ย้อนชีวิต อรอุ๋ง ในวัยเด็ก ครอบครัวแยกคนละทาง ใช้ชีวิตคนเดียวมาตั้งแต่อายุ 14

อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ภาพไฮไลต์

ชื่อของอร พัศชนันท์ หรืออรอุ๋ง อดีตสมาชิก BNK48 รุ่น 1 ได้เป็นที่ถูกจับตาอีกครั้ง หลังจากที่เธอถูกโยงว่าเป็นสาวคนสนิทของหมอบี ทูตสื่อวิญญาณ และยังอยู่บ้านเดียวกันอีกด้วย

ซึ่ง อร เองก็ได้ออกมาชี้แจงแล้วว่า จากกระแสข่าวที่เกิดขึ้น มีหลายคนพูดถึงอรในทำนองว่า อรมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับพี่บี อรอยากบอกตรงนี้ด้วยหัวใจว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริงเลย อรรักและเคารพพี่บีและภรรยาของพี่บี เหมือนพ่อกับแม่ที่คอยให้กำลังใจและดูแลอรเสมอมา

โดยก่อนหน้านี้เมื่อช่วง 2 ปีที่แล้ว อรอุ๋ง เคยมานั่งพูดคุยเปิดใจชีวิตในวัยเด็กกับรายการ Coming of Age ทาง The Cloud Podcast เจ้าตัวได้เล่าว่า

- ชีวิตในวัยเด็กเป็นครอบครัวที่พ่อแม่หย่ากัน แต่เขายังอยู่ด้วยกัน และเราเพิ่งมารู้ตอนที่โตแล้ว ตอนแรกเขาพยายามจะปิด แต่ทางปาป๊าบอกว่าเราโตพอที่จะรับรู้แล้ว เขาก็มาบอกว่า พวกเขาหย่ากันตั้งแต่ตอนที่หนูเพิ่งเกิด ช่วงที่ยุคฟองสบู่แตก เพราะหนูเกิดในยุคนั้นปี 2540 ปาป๊าเขาทำบริษัทแล้วล้มละลาย เขาก็เลยต้องหย่า แต่หลังจากนั้นเขาก็หย่ายาวเลย

- จากการที่พ่อแม่หย่ากัน ซึ่งตัวเราเองก็ไม่ได้รู้สึกว่าส่งผลกับชีวิตอะไรมาก เพราะพ่อแม่เขาอยู่ด้วยกันอยู่แล้ว แต่เหมือนพอชีวิตเริ่มดำเนินการไป ด้วยความที่พ่อกับแม่เป็นช้างเท้าหน้าทั้งคู่ ก็เริ่มเหมือนแยกกันไปคนละทาง

- จุดเปลี่ยนครั้งแรกเกิดขึ้นตอนอายุ 14 ที่มาม๊าให้ไปอยู่กับปาป๊าตอน ป.5 แต่พออยู่ได้ถึง ม.2 ก็ได้อยู่คนเดียว คือตอนอายุ 14 ซึ่งช่วงนั้นปาป๊าก็ไม่ค่อยได้อยู่ไทย จากสัปดาห์เป็นเดือน เป็นปี แล้วมาเริ่มอยู่คนเดียวจริงๆ ตอน ม.2 ซึ่งอยู่คอนโดคนเดียว มีปาป๊าเป็นคนจ่ายค่าคอนโดให้

- หนูมีพี่ชายก็จริง แต่เราอายุห่างกัน 6 ปี ซึ่งเขาก็แยกไปอยู่คนเดียว ไม่ได้อยู่เมืองไทย ใช้ชีวิตคนเดียว เขาเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย ไม่อยากใช้เงินของครอบครัว

- ส่วนมาม๊าย้ายไปอยู่อเมริกา ตอนแรกหนูจะย้ายไปอยู่กับมาม๊า แต่ปาป๊าเขาบอกว่า ถ้าจะย้ายไปต้องเปลี่ยนนามสกุล แต่ตอนนั้นหนูเครียดมาก เพราะอยากไปอเมริกา แต่ตอนนั้นเกิดความขัดแย้งหนักมาก ระหว่างม๊ากับป๊า เพราะมันมีเรื่องครอบครัวเข้ามาเกี่ยวด้วย

- การเป็นเด็ก 14 ที่ต้องอยู่คนเดียว ตอนแรกดีใจมาก เหมือนเราได้รับการปล่อยออกไปสู่โลกกว้าง ระเบียบวินัยไม่มี ตื่นสาย ตอนนั้นเรียนอยู่พระแม่มารีย์ เป็นโรงเรียนเอกชน ตอนนั้นเราไปโรงเรียนสายมาก แต่พอเรารู้สึกว่ามันไม่มีคนที่จะมาคอยควบคุมเรา มันมีปัญหามาก เพราะมีระบบความคิดที่เราทำตามใจตัวเองมากเกินไป แต่เกรดการเรียนก็ยังดี ไม่ได้เรียนตก

- มาช่วง ม.ปลาย จุดเปลี่ยนเยอะมาก เพราะย้ายหลายโรงเรียน ตอนแรกย้ายไปอัสสัมชัญคอนแวนต์ แต่มีปัญหาเรื่องการเรียน เพราะตอนแรกสอบเข้าสายศิลป์ฝรั่งเศส แต่เพื่อนอยู่สายวิทย์-คณิต เลยยื่นเกรดข้ามไปสายวิทย์-คณิต แต่รู้สึกว่าสิ่งที่เรียนกับสิ่งที่ออกสอบมันไม่เหมือนกัน เพราะหนูไม่ได้เรียนพิเศษ ก็เลยรู้สึกว่ามันยาก เลยย้ายมาเรียนอินเตอร์ที่ TSC โรงเรียนไทยคริสเตียน เป็นโรงเรียนกึ่งสองภาษา และก็สอบข้ามชั้น

- เผยเคยไปสอบเข้าเรียนหมอ ที่แพทย์ ม.รังสิต แต่ตอนนั้นรู้สึกว่าเราจะเป็นหมอได้จริงๆ เหรอ สุดท้ายก็ไม่ได้เรียนหมอ แต่มาเรียนสายแฟชั่นแทนที่ CIDI สถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์ เพราะตอนนั้นอยากเป็น บก.นิตยสารแฟชั่น ซึ่งตอนนั้นนิตยสารแฟชั่นญี่ปุ่นดังมาก

- จากนั้นได้เข้าสู่ BNK48 ตอนอายุ 19 ซึ่งช่วงนั้นเรียนไปด้วย ทำกิจกรรม BNK ไปด้วย แต่ช่วงนั้นดรอปไปก่อน แล้วค่อยตามส่งงานอาจารย์ ซึ่งการเข้ามาเป็น BNK48 เป็นจุดเปลี่ยนชีวิตเลย แฟนคลับในตอนนั้นยังไม่เท่าตอนนี้ มีแฟนคลับแค่ไม่กี่คน มีบัตรจับมือก็หมดไวกว่าใคร เพราะเราแฟนคลับน้อย

- ซึ่ง อร มักจะพูดว่า จุดเปลี่ยนของชีวิตเธอ มักจะเกิดทุกๆ 7 ปี ซึ่งแต่ละช่วงชีวิตในทุกๆ 7 ปี มักจะมีจุดเปลี่ยนมากมาย อย่างตอนอายุ 21 ถือว่าการเป็นสมาชิก BNK48 ประสบความสำเร็จมากที่สุด จากคนที่เคยอยู่แถวหลังของวง กลายมาเป็นคนที่ยืนแถวหน้า และยังเป็นเทียร์แรกของค่ายเสมอ แม้ว่าจบการศึกษาแล้วก็ยังเป็นอยู่ ต้องขอบคุณที่ทำให้มีกินมีใช้ในช่วงหนึ่งของชีวิต ซึ่งตนเองรู้สึกว่า การอยู่ในวงการบันเทิง ไม่ใช่แค่หน้าตาดีอย่างเดียวแล้วจะรอด แต่คิดว่าสุดท้ายแล้วมันอยู่ในช่วงจังหวะชีวิตของเราด้วย

คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ย้อนชีวิต อรอุ๋ง ในวัยเด็ก ครอบครัวแยกคนละทาง ใช้ชีวิตคนเดียวมาตั้งแต่อายุ 14