทศเสียหายหรือไม่

Manager Online
ดูเพิ่ม
Loading...