โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

‘Prince of Eurasia’ สารคดีโลกที่ผสานวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตก

เดลินิวส์

อัพเดต 7 กรกฎาคม 2568 เวลา 23.41 น. • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
“Prince of Eurasia” สารคดีโลกที่ผสานวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตก รวบรวมข้อมูลความจริงจากภาพยนตร์ และคำสอนทางเทวศาสตร์โดย “ท่านอิสลามมีร์ซา ยูเรเชีย”

สำหรับคนที่ติดตามหนังต่างประเทศ สไตล์อินดี้ แนว nonfiction ที่ไม่ใช่นวนิยาย แต่สร้างจากเรื่องจริง ก็อาจทราบดีว่าล่าสุดมีข่าวเกี่ยวกับหนังที่ไม่ธรรมดาออกมา หนังสารคดีที่รวบรวมข้อมูลความจริงจากภาพยนตร์และคำสอนทางเทวศาสตร์ โดย “ท่านอิสลามมีร์ซา ยูเรเชีย” นักบวชอิสลามเจ้าของศาสนนาม "Papa Eurasia” (ป๊าป๋ายูเรเซีย) หรือ “Prince Oak OakleyskiW ร่วมมือกับทีมนักวิชาการระดับสากลโลก ทำตำราสารคดีต้นฉบับ ต้นตำรับ "Prince of Eurasia" กับผู้เชี่ยวชาญด้านการแปลภาษาต่างๆ มีสาระเกี่ยวข้องกับศาสนศาสตร์คำบัญญัติอาเทศที่ถูกเทศน์โดยปรมาจารย์ศาสนา อย่างที่หลายคนเรียกกันว่า “ซัยยิดพี่โอ๊ค” ผู้ก่อตั้งศาสนสำนักนักบวชอิสลามซุนนีซูฟี ที่มีการโยงคำเทศนาเข้าสู่ภาพยนตร์สารคดีเชิงศาสนาและเทววิทยา "Prince of Eurasia: Monotheism and Devils" ซึ่งจะมีการออกอากาศทั่วโลกในปีนี้

หนังสารคดีนี้นำเสนอการผสมผสานอันน่าทึ่งระหว่างเรื่องราวชีวิต ประวัติศาสตร์ และแนวคิดปรัชญาที่เชื่อมโยงตะวันออกกับตะวันตก ด้วยมุมมองที่แปลกใหม่และน่าสนใจ มีการนำเสนอมุมมองเชิงวัฒนธรรมและปรัชญาที่ไม่เคยมีการเขียนถึงมาก่อน ที่น่าสนใจเป็นพิเศษสำหรับผู้อ่านชาวเอเชีย คือการนำเสนอมุมมองที่แสดงให้เห็นถึงความสอดคล้องระหว่างหลักธรรมในพุทธศาสนาและแนวคิดของอิสลามสาย "ซุนนีซูฟี" ตามแบบฉบับของสำนักอิสลามมีร์ซา ยูเรเชีย ซึ่งมีการยกย่องและอ้างอิงถึงสัจธรรมในพระพุทธศาสนาอย่างให้เกียรติ เป็นการช่วยสร้างสะพานเชื่อมความเข้าใจระหว่างศาสนาที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในสังคมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปัจจุบัน แถมยังมีชีวประวัติที่น่าอัศจรรย์ของนักบวชอิสลามลึกลับ ท่านอิสลามมีร์ซาเป็นนักบวชซุนนีซูฟีที่ไม่ค่อยเปิดเผยตัวตนออกสื่อ ท่านมีความมหัศจรรย์ตรงที่เป็นทายาทศาสดาแท้ๆ เนื่องจากพันธุกรรมฟีโนไทป์และจิตวิญญาณ ท่านซัยยิดพี่โอ๊คนั้นสืบเชื้อสายโดยตรงจากท่านศาสดามูฮัมมัด และ “al-Khidr” ศาสดาผู้ลึกลับ

ภาพยนตร์ได้ถูกทำเป็นหนังสือรูปเล่มโดดเด่นด้วยการนำเสนอเรื่องราวอันลึกซึ้ง ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตก ผ่านมุมมองที่แปลกใหม่ ผู้ชมและผู้อ่านจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับประเพณี ความเชื่อ และภูมิปัญญาโบราณที่มีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมยูเรเซียในปัจจุบัน นอกจากนี้ การเล่าเรื่องผ่านประสบการณ์ส่วนตัวของเจ้าตัว “เจ้าชายโอ๊ค” และการวิเคราะห์เชิงอภิปรัชญาทำให้สารคดีของท่านเป็นมากกว่างานศิลป์ทั่วไป ผู้อ่านจะได้รับทั้งความบันเทิงและความรู้ในแง่มุมทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่หาดูได้ยาก ที่สำคัญ หนังสือได้นำเสนอจุดร่วมทางปรัชญาระหว่างพุทธศาสนาและอิสลาม โดยเฉพาะในประเด็นเกี่ยวกับการแสวงหาสัจธรรม การพัฒนาจิตวิญญาณ และการเข้าถึงความสงบภายใน ซึ่งเป็นประเด็นที่น่าสนใจในบริบทสังคมเอเชียที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม นำเสนอให้เห็นว่า บรรดานักบวชและหลักธรรมคำสอนของทั้งสองศาสนามีความสอดคล้องกันในหลายมิติ รวมไปถึงมิติที่มีสิ่งลี้ลับแฝงอยู่ในภาพยนตร์เช่นเหล่าภูตผีปีศาจ

การบันทึกภาพเคลื่อนไหวใน Prince of Eurasia: Monotheism and Devils ได้เสริมด้วยนักพากย์บรรยายหลากภาษา ซึ่งช่วยให้ผู้ชมสามารถเข้าถึงเนื้อหาได้อย่างลึกซึ้งทั้งในภาษาสากลและภาษาท้องถิ่น เช่นเดียวกับในหนังสือซึ่งมีหลายภาษา ก็เป็นโอกาสดีสำหรับผู้ที่สนใจงานวรรณกรรมที่มีความเป็นสากลและมีมุมมองวัฒนธรรมที่หลากหลาย สคริปต์ต้นฉบับถูกเขียนเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งหนังสือ Prince of Eurasia ก็ได้มีการจัดจำหน่ายแล้วในรูปแบบ ebook ผ่านหลายแพลตฟอร์มออนไลน์ชั้นนำทั่วโลก หนังสือและหนังเรื่องนี้ถือว่าเป็นโอกาสอันดีสำหรับผู้ที่สนใจเปิดโลกทัศน์ใหม่ที่จะได้ลองสัมผัสกับศิลปวัฒนธรรมซึ่งได้มาด้วยการผสมผสานระหว่างโลกตะวันออกและตะวันตกอย่างลงตัวพร้อมความสวยงามสุนทรียภาพอย่างสากลที่มีผู้มาร่วมบันทึกภาพความทรงจำ ฉากเหตุการณ์ทุกตอนก็ถูกบันทึกเป็นประสบการณ์ความจริง

แขกรับเชิญพิเศษที่มาร่วมแสดงออกในภาพยนตร์สารคดีนี้ ก็มีเช่น “Oh Kansiri” (โอ้ กาญจน์ศิริ) ศิลปินเพลงไทยที่มีผลงานการแต่งเพลงประกอบซีรีส์ละคร "My Stand-In ตัวนาย ตัวแทน" ซึ่งเธอถูกเชิญมาร้องเพลงหลังเสร็จสิ้นพิธีสมรสของท่านอิสลามมีร์ซาซัยยิดพี่โอ๊ค ซึ่งมีช่างแต่งหน้าเจ้าสาวแบรนด์ “Asmah Makeup” มาร่วมเป็นสักขีพยานงานแต่งจริง ระหว่างพี่โอ๊ค กับ ”ยัสมี” ศาสนพิธีถูกจัดขึ้นค่อนข้างส่วนตัว บรรยากาศมูดและโทนมีความสุขุมเยือกเย็น บวกกับดราม่าปะปนคล้ายละครนิดๆ แขกคนสำคัญอีกสองท่านที่ได้มาร่วมถ่าย ได้แก่ “Pawan Sethi” นักธุรกิจหนุ่มอินเดียซิกข์ และ “กันต์ ธนพัฒน์ แจ่มปรีชา” นักลงทุนชาวไทยที่ล่าสุดได้ออกรายการ “Take Me Out Thailand” หน้าตาความหล่อก็พอๆกับซัยยิดพี่โอ๊คลี่ ทั้งสองได้มาร่วมเล่นฉากที่ดูเหมือนละครเพื่อทำให้หนังดูมีความสนุกเฮฮามากยิ่งขึ้นอีกด้วย โดยรวมแล้วหนังเรื่องนี้คือสารคดีแต่ก็มีองค์ประกอบคอมเมดี้อยู่ไม่น้อย ท่านพี่โอ๊คได้กำชับไว้ว่าอารมณ์ของภาพที่ออกมาไม่ควรจะตรึงเครียดเกินเพราะท่านผู้ชมอาจจะรู้สึกอึดอัด ดังนั้นบางเรื่องราวที่ถูกบันทึกความจริงกันสดๆก็เลยมีฉากตลกขำขันอยู่บ้างถึงแม้โดยรวมจะเน้นสาระและดูพิศวง..

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก เดลินิวส์

‘พระธรรมทูตไทย’ ประกาศปฏิญญา หนุนเผยแผ่พุทธศาสนาในทวีปแอฟริกา

36 นาทีที่แล้ว

ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ เผยแต่งตั้งนายพลวาระปี 2568 ไม่เลื่อน แม้นายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่

51 นาทีที่แล้ว

รูบิโอเตรียมเยือนมาเลเซีย ร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน

54 นาทีที่แล้ว

UAE ทำเก๋ สร้าง ‘ถนนดนตรี’ ให้รถแล่นผ่านเป็นเสียงเพลงคลาสสิกยอดฮิต

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไลฟ์สไตล์อื่น ๆ

คอนเสิร์ต BLACKPINK ที่ Goyang Stadium มีคนดูรวม 2 วันทะลุ 78,000 คน

THE STANDARD

ใครหยุดบ้าง 10-13 ก.ค. 2568 เช็กวันเปิดทำการธนาคาร - ไปรษณีย์ - เอกชน

Thai PBS

“Price War: สงครามราคาครั้งนี้ ใครได้ ใครเสีย?!”

GM Live

ยิ่งใหญ่สมการรอคอย “งานบวงสรวงพญาศรีสัตตนาคราช” ปี 2568 จังหวัดนครพนม

Manager Online

MEYOU แท็กทีม JAONAAY-JAOKHUN ร่วมกันถ่ายทอดอารมณ์คนเหงาผ่านซิงเกิลล่าสุด 4TH JULY

THE STANDARD

สีก็มีผล! เลือกสีกระดาษขอพรวันทานาบาตะอย่างไรให้ปัง!

conomi

Doh Kyungsoo ปล่อยอัลบั้ม BLISS ผลงานเต็มชุดแรกในฐานะศิลปินเดี่ยว

THE STANDARD

เผยคำตอบโครงกระดูกมนุษย์ท่าพิสดาร ณ จุดสร้างสถานีรถไฟฟ้าศิริราช ใน “ไขปริศนาความตายท้ายเมืองธนบุรี”

ศิลปวัฒนธรรม

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...