เปิดศึกบอร์ดใหม่! ใครเป็นใคร ฝ่ายไหนนำทัพ ‘ดุสิตธานี’

กระแสการแต่งตั้งกรรมการชุดใหม่ของ "บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT" กลายเป็นประเด็นร้อนที่วงการธุรกิจการลงทุนต้องจับตา เพราะไม่ได้เป็นเพียงการปรับโครงสร้างธรรมดา

แต่สะท้อนเกมอำนาจในครอบครัวผู้ถือหุ้นใหญ่ที่มีทายาท 3 กลุ่ม หรืออาจจะเรียกว่าเหลือเพียง 2 กลุ่มก็ว่าได้ เพราะฝั่งพี่ชาย"ชนินทธ์ โทณวณิก" ยืนเดี่ยว ส่วนน้องสาว "สินี เธียรประสิทธิ์" และ "สุนงค์ สาลีรัฐวิภาค" จับมือแน่น

ดราม่าที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังบอร์ดใหม่

ในอดีต ดุสิตธานีถือเป็นบริษัทโรงแรมหรูที่บริหารงานด้วยเสถียรภาพสูง แต่ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความเห็นต่างภายในครอบครัวผู้ก่อตั้งเริ่มชัดเจนขึ้น จนนำไปสู่คำถามว่า… ใครจะกำหนดทิศทางอนาคตของแบรนด์ระดับตำนานนี้ ?

และการลาออกของกรรมการรุ่นเก่าและการแต่งตั้งบอร์ดชุดใหม่ล่าสุด ถูกมองว่าเป็น "การจัดขั้วอำนาจใหม่"

การประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นคร้ังที่ 1/2568 ในวันที่ 26 กันยายน 2568 จึงถูกจับตาเป็นพิเศษ เพราะวาระสำคัญคือ

• การถอดถอนนายชนินทธ์ โทณวณิกออกจากกรรมการ
• การอนุมัติเพิ่มกรรมการและเปลี่ยนแปลงอำนาจกรรมการ
• การดันกรรมการใหม่ 10 เก้าอี้เข้าเสริมทีมบริหาร

ถามว่า.. 10 รายชื่อบอร์ดใหม่ที่เพิ่มเข้ามา มีนัยยะสำคัญอย่างไร ?

การแต่งตั้ง "บอร์ดชุดใหม่" ของดุสิตธานี ไม่ใช่แค่เรื่อง "รายชื่อกรรมการ" แต่คือสัญญาณของเกมอำนาจในครอบครัวผู้ถือหุ้นใหญ่ที่จะกำหนดอนาคตแบรนด์โรงแรมหรูระดับตำนาน และทำให้นักลงทุนต้องจับตาว่า "ใครอยู่ฝ่ายไหน ?" ทุกย่างก้าว

ที่สำคัญ รายชื่อบอร์ดใหม่ อย่าง ดร.กฤษดา กวีญาณ, นายศุภศักดิ์ จิรเสวีนุประพันธ์, นายเสข วรรณเมธี, นายปัณฑิต มงคลกุล, นายภูม โอสถานนท์ ถูกวิเคราะห์ว่าใกล้ชิดขั้วฝั่งน้องสาว ซึ่งเป็นขั้วที่ดูเหมือน "ครองเสียงข้างมาก" ในบอร์ดใหม่และมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางธุรกิจโรงแรมหรูในระยะยาวอีกด้วย

ขณะที่ ชุดกรรมการปัจจุบันดูเหมือนสู้พลังบอร์ดใหม่ได้น้อยเหลือเกิน

ล่าสุด "นางสินี เธียรประสิทธิ์" และ "นางสุนงค์ สาลีรัฐวิภาค" สองทายาทดุสิตธานี พ่วงตำแหน่งกรรมการผู้มีอำนาจ บริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด ออกแถลงการณ์วันที่ 29 สิงหาคม 2568 ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีที่นายชนินทธ์ โทณวณิก พี่ชายคนโต แถลงข่าวเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา

หนึ่งในประเด็นชี้แจงสำคัญ คือ"ดร.กฤษดา กวีญาน" และ "นายศุภศักดิ์ จิรเสวีนุประพันธ์" ซึ่งจะเข้ามาร่วมเป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อร่วมกับนางสินีนั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ"บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN" และเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ที่บริษัทเชื่อว่าจะบริหารจัดการดุสิตธานีได้อย่างโปร่งใส และเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล ตามแนวทางของตลาดหลักทรัพย์ฯ

พร้อมยืนยันการดึง "เซ็นทรัลพัฒนา" ร่วมเป็นกรรมการบริษัทไม่ใช่เรื่องผิดปกติ ด้วย CPN ถือหุ้น DUSIT ถึง 17% อีกทั้งยังเป็นพันธมิตรหลักที่ร่วมลงทุนในโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 46,000 ล้านบาท ทุกอย่างเป็นไปตามแนวทางการมีส่วนร่วมตามสัดส่วนการถือหุ้น ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติปกติในการดูแลเงินลงทุนของผู้ประกอบธุรกิจทั่วไป

โดย CPN เสนอชื่อกรรมการเข้ามา 2 คน จากกรรมการใหม่ทั้งหมด 10 คน ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่เซ็นทรัลพัฒนาจะเข้ามาควบคุมอำนาจบริหารหรือยึดกิจการของดุสิตธานี

"มั่นใจว่าเซ็นทรัลพัฒนาเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับ มีความเป็นมืออาชีพ และดำเนินงานภายใต้หลักธรรมาภิบาลมาโดยตลอด จึงไม่มีความคิดที่จะ Take Over กิจการของดุสิตธานี"

หลายฝ่ายเชื่อว่ากระแสดราม่าไม่จบลงได้ง่ายๆ แม้ภาพบอร์ดชัดเจนสงครามนี้ย่อมไร้ทางสงบ ดังนั้น "มาดามแป้ง - นวลพรรณ ล่ำซำ" ชิงลาออกจากตำแหน่ง "กรรมการ" DUSIT ด้วยเหตุผลที่ว่ามีหลายบทบาทหน้าที่ทั้งด้านธุรกิจ งานสังคมสงเคราะห์ โดยเฉพาะงานด้านกีฬาที่ต้องบริหารงานแบบเต็มเวลา ซึ่งอาจจะกระทบต่อเวลาในบทบาทการเป็นกรรมการบริษัท มีผลตั้งแต่วันอังคาร ที่ 26 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป

สิ่งที่ต้องจับตา!

• ทิศทางการลงทุนใหม่ เน้นขยายเครือข่ายโรงแรม หรือเร่งปรับโครงสร้างเพื่อเพิ่มกำไร
• บทบาท CEO และผู้บริหารหลัก บอร์ดใหม่จะผลักใครขึ้นมามีอำนาจจริง
• เสถียรภาพการบริหาร ความขัดแย้งภายในจะกระทบราคาหุ้นและความเชื่อมั่นเพียงใด
• โอกาสกลับมาจ่ายปันผล หากบอร์ดใหม่สามารถจัดการหนี้และสร้างกำไรได้

เมื่อบอร์ดใหม่เริ่มขยับเกม ศึกทายาทดุสิตธานียังไม่จบง่ายๆ … เก้าอี้กรรมการ 10 ที่นั่งจะเป็นแค่การปรับโครงสร้าง หรือคือการปูทางอำนาจระยะยาว ? และท้ายที่สุด ใครกันแน่ที่จะกำหนดอนาคตแบรนด์โรงแรมหรูระดับตำนานนี้ ?