ราช กรุ๊ป รุกขยายลงทุนอินโดนีเซีย หลังสหรัฐฯ ปิดดีลภาษี 19% ปลัดพลังงานเผยดีลใหม่ไทยเพิ่มนำเข้าก๊าซ LNG
หลังจากที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศว่าได้บรรลุข้อตกลงการค้ากับอินโดนีเซีย โดยระบุว่าจะมีการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากอินโดนีเซียในอัตรา 19% ในขณะที่สินค้าส่งออกของสหรัฐฯ จะไม่ถูกเก็บภาษีหรือคิดเป็น 0%
นิทัศน์ วรพนพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) มองว่า ถือเป็นโอกาสที่ดีในการขยายการลงทุนด้านพลังงานในอินโดนีเซีย จากเดิมที่บริษัทตั้งเป้าหมายเติบโตในอินโดนีเซียอยู่แล้ว และคาดว่าจะเห็นแนวโน้มการเติบโตในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากอินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีศักยภาพ เศรษฐกิจใหญ่
ปัจจุบัน บริษัทฯ มีการลงทุนโรงไฟฟ้าในอินโดนีเซีย รวม 4 โครงการ ได้แก่ โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ โรงไฟฟ้าถ่านหิน และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ 2 แห่ง กำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นรวม 1,009.72 เมกะวัตต์ ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงมีอินโดนีเซียเป็นเป้าหมายการลงทุน
ปลัดกระทรวงพลังงานเพิ่มการจัดซื้อพลังงานสหรัฐฯ
ด้าน ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงการเจรจาการค้าด้านพลังงานกับสหรัฐอเมริกาว่า ล่าสุดไทยได้ยื่นข้อเสนอฉบับปรับปรุงใหม่ต่อสหรัฐฯ ในการเพิ่มการจัดซื้อพลังงานเพิ่มเติมว่า กระทรวงพลังงานยืนยันพร้อมสนับสนุนนโยบายของภาครัฐอย่างเต็มที่ในด้านพลังงาน โดยเฉพาะการบริหารจัดการการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG)
โดยได้วางแผนการนำเข้าทั้งในระยะสั้น (Short Term) และระยะยาว (Long Term) แต่แน่นอนว่าไทยต้องมีการนำเข้า LNG เพิ่ม โดยพิจารณาในรูปแบบ Spot และ Short-Term Contract เป็นหลัก และย้ำว่าจะเน้นที่ราคาที่เหมาะสมและคุ้มค่า เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าภายในประเทศ
ทั้งนี้ ที่ผ่านมากระทรวงพลังงานได้ดำเนินการลงนามความร่วมมือกับรัฐอลาสก้า สหรัฐอเมริกา ในการพัฒนาแหล่งนำเข้า LNG ปริมาณการนำเข้าอยู่ที่ 2-5 ล้านตันต่อปี นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการหารือเพิ่มเติมกับซัพพลายเออร์จากสหรัฐฯ และรายอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อดึงดูดการลงทุนสหรัฐฯ
“เรายืนยันว่าการนำเข้า LNG จะดำเนินการเท่าที่จำเป็น ไม่เกินความต้องการใช้งานจริง และต้องผ่านการพิจารณาราคาที่เป็นธรรม ไม่แพง” ประเสริฐกล่าว
ภาพ: da-kuk / Getty Images