โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

Anthropic ไม่สู้ราคาแย่งวิศวกร AI ซีอีโอชี้ วัฒนธรรมองค์กรดีๆ ซื้อไม่ได้ด้วยเงิน

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วงการปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในปัจจุบันคล้ายกับลีกกีฬาชั้นนำ ที่แต่ละทีมต่างแย่งตัวนักเตะระดับโลกกันอย่างเข้มข้น เพียงแต่สนามแข่งขันเปลี่ยนจากสนามฟุตบอล มาเป็นสมองของวิศวกร และคุณค่าที่แต่ละบริษัทเลือกจะให้ความสำคัญก็แตกต่างกันไป

บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Meta (บริษัทแม่ของ Facebook), Google และ OpenAI (ผู้พัฒนา ChatGPT) กำลังทุ่มเงินมหาศาลเพื่อแย่งชิง “วิศวกรระดับหัวกะทิ” ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเอไอให้มาเข้าร่วมทีม

บางรายถึงขั้นเสนอค่าตัวพนักงานพร้อมโบนัสเซ็นสัญญาแตะระดับร้อยล้านดอลลาร์ หรือหลายพันล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่สูงมากจนแทบเหนือจินตนาการ

สาเหตุที่บริษัทต่างๆ ยอมจ่ายเงินสูงขนาดนี้ เนื่องจากวิศวกรเอไอที่มีความสามารถระดับสูงมีจำนวนจำกัดมาก ในขณะที่ความต้องการของตลาดกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว การได้วิศวกรเก่งๆ มาร่วมทีมจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดความสำเร็จของบริษัทในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางเกมประมูลที่ดุเดือดนี้ มีบริษัทหนึ่งที่เลือกเดินออกจากโต๊ะเจรจา และประกาศจุดยืนชัดเจนว่า “เราจะไม่เข้าร่วมสงครามราคา” บริษัทนั้นคือ Anthropic ผู้พัฒนาแชตบอต Claude

ดาริโอ อาโมเดอี (Dario Amodei) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Anthropic ซึ่งเป็นอดีตผู้บริหารระดับสูงของ OpenAI ก่อนจะลาออกมาก่อตั้งบริษัทของตัวเองในปี 2021 ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการพอดแคสต์ Big Technology ว่า “บริษัทจะไม่ยอมให้วัฒนธรรมองค์กรถูกทำลายเพราะสงครามแย่งตัวคนเก่งด้วยเงิน”

เขาเล่าว่า พนักงานหลายคนในบริษัทเคยได้รับข้อเสนอจากบริษัทใหญ่ๆ ที่ให้ตัวเลขระดับที่คนทั่วไปอ่านแล้วต้องขยี้ตา บางคนได้โบนัสเซ็นสัญญาสูงถึง 100 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 3,500 ล้านบาท

แทนที่จะเข้าร่วมการแข่งขันด้วยตัวเลข Anthropic เลือกใช้ระบบเงินเดือนแบบ “กำหนดตามระดับ” หรือ level-based compensation หมายความว่า ไม่ว่าคุณจะมีทักษะการต่อรองเก่งแค่ไหน หรือได้รับข้อเสนองานจากที่อื่นมาเท่าไร คุณก็จะได้รับค่าตอบแทนตามระดับความสามารถและประสบการณ์จริงๆ ที่บริษัทประเมินไว้ ไม่ใช่ตามสิ่งที่สามารถต่อรองได้ในขณะนั้น

“ถ้า มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (ซีอีโอของ Meta) ปาเป้าไปที่บอร์ดรายชื่อพนักงาน แล้วบังเอิญโดนชื่อคุณ นั่นไม่ได้แปลว่าคุณควรได้เงินเดือนมากกว่าคนข้างๆ ถึง 10 เท่า ทั้งที่เขากับคุณมีความสามารถเท่าๆ กัน” อาโมเดอีใช้คำอุปมานี้เพื่ออธิบายความไม่ยุติธรรมที่อาจเกิดขึ้น

นี่คือ “ความบิดเบี้ยว” ทางเศรษฐกิจและสังคมที่เขาไม่อยากให้เกิดขึ้นในบริษัทตนเอง เพราะมันจะบ่อนทำลายขวัญกำลังใจของคนในทีม สร้างความแปลกแยกระหว่างพนักงาน และทำลายวัฒนธรรมองค์กรที่สร้างมาจากความเสมอภาค ความยุติธรรม และความไว้วางใจซึ่งกันและกัน

สิ่งที่น่าสนใจกว่าก็คือ มีพนักงานหลายคนใน Anthropic ปฏิเสธข้อเสนอเหล่านั้น บางคนถึงขั้นบอกว่า “ไม่คุยกับซักเคอร์เบิร์กด้วยซ้ำ” เมื่อได้รับการติดต่อจาก Meta

เหตุผลหลักที่พนักงานเหล่านี้ตัดสินใจอยู่ต่อ ไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่สนใจเงิน แต่เพราะพวกเขาเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์และพันธกิจของ Anthropic มากกว่าแค่ตัวเลขในบัญชีธนาคาร ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการสร้างความหมายและจุดประสงค์ในการทำงานมีความสำคัญไม่แพ้การให้ผลตอบแทนทางการเงิน

อาโมเดอีอธิบายว่า เหตุการณ์นี้กลับกลายเป็น “จุดรวมพลัง” ของทีมอย่างไม่คาดคิด เพราะมันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า Anthropic เป็นพื้นที่ของคนที่มีความศรัทธาและความเชื่อมั่นในเป้าหมายร่วมกัน ไม่ใช่แค่ศูนย์รวมของคนที่มาหาเงินเดือนสูงๆ เท่านั้น

ในขณะที่ Anthropic ยืนกรานไม่เล่นเกมแย่งตัวด้วยเงิน บริษัท Meta กลับยืนยันจุดยืนในทิศทางตรงกันข้าม การแถลงผลประกอบการครั้งล่าสุด บริษัทยืนยันหนักแน่นว่า กำลังมุ่งมั่นสร้างทีมพัฒนาเอไอที่เก่งที่สุดในโลก และเน้นย้ำว่าเพิ่งได้นักพัฒนาระดับแถวหน้าเข้ามาร่วมทีมแบบจัดเต็ม

กลยุทธ์ของ Meta สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อที่ว่า การได้ “คนเก่ง” มาร่วมงานด้วยเงินมากๆ จะช่วยให้บริษัทชนะการแข่งขันในระยะยาว ขณะที่ Anthropic เชื่อว่า การมีทีมงานที่มีจิตใจเป็นหนึ่งเดียวกันจะสำคัญกว่า

คำถามที่เหลือคือ แนวทางไหนจะประสบความสำเร็จในระยะยาว? การใช้เงินแย่งตัวคนเก่ง หรือการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่งและยั่งยืน? คำตอบอาจจะชัดเจนในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เมื่อผลลัพธ์จากทั้งสองแนวทางเริ่มปรากฏให้เห็น

อ้างอิง: Business Insider และ The Economic Times

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

'สหพัฒนพิบูล' คว้า 'Adidas' เจาะต่างจังหวัด ปั๊มยอดขายกว่า 60 ล้านบาทต่อปี

33 นาทีที่แล้ว

Google ตัดงบองค์กรความเท่าเทียมกว่า 50 แห่ง สนับสนุน AI แทนสิทธิสตรี - เชื้อชาติ

44 นาทีที่แล้ว

'มทภ.2' โต้ 'พล.ท.มาลี' ทหารไทยยึดช่องอานม้า ก่อนมีมติหยุดยิง

45 นาทีที่แล้ว

‘แพทองธาร’ ไม่ลาออก ส่งแจง ‘ศาลรธน.’ แล้ว ยัน เจตนาบริสุทธิ์ คุย ฮุน เซน

47 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอที ธุรกิจอื่น ๆ

มทร.ธัญบุรี จับมือ ACTEC ญี่ปุ่น เดินหน้านวัตกรรม “PRSS” NEW PLA-KUN กักเก็บน้ำใต้ดิน แก้ปัญหาน้ำท่วม-ภัยแล้งในไทย

สยามรัฐ

อว.จับมือ RSP.NE2 เครือข่าย ขับเคลื่อน NeEC ต้นแบบพัฒนาไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

MATICHON ONLINE

เปิด 10 จุดอ่อนร้ายแรงต้นเหตุหน่วยงานรัฐ-เอกชนถูกโจมตีไซเบอร์

ฐานเศรษฐกิจ

จับตามอง “พุทธมณฑล–เพชรเกษม” ทำเลศักยภาพของกรุงเทพตะวันตก สะดวก ครบ ยกระดับการอยู่อาศัย คำตอบสุดท้ายของการมีบ้าน

Wealthy Thai

'สหพัฒนพิบูล' คว้า 'Adidas' เจาะต่างจังหวัด ปั๊มยอดขายกว่า 60 ล้านบาทต่อปี

กรุงเทพธุรกิจ

กรุงเทพโปรดิ๊วส รับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทั่วประเทศ หนุนผลผลิตไม่รุกป่า-ปลอดเผา

The Bangkok Insight

AI ของ iPhone ยังไม่เริ่ด ไม่เป็นไร ขายดีแล้วกัน แม้ต้องแลกกับความเสี่ยง

TODAY

Google ตัดงบองค์กรความเท่าเทียมกว่า 50 แห่ง สนับสนุน AI แทนสิทธิสตรี - เชื้อชาติ

กรุงเทพธุรกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...