“Saudi G.A.P.”กฎใหม่การค้า คุมเข้มทุกขั้นตอนส่งออกไก่ไปซาอุดีอาระเบีย

ในปี 2568 ขึ้นเป็น3.60% หรือเพิ่มขึ้น0.60% จุดจากประมาณการในเดือนเม.ย.2568 เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากรายได้จากน้ำมันที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นรวมถึงภาคส่วนที่ไม่ใช่น้ำมัน

นอกจากนี้ IMF ได้ปรับเพิ่มคาดการ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของซาอุดีอาระเบียในปี 2569 ขึ้นเป็น3.90% สะท้อนถึงการปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและความพยายามในการกระจายการลงทุนภายใต้วิสัยทัศน์ 2030

“การคาดการณ์ที่ปรับปรุงใหม่นี้ทำให้ซาอุดีอาระเบียเป็นหนึ่งในประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกในปี2568 รองจากอินเดียและจีน และแนวโน้มการเติบโตของซาอุดิอาระเบียยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ซึ่งคาดการณ์ไว้ที่ 3.40% ในปี 2568นี้”

สำหรับคาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่ไม่ใช่น้ำมันจะเติบโต3.40% ในปี 2568 ซึ่งลดลงเล็กน้อยจาก 4.20% ที่บันทึกไว้ในปี 2567 อย่างไรก็ตาม แนวโน้มในระยะกลางยังคงแข็งแกร่ง โดยคาดการณ์ว่าการเติบโตที่ไม่ใช่น้ำมันจะแตะ 4% ภายในปี 2570

“IMF ยังบอกอีกว่า แนวโน้มเศรษฐกิจของซาอุดิอาระเบียได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของกิจกรรมด้านน้ำมัน ประกอบกับการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่น้ำมัน เช่น การท่องเที่ยว โลจิสติกส์ และการผลิตนั่นเอง”

จากศักยภาพเศรษฐกิจของซาอุดีอาระเบีย นำไปสู่ตลาดศักยภาพสูงที่หลายประเทศต้องการทำการค้าด้วย รวมถึงไทย แต่ศักยภาพที่ว่านี้ก็นำมาซึ่งเงื่อนไข กฎ กติกา ใหม่ที่จะนำมาใช้ในเร็วๆนี้ หนึ่งในนั้นคือ ใบรับรอง G.A.P. ของซาอุดีอาระเบีย ย่อมาจาก “ใบรับรองการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีในราชอาณาจักร” หรือ “ Saudi G.A.P.” ข้อมูลจาก เว็บไซด์ Saudipedia โดยกระทรวงข่าวสารราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ระบุว่า Saudi G.A.P. เป็นโครงการริเริ่มโดยกระทรวงสิ่งแวดล้อม น้ำ และเกษตรกรรม (MEWA) เมื่อปี พ.ศ. 2561 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพภาคการเกษตรโดยมุ่งเน้นวิธีการทางวิทยาศาสตร์ในการผลิตและการตลาด โดยเริ่มดำเนินการเป็นระยะเริ่มต้นเมื่อ 1 ม.ค. 2562

สำหรับใบรับรอง G.A.P. ของซาอุดีอาระเบียมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดหาและปรับปรุงการใช้น้ำชลประทานในภาคเกษตรกรรมด้วยการใช้วิธีการชลประทานที่ทันสมัย ส่งเสริมการใช้สารกำจัดศัตรูพืชและปุ๋ยเคมีอย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ซึ่งจะช่วยปรับปรุงคุณสมบัติและความอุดมสมบูรณ์ของดิน เพิ่มความสามารถในการกักเก็บน้ำชลประทาน

นอกจากนี้ยังมุ่งส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพืชที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงขึ้น เช่น ผักและผลไม้ เปิดช่องทางการตลาดใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศ ปรับปรุงการดำเนินงานและแนวปฏิบัติทางการเกษตร เพิ่มผลผลิตทางการเกษตรและปรับปรุงคุณภาพ ปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกและสภาพการทำงานของแรงงาน

รวมถึงฝึกอบรมและรับรองคุณภาพเกษตรกรและช่างเทคนิค นอกจากนี้ ยังมุ่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรท้องถิ่น โดยมั่นใจว่าจะได้รับผลิตภัณฑ์อาหารที่ดีต่อสุขภาพและปลอดภัย

“ใบรับรองการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี “Saudi G.A.P.” จะมอบให้แก่ฟาร์มที่ตรงตามข้อกำหนดและมาตรฐานเฉพาะของโครงการ ซึ่งรวมถึงการประเมินความเสี่ยง การบันทึกข้อมูล การประเมินตนเองของหน่วยการผลิต การรับรองความปลอดภัยของอาหารในทุกขั้นตอนการผลิต มาตรฐานการใช้เชื้อเพลิงและพลังงาน และการมีระบบติดตามและแยกผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกสาร”

Saudi G.A.P. ยังกำหนดให้ผู้จัดการหน่วยการผลิตและผู้รับผิดชอบการจัดการผลิตภัณฑ์ การควบคุมศัตรูพืช การจัดการปุ๋ย ความปลอดภัยในการทำงาน และอุปกรณ์และเครื่องจักรต้องมีความสามารถและการฝึกอบรม และยังครอบคลุมถึงการจดทะเบียนแรงงาน การปฏิบัติต่อคนงาน การประกันภัยความเสี่ยง ความปลอดภัยของดินและการป้องกันการกัดเซาะ ความปลอดภัยของน้ำที่ใช้ในการเกษตรและการจัดการผลิตภัณฑ์ การจัดการน้ำเสีย การดูแลสัตว์ป่าที่ดีขึ้น และการปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ การจัดการมลพิษและของเสีย

แนวทางด้านสุขอนามัยและสาธารณสุข ความพร้อมของสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสุขาภิบาล พื้นที่สูบบุหรี่และพื้นที่รับประทานอาหาร มาตรการป้องกันโรคจากผู้มาเยือน การวางแผนการใช้ปุ๋ยและยาฆ่าแมลงอย่างมีประสิทธิภาพ และสภาพแวดล้อมทั่วไปสำหรับการเก็บเกี่ยว การบรรจุ และการเก็บรักษา

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยแพร่ ว่า เมื่อ 14 ส.ค. 2567 ได้รับแจ้ง Animal Production Standards - Saudi Good Agricultural Practices ซึ่งจะมีผลต่อสินค้าไก่ทุกชนิด (เช่น ไก่ทั้งตัว อกไก่ น่องไก่ไม่มีหนังไม่มีกระดูก, ปีกไก่ น่องไก่ น่องไก่ทั้งตัว)

นายสัตวแพทย์ชัยวัฒน์ โยธคล เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เปิดเผยว่า มกอช. ได้มอบหมายให้นางสาวรวินันท์ ฉ่ำเฉลิม ผู้อำนวยการกองนโยบายมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหาร นำทีมฝ่ายไทยจาก มกอช. และกรมปศุสัตว์ หารือทวิภาคีกับMEWA เพื่อเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตามมาตรฐาน Saudi GAP ซึ่งกำหนดให้ฟาร์มสัตว์ปีกที่ส่งออกไปยังซาอุฯ ต้องผ่านการขึ้นทะเบียนและรับรองจากหน่วยงาน MEWA

ทั้งนี้ ฝ่ายไทยได้เสนอให้กรมปศุสัตว์ทำหน้าที่ตรวจประเมินและรับรองมาตรฐานแทนหน่วยงานของซาอุฯ เพื่อช่วยลดภาระและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการไทย ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาของทางซาอุฯ ในระหว่างนี้ MEWA เตรียมเปิดระบบลงทะเบียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ “Naama” ภายในเดือนส.ค.นี้ เพื่อให้ฟาร์มสัตว์ปีกที่ต้องการส่งออกไปยังซาอุฯ สามารถยื่นขอรับรองมาตรฐาน Saudi GAP ได้โดยตรง

นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งข่าวดี MEWA ตอบรับคำขอของฝ่ายไทยในการเลื่อนการบังคับใช้ Saudi GAP สำหรับ 11 โรงงานรายเดิมที่ขึ้นทะเบียนกับ อย.ซาอุฯ (SFDA) แล้ว โดยทั้ง 11 โรงงานนี้ยังสามารถส่งออกผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกจากฟาร์มที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน Saudi GAP กับ MEWA ได้ จนถึงเดือนมี.ค.2569 ดังนั้น ในระหว่างนี้โรงงานจำเป็นต้องขึ้นทะเบียนฟาร์มกับ MEWA ให้แล้วเสร็จก่อนวันบังคับใช้ดังกล่าว

“การหารือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยรักษาตลาดส่งออกสัตว์ปีกของไทย พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้มีเวลาปรับตัว เข้าสู่มาตรฐานใหม่อย่างราบรื่น โดยหากมีความคืบหน้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบการขึ้นทะเบียน มกอช. จะประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการทราบต่อไป”

สำหรับการส่งออกไทยไปซาอุดีอาระเบีย ปี 2567 มูลค่า 2,850 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 11.71% สินค้าสำคัญอันดับแรกรถยนต์ฯ 1,624 ล้านดอลลาร์ ไม้และผลิตภัณฑ์ 199 ล้านดอลลาร์ เครื่องจักรกลฯ 123 ล้านดอลลาร์ ผลิตภัณฑ์ยาง 161 ล้านดอลลาร์ และ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรู 149 ล้านดอลลาร์ ส่วนการส่งออกครึ่งปีแรก 2568 (ม.ค.-มิ.ย.) มูลค่า 1,250 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 3.86%