‘ทรัมป์’ เคลมบอกเป็นผู้สร้างสันติภาพบนโลก จากการยุติสงครามได้แล้ว 6 ครั้ง ใน 6 เดือน
(20 ส.ค. 68) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงพยายามวางภาพลักษณ์ตนเองในฐานะ 'ผู้สร้างสันติภาพ' โดยอ้างว่าตั้งแต่กลับเข้าทำเนียบขาวเมื่อต้นปี ได้ยุติสงครามแล้วถึง 6 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญมองว่าผลงานที่ทรัมป์กล่าวอ้างนั้น “ไม่ได้ชัดเจน” ว่าเป็นการยุติสงครามจริงตามที่ระบุ
หนึ่งในกรณีที่ถูกพูดถึงคือความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล–อิหร่าน หลังอิสราเอลโจมตีโครงการนิวเคลียร์ ทรัมป์สั่งโจมตีตอบโต้และกดดันสองฝ่ายจนยอมตกลงหยุดยิง แม้จะได้รับเครดิตว่าเป็นการยุติสงคราม แต่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่านั่นเป็นเพียง “การหยุดชั่วคราว” ของสงครามเย็นระหว่างสองประเทศที่ยังคงดำเนินอยู่
อีกกรณีคือความตึงเครียดอียิปต์–เอธิโอเปีย จากโครงการสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำไนล์ แม้ทรัมป์เคยพยายามไกล่เกลี่ยแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ กระนั้นเขายังโพสต์อ้างว่า “ช่วยยุติข้อพิพาท” ทั้งที่ความขัดแย้งยังดำเนินต่อ เช่นเดียวกับกรณีอินเดีย–ปากีสถาน ที่ทรัมป์บอกว่าสหรัฐฯ ช่วยกดดันจนเกิดการหยุดยิง แต่ทางอินเดียกลับปฏิเสธว่าไม่มีการเจรจากับสหรัฐฯ เกี่ยวกับข้อตกลงดังกล่าว
ในส่วนของเซอร์เบีย–โคโซโว และรวันดา–คองโก แม้ทรัมป์เคยมีบทบาทไกล่เกลี่ย แต่สถานการณ์ยังไม่สงบถาวร ขณะที่กรณีอาร์เมเนีย–อาเซอร์ไบจาน มีการลงนามข้อตกลงภายใต้การดูแลของสหรัฐฯ แต่ยังไม่ถึงขั้นเป็นสนธิสัญญาสันติภาพถาวร ทำให้หลายฝ่ายเห็นว่ายังเร็วเกินไปที่จะบอกว่า “สงครามสิ้นสุดแล้ว”
สำหรับไทย–กัมพูชา ความขัดแย้งชายแดนจบลงด้วยการหยุดยิง โดยทรัมป์อ้างว่ามีบทบาทสำคัญหลังขู่ระงับข้อตกลงการค้าหากทั้งสองฝ่ายหากยังสู้ต่อ นักวิเคราะห์บางส่วนยอมรับว่าการกดดันของสหรัฐฯ มีผลจริง แต่บทบาทของประเทศอื่น โดยเฉพาะมาเลเซีย ก็เป็นส่วนสำคัญในกระบวนการเจรจาเช่นกัน สะท้อนว่าภาพที่ทรัมป์ชูว่า “ยุติสงคราม 6 ครั้ง ใน 6 เดือน” อาจไม่ได้ชัดเจนตรงตามความเป็นจริงนัก