BCH กำไรโตสะบัด ลูกค้าตปท.กลับมา!

หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง Bangkok Chain Hospital (BCH) ว่า คาดกำไร 2Q25 ฟื้นตัวโดดเด่น YoY จากฐานต่ำ

คาดกำไรปกติ 2Q25 +6% QoQ, +23% YoY จากฐานต่ำ ประสิทธิภาพในการทำกำไรดีขึ้น เราคาดกำไรสุทธิใน 2Q25 ที่ 342 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +6% QoQ และ +23% YoY โดยมีปัจจัยสำคัญดังนี้:

คาดรายได้เพิ่ม +3% QoQ และ +5% YoY จากฐานต่ำในปีก่อน ปัจจัยหลักมาจากรายได้จากประกันสังคม ซึ่งในปีก่อนมีรายการปรับปรุงการเบิกจ่ายโรคซับซ้อน (AdjRW > 2) จากประกันสังคมประมาณ 80 ล้านบาท ขณะที่ปีนี้สามารถเบิกจ่ายในอัตรา 12,000 บาทต่อ AdjRW ได้ตลอดปี โดยไม่ถูกปรับลด

รายได้จากลูกค้าต่างชาติฟื้นตัว โดยเฉพาะกลุ่มตะวันออกกลาง หลังผ่านพ้นช่วงเทศกาลรอมฎอน (ปี 2024 อยู่ในช่วงต้นไตรมาส 2 แต่ปี 2025 อยู่ในช่วงปลายไตรมาส 1)

ประสิทธิภาพในการทำกำไรดีขึ้น เนื่องจากรายได้ประกันสังคมไม่มีรายการเรียกคืนค่ารักษา และโรงพยาบาลใหม่ที่เปิดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาเริ่มกลับมามีกำไร โดย EBITDA Margin ปรับเพิ่มจาก 20.9% ใน 2Q24 เป็น 24.1%

คาดกำไร 2H25 ปรับตัวดีกว่าครึ่งปีแรก
เราคาดว่าผลประกอบการครึ่งหลังของปีจะเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรก ซึ่งเป็นช่วง High Season ของธุรกิจโรงพยาบาล และเติบโตจากฐานที่ต่ำในปีก่อน

อย่างไรก็ตาม เราใช้ประมาณการแบบอนุรักษ์นิยมมากขึ้น โดยปรับลดคาดการณ์กำไรปี 2025 ลง 7% เหลือ 1,523 ล้านบาท (+19% YoY) พร้อมปรับลดสมมติฐานรายได้ลง 4% เหลือ 12,444 ล้านบาท (+6% YoY) ซึ่งต่ำกว่าเป้าของบริษัทที่ตั้งเป้าเติบโต 8–10% YoY โดยรายได้ผู้ป่วยในประเทศยังเติบโตในระดับต่ำ

ปัจจัยหนุนการเติบโตในปี 2025 ได้แก่

Organic Growth จากจำนวนผู้ป่วยเงินสดทั้ง OPD และ IPD ที่ฟื้นตัวดีตั้งแต่ต้นปี โดยมีโรคระบาดเพิ่มขึ้น

รายได้จากประกันสังคม เติบโตดีขึ้น หลังมีการยืนยันอัตราเบิกจ่ายค่ารักษาโรคซับซ้อน (AdjRW > 2) คงที่ที่ 12,000 บาท/AdjRW ตลอดปี ไม่ถูกปรับลดเหมือนช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

การฟื้นตัวของลูกค้าต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่ม CLMV และลิเบีย

การฟื้นตัวของโรงพยาบาลใหม่ ที่ทยอยเปิดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะโรงพยาบาลสาขาเวียงจันทน์ซึ่งคาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนในปีนี้

ผลกระทบจากความขัดแย้งไทย-กัมพูชา มีจำกัดและไม่สำคัญ
BCH มีโรงพยาบาลในอรัญประเทศ 1 แห่ง ซึ่งมีสัดส่วนรายได้เพียง 1% ของรายได้รวม จึงไม่มีนัยสำคัญต่อภาพรวมของบริษัท และมองว่าเป็น Sentiment เชิงลบในระยะสั้นเท่านั้น

คงคำแนะนำ “ซื้อ” – ฟื้นตัวโดดเด่นกว่ากลุ่ม
เราคาดว่าผลประกอบการปีนี้จะฟื้นตัวโดดเด่นจากฐานต่ำ โดยเฉพาะจากกลุ่มประกันสังคม แม้จะปรับลดมูลค่าพื้นฐานปี 2025 จาก 20.40 บาท เหลือ 19.10 บาท สะท้อนการปรับประมาณการ โดยอิงวิธี DCF และใช้สมมติฐาน WACC ที่ 7.6% ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ P/E Band ระยะ 5 ปีที่ระดับ -1SD ซึ่งยังไม่สะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่ดีของบริษัท เราจึงมองว่าเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าลงทุน