PTG เร่งเครื่อง Non-Oil อัพเป้าโต 60% ดันกำไรยั่งยืน-ปักธงพันธุ์ไทยแตะ 3,000 สาขาปี 69
นายปรเมษฐ์ สงวนโชควณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานกลยุทธ์และบริหารการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยในงาน Opportunity Day เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 ว่า บริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการไตรมาส 2/68 อยู่ที่ 56,496 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่มาจากรายได้ธุรกิจ Non-Oil เพิ่มขึ้น ส่งผลให้กำไรสุทธิไตรมาส 2/68 อยู่ที่ 186 ล้านบาท
โดย ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2568 PTG มีสถานีบริการน้ำมันจำนวน 2,236 สถานี และมีมาร์เก็ตแชร์ที่ 22.1% โดยแบ่งเป็น Touch Point ของธุรกิจ Non-Oil อยู่ที่ 2,606 แห่ง เพิ่มขึ้น 885 Touch Point เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีร้านกาแฟพันธุ์ไทยจำนวน 1,642 สาขา เพิ่มขึ้น 614 สาขา เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 1,028 สาขาโดยเฉลี่ยมีการเพิ่มสาขาพันธุ์ไทย 1.7 สาขาต่อวัน
สำหรับปี 2568 บริษัทตั้งเป้าขยายสาขาพันธุ์ไทยไม่น้อยกว่า 600 สาขา แต่มีโอกาสแตะ 800-1,000 สาขา และในปี 2569 คาดขยายต่อเนื่อง 600-800 สาขา รวมแตะ 3,000 สาขาภายในปี 2569 ส่วนปีนี้ตั้งเป้ารายได้แตะ 5,000 ล้านบาท จากครึ่งปีแรกที่ทำได้แล้ว 2,178 ล้านบาท
ส่วนปีนี้ยังคงเป้าการขยายสถานีบริการน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็น 2,279 แห่งทั่วประเทศ ตอกย้ำความแข็งแกร่งในธุรกิจหลัก ขณะเดียวกันบริษัทเร่งขยายธุรกิจ Non-Oil ให้ครบ 2,978 สาขา โดยมีร้านกาแฟพันธุ์ไทยเป็นหัวหอกสำคัญ โดยตั้งเป้าเปิดครบ 1,947 สาขาภายในปีนี้
นอกจากนี้ PTG ยังมุ่งสร้างเครือข่าย Touchpoints อื่น ๆ ภายใต้ธุรกิจ Non-Oil อาทิ Max Mart, Autobacs, Subway และบริการเสริมต่าง ๆ ให้ครบ 1,031 จุด เพื่อเสริมสร้างระบบนิเวศธุรกิจที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคครอบคลุมทั้งการเดินทาง พักผ่อน และไลฟ์สไตล์ โดยมีเป้าหมายผลักดันการเติบโตของธุรกิจ Non-Oil ให้เพิ่มสัดส่วนต่อกำไรขั้นต้นอย่างต่อเนื่อง
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานปีนี้ PTG ปรับลดเป้าหมายการเติบโตของปริมาณขายน้ำมันเหลือ 1-3% จากภาวะตลาดที่ผันผวน ขณะที่ธุรกิจ Non-Oil ยังเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ โดยปรับเพิ่มเป้าการเติบโตขึ้นสู่ 50-60% จากเดิม 40-50% พร้อมยกระดับสัดส่วนกำไรขั้นต้นของธุรกิจ Non-Oil เป็น 35-40% จากเดิม 30-35%
ขณะที่เป้าหมายการเติบโตของ EBITDA ปีนี้คงไว้ที่ 8-12% และวางงบลงทุนปี 2568 ในกรอบ 3,000-4,000 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจหลักและลงทุนในโครงการใหม่ต่อเนื่อง สอดรับกลยุทธ์สร้างความสมดุลระหว่างธุรกิจ Oil และ Non-Oil ในระยะยาว โดยแบ่งเป็นนธุรกิจน้ำมัน 1,000-1,500 ล้านบาท, พันธุ์ไทย 1,000-1,500 ล้านบาท, Non-Oil อื่น ๆ 500-1,000 ล้านบาท และธุรกิจใหม่ 1,000-1,500 ล้านบาท
“PTG ย้ำภาพธุรกิจ Non-Oil กำลังเติบโตอย่างเป็นรูปธรรม หลังสัดส่วนกำไรขั้นต้นเพิ่มจากระดับเลขหลักเดียวในอดีตและเร่งตัวขึ้นเป็น 35% ในไตรมาส 2/68 โดยบริษัทคาดว่าปีนี้จะขยับสู่กรอบเป้าหมายใหม่ที่ 35-40% ได้ตามแผน ผ่านการขยายธุรกิจ Non-Oil หลากหลาย ทั้งพันธุ์ไทยคาเฟ่, Max Mart, Auto Care, LPG และสถานี EV ที่บางแห่งเป็น Non-Oil ล้วนบริษัทเชื่อว่าก้าวต่อไปของ PTG คือการเดินหน้าเพิ่มสัดส่วน Non-Oil ให้เป็นฐานกำไรสำคัญในระยะยาว สร้างสมดุลกับธุรกิจน้ำมัน พร้อมขับเคลื่อนองค์กรสู่เป้าหมายการเติบโตที่ยั่งยืน” นายปรเมษฐ์ กล่าวทิ้งท้าย