ตำรวจแนะวิธีสังเกตความแตกต่าง โดรน กับ เครื่องบิน ย้ำหากพบโดรนต้องสงสัยแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ 24 ชั่วโมง
วันนี้ (5 สิงหาคม) จากกรณีที่มีผู้แจ้งเหตุพบเห็นวัตถุบินต้องสงสัยคล้ายโดรนในพื้นที่กรุงเทพมหานครและตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทำให้เกิดความกังวลว่าจะเป็นโดรนสอดแนมจากต่างประเทศนั้น พ.ต.ท.วสุเทพ ใจอินทร์ หัวหน้าชุดแอนตี้โดรน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้ออกมาชี้แจงว่าจากการตรวจสอบเบื้องต้น วัตถุที่พบส่วนใหญ่เป็น เครื่องบิน ไม่ใช่โดรน
เพื่อคลายความกังวลและให้ประชาชนสังเกตความแตกต่างได้เอง พ.ต.ท.วสุเทพ ได้ให้ข้อสังเกตง่ายๆ ดังนี้
ไฟสัญญาณและทิศทางการบิน
- โดรน: จะมีไฟสัญญาณหลายรูปแบบ โดยส่วนใหญ่ไฟด้านหน้าจะเป็นสีเขียวสลับแดง ด้านหลังเป็นสีเขียวกระพริบ และหากเป็นโดรนสองปีก ไฟที่ปีกขวาจะเป็นสีเขียว ส่วนปีกซ้ายจะเป็นสีแดงกระพริบ การเคลื่อนที่ของ
โดรนมีความคล่องตัวสูง สามารถบินได้ 360 องศา และบินแบบซิกแซ็กได้
- เครื่องบิน: จะมีไฟที่ปีกขวาเป็นสีเขียว ปีกซ้ายเป็นสีแดง และมีไฟสีขาวอยู่ที่ส่วนท้ายและใต้ท้องเครื่องบิน การบินของเครื่องบินจะเป็น เส้นตรง และมีทิศทางเดียว
เสียงและข้อควรระวัง
สำหรับเรื่องเสียง หากอยู่ในพื้นที่ที่เงียบสงบ โดรนจะมีเสียงที่ดังกว่า และแตกต่างจากเสียงเครื่องบินอย่างชัดเจน แต่ในพื้นที่ชุมชนหรือเมืองใหญ่ อาจฟังเสียงได้ยากเนื่องจากมีเสียงรบกวนจำนวนมาก ส่วนความสูงของวัตถุนั้นเป็นสิ่งที่สังเกตด้วยตาเปล่ายาก เจ้าหน้าที่เองก็ยังประสบปัญหาในการมองเห็น
พ.ต.ท.วสุเทพ ยังกล่าวเสริมว่า ตอนนี้มีข้อมูลว่าเกษตรกรบางส่วนใช้โดรนในการทำเกษตร ซึ่งเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่เข้าใจ แต่หากประชาชนพบเห็นโดรนต้องสงสัยหรือพบการล่วงล้ำพื้นที่ สามารถโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตลอด 24 ชั่วโมง