ตรัง แถลงจับกุมนายดอ มือยิง “กำนันเล้น” ผู้ต้องหาสารภาพสิ้น ปมโกรธแค้นส่วนตัว ผู้ว่าฯ-ผู้การ ประสานเสียงไม่เชื่อคลิป ชี้เลี่ยงกระแส
ตรัง แถลงจับกุมนายดอ มือยิง “กำนันเล้น” ผู้ต้องหาสารภาพสิ้น ปมโกรธแค้นส่วนตัว ผู้ว่าฯ-ผู้การ ประสานเสียงไม่เชื่อคลิป ชี้เบี้ยงกระแสใครทำก็ได้ คนตายพูดไม่ได้ ฝากขังแล้ว-ค้านประกันตัว ขยายผลหาปืน-เครือข่ายสนับสนุนต่อ มั่นใจหลักฐานแน่นเพียงพอฟ้องศาล
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 ที่สภ.ห้วยยอด อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง นายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานการแถลงข่าวผลการจับกุมนายธวัชชัย บัวปลื้ม หรือ ไอ้ดอ ผู้ต้องหาคดีฆ่านายบัณฑิต รองพล หรือ “กำนันเล้น” กำนันตำบลนาวง อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด โดยมี พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผบก.ภ.จว.ตรัง , พ.ต.อ.เอกรัฐ สวนแสน รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง และ พ.ต.อ.สานิตย์ พลเพชร ผกก.สภ.ห้วยยอด นายณัฐวุฒิ สังข์สุข นายอำเภอห้วยยอด ร่วมแถลง โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ตลอดจนญาติของทั้งฝ่ายผู้เสียชีวิตและฝ่ายผู้ต้องหาร่วมสังเกตการณ์ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยทางฝ่ายญาติของกำนันเล้น ได้มอบกระเช้าขอบคุณฝ่ายตำรวจที่สามารถเร่งรัดจับกุมคนร้ายได้ในที่สุด
พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผบก.ภ.จว.ตรัง กล่าวว่า คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ 01.00 น. คนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่นายบัณฑิตจนเสียชีวิต พนักงานสอบสวนพร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนปืนขนาด 5.56 มม. จำนวน 15 ปลอก และรถยนต์ฟอร์ดของผู้ตายถูกกระสุนกว่า 15 รู จากการสืบสวนและตรวจสอบหลักฐานเชื่อมโยงไปถึง นายธวัชชัย หรือดอ บัวปลื้ม อายุ 33 ปี ชาวอำเภอห้วยยอด จึงขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดตรัง และได้รับอนุมัติหมายจับที่ จ.374/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ต่อมาวันที่ 21 สิงหาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจจากหลายหน่วยงานทั้งฝ่ายสืบสวนตำรวจภูธรภาค 9 กองปราบปราม ฝ่ายสืบสวนภ.จว.ตรัง และเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ห้วยยอด ร่วมบูรณาการติดตามไล่ล่าตั้งแต่วันเกิดเหตุ โดยผู้ต้องหาได้หลบหนีไปในหลายจังหวัด และจากการติดตามแกะรองของตำรวจ ได้ข้อมูลหลักฐานที่เป็นประโยชน์ ทั้งรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ ภาพจากวงจรปิด กระทั่งสามารถนำกำลังเข้าจับกุมนายธวัชชัยได้ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งในพื้นที่ ตำบลศาลาด่าน อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ โดยใช้เวลาทั้งสิ้นรวม 18 วัน ทั้งนี้ได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยผิดกฎหมาย และพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
“ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พร้อมนำเจ้าหน้าที่ไปชี้จุดที่ทิ้งอาวุธปืน รถจักรยานยนต์ที่ใช้หลบหนี และรถยนต์ของผู้ตาย รวมถึงยอมรับว่าเสื้อผ้าที่ใส่วันเกิดเหตุได้เผาทำลายไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่พบอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ตำรวจจึงควบคุมตัวนายธวัชชัยส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยเบื้องต้นสาเหตุสืบเนื่องจากความโกรธแค้นส่วนตัวที่ได้สั่งสมบ่มเพาะมาเป็นระยะเวลาพอสมควรจนถึงจุดแตกหักและลงมือก่อเหตุ ส่วนประเด็นความขัดแย้งในรายละเอียดต้องสอบสวนต่อ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร ก่อนส่งสำนวนไปยังอัยการ ซึ่งภายหลังการคุมตัวสอบสวน จะได้นำตัวฝากขังต่อศาลต่อไป โดยพนักงานสอบสวนจะคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีร้ายแรง”พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ กล่าว
พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ กล่าวว่า ส่วนอาวุธปืน M16 ที่ใช้ก่อเหตุ คนร้ายให้การว่าได้นำไปทิ้งในคลองพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงระหว่างหลบหนี แต่จากการเข้าค้นหายังไม่พบ ตำรวจจึงยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การดังกล่าว จึงต้องแกะรอยติดตามตามเส้นทางการหลบหนีต่อไป ทั้งนี้ มั่นใจว่าพยานหลักฐานในขณะนี้มีเพียงพอต้อการดำเนินคดีส่อฟ้องต่อศาล เพียงแต่หากได้อาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ก็จะมีความแน่นหนามัดแน่นในการดำเนินคดีขึ้นไปอีกในเรื่องของการเปรียบเทียบปืนกับปลอกกระสุนในที่เกิดเหตุ และขยายผลไปยังที่มาของปืนเพื่อป้องกันการนำไปก่อเหตุได้อีก
พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ กล่าวว่า ส่วนประเด็นที่มีการเผยแพร่คลิปของคนร้ายที่มีการปิดบังใบหน้าแฉด้านมืดของกำนันผู้เสียชีวิตออกมาก่อนหน้านี้นั้น ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคลิปดังกล่าว เพราะคลิปที่มีการปิดบังอำพรางใบหน้าใครก็สามารถทำได้ ต้องมาตรวจสอบพิสูจน์ทราบกันต่อไป นอกจากนี้คำให้การของผู้ต้องการจะให้การอย่างไรก็ได้ ขณะที่ฝ่ายกำนันผู้เสียชีวิตไม่สามารถพูดได้ อีกทั้งผู้ต้องหายังมีหมายจับคดีค้างเก่าอีกหลายคดี และถูกขึ้นบัญชีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องหารตัว และมีค่าหัว ซึ่งที่ผ่านมาตำรวจได้ติดตามจับกุมในคดีเก่ามาตลอด แต่ผู้ต้องหาหลบหนีไม่เป็นที่ เคลื่อนที่ตลอดไม่เป็นหลักแหล่ง ดังนั้นในคดีปัจจุบันตำรวจจึงยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหาทั้งหมด เพราะจากข้อมูลก่อนก่อเหตุ ผู้ต้องหามีการตระเตรียมการไว้ก่อน การเข้าก่อเหตุ และการหลบหนี ซึ่งจะมีการขยายผลต่อว่ามีผู้มีส่วนช่วยสนับสนุนรวมถึงช่วยพาหลบหนีอีกหรือไม่ ซึ่งถ้าขยายผลพบหลักฐานผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอีก จะดำเนินคดีทั้งหมด
นายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า จากเหตุอุจฉกรรจ์ที่เกิดขึ้น ในเรื่องของการใช้อาวุธร้ายแรง รวมถึงปัญหาการเกิดคดีร้ายแรงจากการปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ ทั้งตำรวจและฝ่ายปกครองได้เพิ่มความเข้มงวดในการทำงานมากขึ้น โดยจะมีการตั้งจุดตรวจจุดสกัดในพื้นที่จังหวัดตรังเพิ่มและถี่มากขึ้น เพื่อเป็นการป้องปรามคนที่คิดกระทำความผิดใหยับยั้งชั่งใจ ยืนยันว่าทุกฝ่ายร่วมบูรณาการกันอย่างแนบแน่นเต็มที่
“ส่วนประเด็นที่มีการเผยแพร่คลิปของคนร้ายที่มีการปิดบังใบหน้าแฉด้านมืดของกำนันผู้เสียชีวิตออกมาก่อนหน้านี้จะกระทบภาพลักษณ์ของฝ่ายปกครองหรือไม่นั้น ผมได้พูดคุยกับหลายๆคน ทั้งตำรวจ ฝ่ายปกครอง ชาวบ้านในพื้นที่ และได้ไปร่วมงานศพก็มีชาวบ้านบางส่วนที่อาจจะคล้อยคลิป แต่เชื่อว่าเป็นคลิปที่ออกมาเพื่อเบี่ยงประเด็นกระแสสังคม คล้ายกับคลิปของเสี่ยแป้งที่เคยออกมาก่อนนี้ ดังนั้นเราจะเชื่อทุกอย่างตามคลิปไม่ได้ ต้องกลั่นกรองอย่างรอบคอบ”นายทรงกลดกล่าว
ทั้งนี้ในช่วงระหว่างแถลงข่าวได้มีบรรดาญาติๆของทั้งสองฝ่ายมาร่วมสังเกตการณ์ท่ามกลางการดูแลความเรียบร้อยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองที่คอยอำนวยความสะดวกและรักษาความสงบอย่างเข้มงวด
หลังจากที่แถลงข่าวเสร็จสิ้น นายภานุวิชญ์ รองพล พี่ชายกำนันเล้น นายบัณฑิต รองพล ญาติกำนันเล้น ได้เข้ามอบกระเช้าขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่จับคนร้ายได้
ต่อมาตำรวจได้นำตัวนายธวัชชัย หรือนายดอ บัวปลื้ม ส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดตรัง ซึ่งระหว่างนำตัวลงมาขึ้นรถ ได้มีนายสมพาส บัวปลื้ม ซึ่งเป็นพ่อของนายดอ และญาติมาตะโกนบอกลูกสั้นๆว่า “ไม่เป็นไร ไม่ต้องคิดอะไรมาก สบายๆ ไม่ต้องคิดเรื่องหลบหนีอะไรแล้ว สบายแล้ว”