9 ก.ค. ถอนร่างกม.เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ดันพ.ร.บ.นิรโทษกรรมต่อ
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ว่า ตนขอประกาศว่าในวันที่ 9 ก.ค.นี้ ถอนร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวแน่นอน ดังนั้นใครจะมาชุมนุม ก็ไม่ต้องมา จะร้อนเปล่าๆ กลับไป”นอนตีพุง” ดีกว่า โดยในพรรคเพื่อไทยคุยกันแล้ว ทั้งนี้ย้ำว่า ไม่ได้ถอนเพราะกลัวอะไร เนื่องจากที่ผ่านมา ตนได้บอกให้ทุกคนทำความเข้าใจกับประชาชนแล้วให้สิ้นกระแสความถึงให้ถอนออกไปก่อน ยืนยันไม่ได้เสียหน้า อะไรที่ใครยังติดใจ รัฐบาลก็รับฟังอยู่แล้ว จึงยังไม่อยากให้พิจารณาตอนนี้
ส่วนในอนาคตจะมีการเสนอกลับเข้ามาพิจารณาอีกหรือไม่นั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ในอนาคตยังพูดไม่ได้ เพราะแม้แต่ร่าง พ.ร.บ.เสริมสร้างสังคมสันติสุข เรื่องนิรโทษกรรม เมื่อหลายปีก่อน ที่เคยโดนรุม มาวันนี้ไม่เห็นมีใครว่าอะไร ซึ่ง การนิรโทษกรรมนั้น เรามองว่าใครกลับเนื้อกลับตัว ก็เข้ามาทำงานร่วมกันได้ ไม่มีปัญหา ควรอภัยต่อกัน ประเทศชาติบ้านเมืองต้องการความรัก ความสามัคคี จึงต้องนำกฎหมายนิรโทษกรรมเข้าสภา จะได้ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันได้
“จะได้เห็น มีหลายคนที่พูดอยากให้ถอนมาหลายเดือน แล้วเดี๋ยววันที่ 9 ก.ค.ดูกันว่า ที่อยากให้ถอน ถ้าคุณไม่ขวาง ก็ถอนได้ง่ายๆ ปากกับใจนักการเมืองควรจะตรงกัน พูดอย่างไร ก็รับผิดชอบ ในอดีต ไปลองเปิดคลิปดูได้ว่า เมื่อก่อนที่คุณพูดอยากให้ถอน เวลาผมจะถอน คุณอย่าขวางแล้วกัน” นายวิสุทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่า กลัวฝ่ายค้านตลบหลังใช่หรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ปัญหาประเทศต้องร่วมมือกัน เพราะแก้ปัญหาด้วยวาทกรรมไม่ได้ แต่ต้องแก้ด้วยความจริงใจ ความบริสุทธิ์ใจ ยืนยันว่า เมื่อมีการถอนร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ แล้ว จะเข้าวาระพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแน่นอน
สำหรับกรณีที่ฝ่ายค้านจะยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นองค์กรอิสระนั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่ ตนยังไม่เห็นรายละเอียด ไม่อยากวิจารณ์ ถ้าดีก็จะเอาด้วย ถ้าไม่ดีก็ไม่เอา การแก้รัฐธรรมนูญเป็นไปตามลำดับขั้น เราจริงจัง จริงใจ ต้องทำอย่างแน่นอน
ส่วนพรรคเพื่อไทยจะโหวตให้ หรือรอการแก้ไขทั้งฉบับ นายวิสุทธิ์ มองว่า ต้องดูว่า อะไรที่เกี่ยวข้องกับหมวด 1 และหมวด 2 เราไม่เอาด้วย อาจจะเดินคนละทาง แต่จุดประสงค์ในการแก้เหมือนกัน เราต้องการแก้รัฐธรรมนูญ แต่ไม่แก้หมวด 1 และหมวด 2