ธุรกิจท่องเที่ยว วอนรัฐดูแลบาทแข็งฉุดความสามารถแข่งขัน แถมไม่สอดคล้องศก.
ธุรกิจท่องเที่ยว วอนรัฐดูแลบาทแข็งฉุดความสามารถแข่งขัน แถมไม่สอดคล้องศก.
นายอดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า ในภาคการท่องเที่ยวเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมหลากหลายตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ทำให้นโยบายการเงินที่สนับสนุนการทำธุรกิจมีความสำคัญ โดยเฉพาะในเศรษฐกิจแบบนี้ การที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดดอกเบี้ยถือเป็นการช่วยลดภาระด้านการเงิน แต่สิ่งที่มองว่า มีความสำคัญมากกว่าคือ การเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยน ค่าเงินบาทที่วิ่งในโซนแข็งค่าประมาณ 32 ต่อเหรียญสหรัฐนี้ ถือว่าแข็งค่ามากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในแถบเดียวกัน ตอนนี้ค่าเงินบาทถึงเวลาที่ต้องลดความแข็งค่าลงมาได้แล้ว เพราะการที่ค่าเงินแข็งต้องมีปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ดีเป็นตัวสนับสนุน แต่ตอนนี้เศรษฐกิจไม่ได้ดีขนาดนั้น การที่ค่าเงินยังแข็งค่าอยู่ ทั้งภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเข้าไปพิจารณาหาสาเหตุที่แท้จริงว่าเป็นเพราะอะไร มีความผิดปกติหรือไม่ และหากมีก็ต้องแก้ไขได้แล้ว
“ทั้งภาคการท่องเที่ยว และการส่งออกในตอนนี้มีปัญหาจากปัจจัยภายนอก ทั้งภาษีสหรัฐ และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ชะลอตัวลง กลับกันค่าเงินบาทก็ยังแข็งค่าเกินไป แม้วิ่งอยู่บริเวณ 32-33 บาทต่อเหรียญสหรัฐจนดูเหมือนปกติ แต่ความจริงไม่ได้ปกติ เพราะอยู่ในโซนที่แข็งค่ามาโดยตลอด เพราะหากประเมินตามสภาพเศรษฐกิจตอนนี้ หากค่าเงินบาทจะขึ้นไปที่ระดับ 35 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ก็ยังไม่น่าเกลียดด้วยซ้ำ จึงอยากส่งเสียงไปให้ถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าตอนนี้ถึงเวลาที่ต้องเห็นค่าเงินบาทปรับตัวตามสภาพเศรษฐกิจแล้ว” นายอดิษฐ์ กล่าว
นายอดิษฐ์ กล่าวว่า ผู้ประกอบการการท่องเที่ยวเราอยากเห็นค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลง โดยเฉพาะตลาดต่างชาติเที่ยวไทย ที่จะสนับสนุนการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวของต่างชาติมากขึ้น เพราะตอนนี้ต้องยอมรับว่าค่าครองชีพของเรามันสูงขึ้นกว่าในภูมิภาคเดียวกันกว่า 33% ขณะที่ในภูมิภาคอื่นปรับเพิ่มขึ้นมาเฉลี่ยอยู่เพียง 20% เท่านั้น ฉะนั้นหากค่าเงินบาทปรับลดลงมาจะทำให้ประเทศไทยมีสภาพการแข่งขันที่ดีขึ้น เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเห็นความคุ้มค่าในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ยกตัวอย่างให้เห็นภาพคือ ค่าเงินบาทในตอนนี้แลกกับค่าเงินหยวนของจีน อยู่ที่ 4.5 บาทต่อ 1 หยวน เทียบจากปี 2567 สามารถแลกได้ถึง 5.4 บาท เท่ากับหายไปกว่า 20% เรื่องค่าเงินตอนนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจส่งออกด้วย
นายอดิษฐ์ กล่าวว่า ส่วนตลาดไทยเที่ยวไทย ถือว่าฟื้นตัวได้ดี จากการมีโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่งเข้ามาสนับสนุนการเดินทางเที่ยวในประเทศ แม้ตอนแรกจะค่อนข้างตะกุกตะกัก แต่สิทธิก็ถูกใช้ใกล้หมดแล้ว อย่างไรก็ตาม แม้มีการสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศให้เกิดการเดินทางของตลาดไทยมากขึ้น แต่การจะนำมาชดเชยตลาดต่างประเทศที่ชะลอตัวลงต้องบอกว่า เป็นไปได้ยากมาก เพราะการใช้จ่ายเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1 คน เท่ากับตลาดไทยเที่ยวไทย 5 คนรวมกัน
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ธุรกิจท่องเที่ยว วอนรัฐดูแลบาทแข็งฉุดความสามารถแข่งขัน แถมไม่สอดคล้องศก.
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th