ก.ล.ต.ฟันแพ่งผู้กระทำความผิด 6 ราย กรณีปั่นหุ้น UREKA
หุ้นวิชั่น
อัพเดต 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 16 ชั่วโมงที่ผ่านมา • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้นหุ้นวิชั่น - ก.ล.ต. เปิดเผยการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 6 ราย กรณีร่วมกัน สร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหุ้นบริษัท ยูเรกา ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) (UREKA) โดยเรียกให้ชำระเงินตามมาตรการลงโทษทางแพ่งรวม 65,946,478 บาท พร้อมทั้งกำหนดระยะเวลาห้ามซื้อขายหลักทรัพย์ และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย (ตลาดหลักทรัพย์ฯ) เมื่อเดือนกันยายน ปี 2563 และตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ระหว่างวันที่ 31 มีนาคม 2563 ถึงวันที่ 8 พฤษภาคม 2563 ผู้กระทำความผิด 6 ราย ได้แก่ (1) นายปรีชา ใคร่ครวญ (2) นายพงษ์เชณฐ เหรียญชัยวานิช (3) นายศรายุทธ คงอ่ำ (4) นางสาวอารีพร แก้วกลม (5) นายวรวิทย์ ควนวิไล และ (6) นางสาวโสพิส ผูกพัทธิ์ ซึ่งมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงระหว่างกัน ทั้งในด้านความสัมพันธ์ส่วนบุคคล ความสัมพันธ์ทางธุรกิจ และความสัมพันธ์ทางเงิน ได้ร่วมกันในกรณีสร้างราคาหรือปริมาณหลักทรัพย์ โดยส่งคำสั่งซื้อหรือขายหลักทรัพย์ หรือซื้อหรือขายหลักทรัพย์ ในลักษณะต่อเนื่องกัน โดยมุ่งหมายให้ราคาหลักทรัพย์ หรือปริมาณการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด
ทั้งนี้ ผู้กระทำความผิด 6 รายดังกล่าวได้ร่วมกันกระทำการโดยแบ่งหน้าที่กันซื้อขายหุ้น UREKA ในลักษณะสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขาย โดยมีพฤติกรรมสอดรับและสนับสนุนซึ่งกันและกันในลักษณะสลับหน้าที่กันเข้ามาสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหุ้น UREKA ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยมีการส่งคำสั่งซื้อในลักษณะผลักดันราคาให้ปรับตัวสูงขึ้น การเคาะซื้อด้วยหุ้นปริมาณน้อยโดยประสงค์ให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น การเคาะซื้อหรือส่งคำสั่งซื้อเพื่อกวาดคำเสนอขาย (offer) ที่ดีที่สุด การครองคำเสนอซื้อ (bid) ในหลายระดับราคาเพื่อขัดขวางการซื้อขายของนักลงทุนอื่น ทำให้นักลงทุนอื่นต้องเคาะซื้อในราคาที่สูงขึ้น การควบคุมราคาปิด รวมถึงการจับคู่ซื้อขายด้วยปริมาณ ราคา และช่วงเวลาใกล้เคียงกันหลายครั้ง และมีพฤติกรรมสอดรับหรือสนันสนุนในลักษณะความสัมพันธ์ทางเงินในการกระทำความผิดระหว่างกัน ส่งผลให้ราคาหุ้น UREKA เปลี่ยนแปลงไปไม่ตรงต่อสภาพปกติของตลาด
การกระทำของกลุ่มผู้กระทำความผิดจำนวน 6 รายข้างต้น เป็นความผิดฐานตามมาตรา 244/3(1)(2) ประกอบมาตรา 244/5 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งต้องระวางโทษตามมาตรา 296 มาตรา 296/1 และมาตรา 296/2 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน
คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับ* กับผู้กระทำความผิดทั้ง 6 รายดังกล่าว โดยกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง ได้แก่
(1) ให้นายปรีชา ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 37,856,934 บาท รวมถึงห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 17 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ เป็นเวลา 34 เดือน
(2) ให้นายพงษ์เชณฐ ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ
และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 991,459 บาท รวมถึงห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 14 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ เป็นเวลา 28 เดือน
(3) ให้นายศรายุทธ ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ
และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 25,123,872 บาท รวมถึงห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 17 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ เป็นเวลา 34 เดือน
(4) ให้นางสาวอารีพร ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ
และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 674,513 บาท รวมถึงห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 14 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ เป็นเวลา 28 เดือน
(5) ให้นายวรวิทย์ ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ
และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 625,187 บาท รวมถึงห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 14 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ เป็นเวลา 28 เดือน
(6) ให้นางสาวโสพิส ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 674,513 บาท รวมถึงห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 14 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ เป็นเวลา 28 เดือน
มาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนดจะมีผลนับตั้งแต่วันที่ผู้กระทำความผิดลงนามในบันทึกการยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด หากผู้กระทำความผิดไม่ยินยอม ก.ล.ต. จะมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลแพ่งเพื่อกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งในอัตราที่อัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติโดยไม่ต่ำกว่าอัตราที่ ค.ม.พ. กำหนด
ทั้งนี้ เงินค่าปรับทางแพ่งและเงินค่าชดใช้คืนผลประโยชน์ที่ได้รับจากการกระทำความผิดเป็นรายได้แผ่นดิน
ที่นำส่งกระทรวงการคลัง
หมายเหตุ : *มาตรการลงโทษทางแพ่ง เป็นมาตรการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2559 ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2559 โดยมาตรา 317/1 กำหนดให้การกระทำความผิดอาญาตามบทบัญญัติกฎหมายดังกล่าวดำเนินมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิดได้
อ่านรายละเอียด “การดำเนินมาตรการลงโทษทางแพ่ง (Civil Sanctions)” ได้ที่ https://www.sec.or.th/TH/Pages/LawandRegulations/CivilPenalty.aspx