STECON กำไร Q2 กระฉูด 1,856% รับเงินประกัน-งานใหม่ทะลัก

หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง STECON ว่า 2Q68 คาดกำไรสูงขึ้นทั้งปี-ปีและไตรมาสต่อไตรมาสอย่างมาก
2Q68 คาดกำไร 494 ล้านบาท เติบโต 1,856.2% YoY และเพิ่มขึ้น 44.7% QoQ จากรับเงินประกันโครงการบึงหนองบอน (ไปหักในต้นทุน) ทำให้อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) สูงขึ้นมาก และรับรู้รายได้ก่อสร้างเพิ่มขึ้นจากการเร่งตัวของงานก่อสร้าง

2Q68 รับเงินประกันบึงหนองบอน ทำให้ GPM สูงกว่าปกติ
2Q68 ประเมินรายได้รวม 9,000 ล้านบาท เติบโต 6.5% YoY และเพิ่มขึ้น 38.0% QoQ สูงขึ้นจากการเร่งตัวของงานก่อสร้าง โดยเฉพาะงานโรงไฟฟ้าโซลาร์ 7 แห่ง ที่สร้างไปแล้ว 60-70% และงานรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกที่เร่งตัวขึ้น มี GPM ที่ 12.7% เพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ อย่างมาก จากรับเงินประกันบึงหนองบอน (ไปหักในต้นทุน) ซึ่งอิงตามการตั้งสำรองค่าใช้จ่ายสิ้นปีก่อนที่ 470-480 ล้านบาท แต่หากพิจารณา GPM ปกติยังทรงตัว QoQ ที่ระดับ 7.3% ยังไม่เห็นสัญญาณ GPM ก่อสร้างอ่อนตัวในไตรมาสนี้

รายได้โรงไฟฟ้าโซลาร์เข้ามามาก ขณะที่ SG&A to sales อยู่ที่ 3.2% เพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ จากค่าใช้จ่ายโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกที่เพิ่มขึ้นตามการเร่งตัวของงาน

มีส่วนแบ่งขาดทุน 140 ล้านบาท ลดลง YoY แต่เพิ่มขึ้น QoQ จากจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยลดลง QoQ ทั้ง 2 สาย เนื่องจากเป็นช่วงปิดเทอมและมีวันหยุดหลายวัน

คาดกำไรสุทธิ 494 ล้านบาท เติบโต 1,856.2% YoY และเพิ่มขึ้น 44.7% QoQ

ครึ่งปีแรกมีกำไร 836 ล้านบาท เติบโต 2,151.8% YoY

Backlog ยังคงระดับ 10,000 ล้านบาท ตามทิศทางบริษัทที่ให้ไว้

คาดใน 2Q68 บริษัทได้รับงานใหม่เพิ่มอีก 10,000 ล้านบาท รวมครึ่งปีแรกเซ็นสัญญางานใหม่ 26,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นงานภาคเอกชนอยู่ระหว่างเจรจางานก่อสร้าง Data Center (STECON ลงทุนเอง) และคาดว่าในช่วง ส.ค. (3Q68) จะเซ็นสัญญาโครงการมอเตอร์เวย์ M7-ส่วนต่อขยายฯ มูลค่า 2,652 ล้านบาท เพิ่มอีก

Upside ของปี 68 เข้ามาแล้ว 1 เรื่องใน 2Q68

Upside ในปีนี้มี 2 เรื่อง คือ

• การรับเงินประกันบึงหนองบอน ซึ่งเข้ามาแล้วใน 2Q68
• การนำโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและชมพู ออกจากส่วนแบ่งขาดทุนไปยังเงินลงทุนระยะยาว ซึ่งยังรอความเห็นจากผู้สอบบัญชี ยังมีความไม่แน่นอน จึงยังไม่บันทึกรายการนี้ออกจากงบกำไรขาดทุน

ราคาพื้นฐาน 8.90 บาท อิง P/BV ที่ 0.66 เท่า

ฝ่ายวิเคราะห์ปรับคาดการณ์กำไรปี 68 เพิ่มขึ้น 64.6% มาอยู่ที่ 1,002 ล้านบาท สูงขึ้นกว่าปีก่อนที่เป็นขาดทุน
ประเมินราคาพื้นฐานโดยปรับ P/BV เพิ่มเป็น 0.66 เท่า (ค่าเฉลี่ย 1 ปี บวก 0.25 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน)
ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 8.90 บาท
คงคำแนะนำ “ซื้อ”