พ่อแม่ใจสลาย! ไฟไหม้กระท่อมนาวอดทั้งหลัง ลูกชาย 9 ขวบ ดับสลดคากองเพลิง
วันที่ 5 ส.ค. 2568 มีรายงานว่าเมื่อวันที่ 4 ส.ค. ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ประวิทย์ อิ่มใจ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ย่อยห้วยหลวง อ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้เถียงนา ทางทิศใต้บ้านนิคมพัฒนา หมู่ 8 ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมือง จ.อุดรธานี มีผู้เสียชีวิต จึงพร้อมด้วยดับเพลิง อบต.นิคมสงเคราะห์ กู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรม รุดไปตรวจสอบ
โดยที่เกิดเหตุเป็นเถียงนาทำด้วยไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูง เพลิงกำลังลุกไหม้เถียงนา ซึ่งมีเด็กชาย 9 ขวบนอนอยู่ในกระท่อม เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันฉีดน้ำดับไฟ แต่เพลิงได้เผาไหม้เถียงนาวอดทั้งหลัง เจ้าหน้าที่พบศพ น้องเมษ อายุ 9 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.4 ถูกไฟเผาดำเป็นตอตะโกอยู่ริมสระน้ำ และมีโครงแผงโซลาร์เซลล์ที่ตั้งอยู่หลังบ้าน รถจักรยานยนต์ โดนไฟไหม้ได้รับความเสียหาย ส่วนหมูที่เลี้ยงไว้ 6 ตัว หายไปทั้งหมด
นางราตรี เล่าว่า ตนเป็นแม่ม่ายมีลูกติด 2 คน น้องเมษเป็นลูกคนเล็ก ตนอยู่กินกับสามีใหม่ ซึ่งเลี้ยงน้องเมษมาตั้งแต่เด็ก และรักน้องเมษเหมือนลูกแท้ๆ พวกตนมาอาศัยอยู่ที่เถียงนา รวม 3 คน โดยจะมีอาชีพเกษตรกรทำนา ทำไร่มันสำปะหลัง เผาถ่าน และเลี้ยงหมู 6 ตัว
ก่อนเกิดเหตุน้องเมษบ่นอยากกินตั๊กแตนทอด จึงรับปากว่าจะไปจับมาให้ กระทั่งเวลาประมาณ 21.00 น. พวกตนได้ออกไปเตาเผาถ่าน ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 300 เมตร เสร็จแล้วได้ชวนกันไปจับตั๊กแตนมาให้ลูก ซึ่งก่อนพวกตนจะออกจากบ้าน ได้เสียบปลั๊กไฟชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์ให้น้องเมษนอนเล่นเกมอยู่ในบ้าน กระทั่งเวลาเที่ยงคืน พวกตนเห็นไฟไหม้บ้าน จึงรีบวิ่งกลับมา ก็พบว่าไฟไหม้บ้านอย่างรวดเร็ว พวกตนวิ่งวนรอบบ้านเรียกหาลูกก็ไม่พบ จึงได้ไปบอกพ่อให้แจ้งเจ้าหน้าที่ ก็พบศพน้องเมษเสียชีวิตในกองเพลิง
เชื่อว่าลูกนอนเล่นโทรศัพท์ แต่ได้เสียบปลั๊กไฟชาร์จแบตโทรศัพท์ด้วย ซึ่งลูกอาจจะเผลอหลับและพลิกตัวไปมา ทำให้ปลั๊กที่เสียบจะสปาร์กอยู่ตลอดเกิดลัดวงจร ทำให้ไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เพราะว่าที่นอน และเสื้อผ้าจำนวนมากเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี อีกทั้งลูกเป็นคนที่นอนขี้เซา จึงหนีไม่ทัน ถ้าลูกรับรู้ได้ อยากจะบอกว่า แม่ขอโทษที่ช่วยลูกไม่ได้ ชาติหน้าให้เกิดเป็นลูกแม่อีกนะ