ค่าเงินบาทเปิด 32.53 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย”
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 32.53 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย” จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ 32.47 บาทต่อดอลลาร์โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) เคลื่อนไหวในกรอบ Sideways ใกล้โซน 32.50 บาทต่อดอลลาร์ (แกว่งตัวในกรอบ 32.44-32.54 บาทต่อดอลลาร์)
โดยมีจังหวะแข็งค่าขึ้นบ้าง ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ ที่เผชิญแรงกดดันจากมุมมองของผู้เล่นในตลาด
โดยต่างเชื่อว่า เฟดมีแนวโน้มเดินหน้าลดดอกเบี้ยได้มากกว่าที่ระบุไว้ใน Dot Plot ล่าสุด หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ ออกมาแย่กว่าคาด อาทิ อัตราการเติบโตเศรษฐกิจในไตรมาสแรกของปีนี้ ก็หดตัวราว -0.5% จากไตรมาสก่อนหน้า เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่วนยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานต่อเนื่อง (Continuing Jobless Claims) ก็ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 1.974 ล้านราย สะท้อนถึงความยากลำบากในการหางานที่มากขึ้น
อย่างไรก็ดี การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ก็เป็นไปอย่างจำกัด และเงินดอลลาร์ก็สามารถพลิกกลับมารีบาวด์สูงขึ้นได้ ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากการทยอยทำกำไรสถานะ Short USD ของผู้เล่นในตลาด หลังเงินดอลลาร์ได้อ่อนค่าลงมาต่อเนื่องในช่วงนี้
ขณะเดียวกัน ภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงินสหรัฐฯ ก็มีส่วนหนุนเงินดอลลาร์ผ่านแรงขายสินทรัพย์ปลอดภัย ทั้งเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) และทองคำ ซึ่งการปรับตัวลดลงของราคาทองคำ (XAUUSD) เข้าใกล้โซนแนวรับ 3,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็มีส่วนกดดันให้เงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าลงได้บ้างเช่นกัน
แนวโน้มของค่าเงินบาท
การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทในช่วงก่อนหน้า อาจชะลอลงบ้าง สอดคล้องกับการชะลออ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ และการปรับตัวลดลงทดสอบโซนแนวรับของราคาทองคำ ซึ่งส่วนหนึ่งก็อาจเป็นผลมาจากการปรับสถานะถือครองของผู้เล่นในตลาดในช่วงสิ้นไตรมาสที่ 2 (ขายทำกำไรสถานะ Short USD ที่เรียกได้ว่า ทำผลตอบแทนได้ดีในปีนี้ เช่นเดียวกัน กับการทยอยขายทำกำไรสถานะ Long ทองคำ ซึ่งทำผลงานได้โดดเด่นในปีนี้)
ทำให้เราประเมินว่า เงินบาทก็อาจยังไม่สามารถแข็งค่าทะลุโซนแนวรับ 32.30 บาทต่อดอลลาร์ ไปได้ง่ายนัก จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม เช่น ตลาดกลับมาเชื่อว่า เฟดจะสามารถเดินหน้าลดดอกเบี้ยได้ในการประชุมเดือนกรกฎาคม ซึ่งเรามองว่า อาจต้องเห็นข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่แย่ลงชัดเจน (จับตารายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า)
ทั้งนี้ การปรับตัวลดลงของราคาทองคำทดสอบโซนแนวรับระยะสั้นในช่วงนี้ อาจสะท้อนว่า หากไม่มีปัจจัยกดดันราคาทองคำเพิ่มเติม ราคาทองคำก็มีโอกาสรีบาวด์สูงขึ้นได้บ้าง ซึ่งเรามองว่า หากไม่มีปัจจัยหนุนที่ชัดเจน การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำอาจเป็นไปอย่างจำกัดและทำให้ผู้เล่นในตลาดจะรอทยอยขายทำกำไร หรือใช้กลยุทธ์ Range-Bound Trading ซึ่งทำให้ เมื่อราคาทองคำรีบาวด์สูงขึ้น ทดสอบโซนแนวต้าน ก็อาจช่วยหนุนการแข็งค่าขึ้นของเงินบาทบ้าง
โดยเราคงมองว่า เงินบาทยังเคลื่อนไหวสอดคล้องกับราคาทองคำในระดับสูง และมีความอ่อนไหวหรือ Sensitivity ต่อการปรับตัวของราคาทองคำ ราว 0.3-0.5 แม้ว่า เงินบาทอาจยังไม่มีการเคลื่อนไหวในทิศทางใดทิศทางหนึ่งที่ชัดเจน แต่สิ่งหนึ่งที่เรากังวล คือ ความผันผวนของเงินบาทที่อาจกลับมาสูงขึ้นได้ โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์หน้าที่ ตลาดการเงินไทยอาจเผชิญแรงกดดันจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์การเมืองไทย ซึ่งเรามองว่า ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ Options เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.40-32.70 บาท/ดอลลาร์
ด้าน กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.40-32.65 บาท/ดอลลาร์
- เงินบาทแข็งค่าเร็ววานนี้ตามการอ่อนค่าของดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐและ US Treasury yields หลังนักลงทุนมองว่ามีโอกาสมากขึ้นที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้
- การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐฯ ไตรมาสแรกขยายตัวชะลอลงแรงตามการใช้จ่ายในภาคบริการหลากหลายประเภทที่อ่อนแอ
- สหรัฐฯ และจีนได้สรุปข้อตกลงด้านการค้าตามที่ได้บรรลุเบื้องต้นเมื่อเดือนที่แล้ว โดยสหรัฐฯ มีแผนจะเร่งบรรลุข้อตกลงกับกลุ่มประเทศคู่ค้ารายใหญ่ 10 ประเทศเร็ว ๆ นี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หอการค้าไทย หั่น! GDP ไทย ปี 68 เหลือ 1.7%
โบรกฯ ปรับคำแนะนำเป็น "ซื้อ" หุ้น KTC ลดมูลค่าพื้นฐานลงเหลือ 32 บาท
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ค่าเงินบาทเปิด 32.53 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย”
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.pptvhd36.com