ภาษีทรัมป์ 19% คาดจะฉุดส่งออกปี 69 หายไปสองแสนล้านบาท
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 6 สิงหาคม 2568 เวลา 0.41 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทกรุงเทพฯ 5 ส.ค. – ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ หอการค้าไทย เผยผลกระทบจากภาษีสหรัฐ 19% ในปี 2569 คาดจะฉุดการส่งออกไทยมูลค่าเสียหายกว่า 2 แสนล้านบาท มีผลกระทบต่อจีดีพีลดลง 1.48% แต่หากดูเฉพาะ 5 เดือนสุดท้ายของปี 2568 จะทำให้มูลค่าการส่งออกไทยหายไปประมาณ 114,612 ล้านบาท พร้อมเผยวันแม่ปี 2568 คาดเงินสะพัด 11,062 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.9% ท่ามกลางความกังวลเศรษฐกิจ-การเมือง ผู้บริโภคกังวลเศรษฐกิจ
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ประเทศไทยได้อัตราภาษีที่ 19% ถ้าเทียบกับคู่แข่งยังมองว่าเราไม่ได้เสียเปรียบ โดยการเจรจาครั้งนี้มองว่าเป็นการเจรจาในอัตราภาษีสหรัฐเป็น 0% ในขณะที่ประเทศอื่นจะต้องมีการเสียภาษีนำเข้า ซึ่งมีการกำหนดที่แตกต่างกันไป
ทั้งนี้ สิ่งที่จะต้องติดตามและให้ความสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องของการใช้วัตถุดิบการผลิตเพื่อการส่งออก ทั้งนี้ ยังมีรายละเอียดที่ไม่ชัดเจน แต่จากการประเมินเบื้องต้นหากเป็นการใช้วัตถุดิบภายในประเทศจะอยู่ที่ประมาณ 50% การใช้วัตถุดิบในกลุ่มภูมิภาคประมาณ 40% หรือไม่ ในเรื่องนี้คงต้องรอดูความชัดเจน แต่เชื่อว่าผู้ส่งออกแต่ละอุตสาหกรรมคงพอจะรับรู้ว่าแต่ละกลุ่มใช้วัตถุดิบเพื่อการผลิตเท่าไหร่ โดยในระยะ 5 เดือนสุดท้ายของปีนี้ มองว่าโอกาสสูญเสียมูลค่าการส่งออกของไทยประมาณ 114,612 ล้านบาท หรือกระทบต่อจีดีพีไทย -0.62% แต่ในปี 2569 คาดว่ามูลค่าการส่งออกที่ไทยจะสูญเสียถึง 2 แสนล้านบาท และกระทบจีดีพีประมาณ 1.48%
อย่างไรก็ดี โอกาสของไทยในการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ โดยเฉพาะสินค้าทุน เช่น กลุ่มเครื่องจักรก็จะมีโอกาสที่จะเข้ามายกระดับการผลิตสินค้าไทยได้ คาดว่าจีดีพีโลกในปีนี้จะอยู่ที่ 2.5% ส่วนภาพของการท่องเที่ยวไทย เชื่อว่าทั้งปีจะมีนักท่องเที่ยวเข้าไทยอยู่ที่ประมาณ 34 ล้านคน ส่วนการขยายตัวจีดีพีของไทยในปีนี้ จากหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงภาษีสหรัฐ จะขยายตัวอยู่ที่ 1.7% หรืออยู่ในกรอบ 1.5-2.2%
ส่วนผลกระทบปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยขณะนี้คาดการณ์ว่าจะกระทบการค้าชายแดนไทย-กัมพูชาเดือนละ 11,000 ล้านบาท ขณะที่งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาท ยังมองว่าโครงการยังขับเคลื่อนไม่ได้เต็มที่ ส่วนเสถียรภาพทางการเมืองยังคงต้องติดตามว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในเดือนสิงหาคมนี้
นายวิเชียร แก้วสมบัติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจภาษีสหรัฐ 19% ตำแหน่งการแข่งขันและผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย พบว่า ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยจากกรณีที่สหรัฐอเมริกาประกาศภาษีศุลกากรตอบโต้ไทยในอัตรา 19% ว่าสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากการส่งออก คืออุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์, เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ยางและผลิตภัณฑ์ยาง เนื่องจากมีส่วนแบ่งในตลาดสหรัฐสูง และยังพึ่งพาตลาดสหรัฐค่อนข้างมาก
นายธนวรรธน์ ยังเปิดเผยจากผลสำรวจทัศนคติและพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงวันแม่ สำรวจระหว่างวันที่ 28 กรกฎาคม ถึง 2 สิงหาคม 2568 จำนวนกลุ่มตัวอย่าง 1,422 ตัวอย่างทั่วประเทศ ว่า การเลือกซื้อของขวัญในวันแม่ปีนี้ มีการซื้อมากขึ้นทั้งรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ โดยจะเน้นในกลุ่มสินค้าที่มีราคาถูก ซึ่งราคาสินค้ามีผลต่อการตัดสินใจของผู้ซื้อเป็นอย่างมาก
สำหรับการใช้จ่ายในช่วงวันแม่จะพบว่าส่วนใหญ่จะพาแม่ไปทานข้าว พาไปทำบุญ ส่วนการวางแผนไปเที่ยวต่างจังหวัดในปีนี้ 78.2% ไม่ไป และงบประมาณการใช้จ่ายในปีนี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนักโดยคาดว่าปริมาณเงินสะพัดในช่วงวันแม่อยู่ที่ 11,062 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 1.9%
อย่างไรก็ดี จากการติดตามยังพบว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังมีความกังวลในเรื่องของปัญหาเศรษฐกิจในปัจจุบัน 59.1% ดังนั้นความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง 5 เดือนติดยังซึมตัวต่อเนื่อง เพราะประชาชนยังกังวลเรื่องการเมือง ซึ่งสูงถึง 40% และผลสำรวจยังพบว่าเศรษฐกิจของไทยในปีนี้แย่ลงมาก เมื่อเทียบจากปีที่ผ่านมา
ดังนั้นการพลิกฟื้นเศรษฐกิจเป็นสิ่งที่จำเป็น โดยมาตรการ 1.5 แสนล้านบาทต้องเร่งทำทันที และหวังว่างบประมาณแผ่นดิน จะผ่านภายในกลางเดือน สิงหาคม เพราะการใช้เงินต้นไตรมาส 3 และไตรมาส 4 สำคัญมาก. -513-สำนักข่าวไทย