ทรัมป์ยัวะปูติน เร่งรัสเซียต้องยุติสงครามกับยูเครน “ภายใน 10-12 วัน”
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเทิร์นเบอร์รี สกอตแลนด์ เมื่อวันที่ 29 ก.ค. ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวระหว่างการเยือนสกอตแลนด์ ว่าจากที่เคยกำหนด "เส้นตาย" ให้กับรัสเซีย ต้องบรรลุข้อตกลงสันติภาพกับยูเครน ภายในระยะเวลา 50 วัน นับตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค. ที่ผ่านมา ตอนนี้เขาขอลดระยะเวลาดังกล่าว ให้เหลือ "ระหว่าง 10-12 วัน" นับตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค. เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา "ไม่มีความคืบหน้าใดอย่างมีนัยสำคัญ" จากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย
ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ออกมาแสดงความชื่นชมว่า ผู้นำสหรัฐ "มีจุดยืนที่ชัดเจนและเต็มเปี่ยมด้วยความมุ่งมั่นที่แสดงออกมา" ซึ่งเกิดขึ้นได้อย่างถูกเวลา เนื่องจากหลายสิ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้ด้วยการขับเคลื่อนอย่างเข้มแข็ง ซึ่งจะนำไปสู่สันติภาพที่แท้จริง
ด้านทำเนียบเครมลินยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม นายดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวว่า "คำขาดคือการข่มขู่" และ "เท่ากับเป็นการนำสหรัฐก้าวย่างเข้าสู่สงครามเอง"
ทั้งนี้ ทรัมป์เคยกล่าวว่า สหรัฐจะใช้มาตรการ “ภาษีรอง” หรือ “ภาษีทุติยภูมิ” ในอัตรา 100% กับทุกประเทศพันธมิตรที่ยังคงค้าขายกับรัสเซีย ซึ่งน่าจะเป็นการพุ่งเป้าไปยังจีนและอินเดีย ที่ยังคงนำเข้าน้ำมันปริมาณมหาศาลจากรัสเซียในแต่ละปี
นอกจากนั้น สหรัฐกลับมามอบความสนับสนุนด้านอาวุธให้แก่ยูเครน ซึ่งรวมถึงระบบขีปนาวุธแพทริออต กระสุนปืนใหญ่ และอาวุธป้องกันอีกหลายชนิด โดยเป็นการทำข้อตกลงกับองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่จะเป็นผู้ซื้ออาวุธเหล่านี้ แล้วนำไปส่งมอบให้กับยูเครนต่อไป ซึ่งตอนนี้ยูเครนกำลังเร่งระดมทุนร่วมกับสมาชิกนาโตหลายแห่ง เพื่อการซื้อระบบแพทริออต.
เครดิตภาพ : AFP