Xiaomi YU7 เปิดราคา 1.1 ล้านบาท ยอดจองถล่ม 289,000 คัน ภายใน 1 ชม.
Xiaomi YU7 รถ SUV ไฟฟ้าคันแรกของค่ายยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีจากจีน ที่ไม่ได้เป็นเพียงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่คือการประกาศสงครามต่อเจ้าตลาดเดิมอย่างเป็นทางการ ด้วยกลยุทธ์ที่พลิกโฉมหน้าการแข่งขันอย่างสิ้นเชิง
Xiaomi YU7 เปิดตัวในคืนวันที่ 26 มิถุนายน 2025 เมื่อ Xiaomi เปิดให้สั่งจองและสร้างสถิติที่กลายเป็นตำนานในทันที โดยกวาดยอดสั่งซื้อล่วงหน้าไปอย่างถล่มทลายถึง 289,000 คัน ภายในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง
ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนถึงความต้องการมหาศาลและความเชื่อมั่นที่ผู้บริโภคมีต่อแบรนด์ โดย เหลย จวิน (Lei Jun) ซีอีโอของ Xiaomi ประกาศว่าความสำเร็จนี้เกิดขึ้นหลังจากการทดสอบอย่างหนักหน่วง
YU7 ผ่านการวิ่งทดสอบบนถนนจริงเป็นระยะทางรวมกว่า 6.49 ล้านกิโลเมตร ใน 296 เมืองทั่วประเทศจีน ตลอด "539 วันเต็ม"
เพื่อรับประกันคุณภาพและความทนทานในทุกสภาวะ ตั้งแต่อุณหภูมิร้อนจัด 53°C ที่ทูร์ปาน ไปจนถึงอากาศหนาวเหน็บ -41°C ที่เฮยเหอ และพื้นที่สูงกว่า 5,300 เมตรในทิเบต
หัวใจของความสำเร็จครั้งนี้คือกลยุทธ์การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ "ดีกว่าในทุกมิติ แต่ราคาถูกกว่า" เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งตัวต่อตัวอย่าง Tesla Model Y
YU7 เปิดตัวด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 253,500 หยวน ซึ่งต่ำกว่า Tesla Model Y ที่จำหน่ายในจีนเกือบ 14,000 หยวน ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงเทคโนโลยีระดับสูงได้ง่ายขึ้น
รุ่นท็อป (Max) ใช้มอเตอร์คู่กำลังสูงสุด 690 แรงม้า ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.23 วินาที ขณะที่รุ่น Standard ขับเคลื่อนล้อหลังให้ระยะทางวิ่งสูงสุดถึง 835 กิโลเมตร (CLTC) ซึ่งทิ้งห่างคู่แข่งอย่างชัดเจน
YU7 ทุกรุ่นมาพร้อมสถาปัตยกรรมไฟฟ้าแรงสูง 800V เป็นมาตรฐาน ทำให้ชาร์จไฟได้รวดเร็วเป็นพิเศษ โดยสามารถเพิ่มระยะทางได้ถึง 620 กิโลเมตร ในเวลาเพียง "15 นาที"
โครงสร้างตัวถังผสมผสานระหว่างเหล็กกล้าความแข็งแรงสูงและอลูมิเนียม พร้อมเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ Xiaomi ระบุว่ามีการป้องกันในระดับ "กันกระสุน" เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
Xiaomi YU7 ไม่ได้มีดีแค่สมรรถนะ แต่ยังมีภายในเป็นแผงหน้าปัด HyperVision ที่เป็นจอ MiniLED แบบพาโนรามา 3 จอ รวมความกว้างกว่า 1.1 เมตร,
เบาะหนัง Nappa ที่มาพร้อมฟังก์ชันนวดและโหมด Zero Gravity เอนได้ 123 องศา, ระบบเสียง 25 ลำโพงรอบทิศทาง Dolby Atmos และตู้เย็นขนาดเล็กในรถ
หัวใจของระบบคือชิปประมวลผล Nvidia DRIVE Thor™ ที่มีพลังสูงถึง 700 TOPS สำหรับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) ซึ่งทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ LiDAR บนหลังคา, เรดาร์ 4D และกล้อง 11 ตัวรอบคัน นอกจากนี้ YU7 ยังมาพร้อม AI ผู้ช่วยอัจฉริยะ
และที่สำคัญคือ รองรับการเชื่อมต่อกับ Apple อย่างเต็มรูปแบบ ทั้ง Apple CarPlay, Apple Music และการสั่งงานผ่าน Apple Watch ซึ่งถือเป็นจุดขายที่ดึงดูดผู้ใช้ได้ทุกกลุ่ม
ขณะนี้ YU7 จะวางจำหน่ายเฉพาะในประเทศจีนก่อน โดยยังไม่มีแผนขยายสู่ตลาดต่างประเทศจนกว่าจะถึงปี 2027 ด้วยความต้องการที่ล้นหลาม ทำให้ผู้สั่งจองบางส่วนอาจต้องรอรับรถนานถึงปี 2026
โดยโรงงานแห่งใหม่ของ Xiaomi จะเริ่มเดินสายการผลิตอย่างเต็มรูปแบบในเดือนกรกฎาคมนี้ ตั้งเป้าผลิตให้ได้ 150,000 คันต่อปี เพื่อตอบสนองต่อปรากฏการณ์ความสำเร็จในครั้งนี้
ที่มา : CarNewsChina, ArenaEV