มทภ.2 เชื่อ หวังดิสเครดิต กองทัพ ขุดคลิปเก่า -ทำโพลทหารนั่งนายกฯ
25 ส.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลโทบุญสิน พลาดกลาง แม่ทัพภาคที่2 กล่าวถึง กรณีในวันที่ 29 ส.ค. นี้ จะมีการตัดสิน คดีคลิปสนทนา ของนายกรัฐมนตรีกับ สมเด็จฮุนเซน จะส่งผลต่อสถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชา หรือไม่ว่า ถือเป็นเรื่องของการเมือง ในส่วนเรื่องของชายแดนเราก็ทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย คงไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง
เมื่อถามว่า มีความพยายามที่จะดิสเครติด กองทัพหรือไม่ เช่นการปล่อยคลิปเก่านายทหารทำร้ายกำลังพล และการทำโพลสำรวจ ความคิดเห็น โดยใช้หัวข้อ สนับสนุนให้ทหารเป็นนายกฯหรือไม่ พลโทบุญสิน กล่าวว่า มีส่วน ในส่วนของกองทัพเรามีความมุ่งมั่นอยู่แล้ว ปฏิบัติตามกรอบและหน้าที่ที่ถูกต้อง ใช้ความจริงใจในการทำงานเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง ซึ่งเชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจ รับรู้ได้
เมื่อถามย้ำว่าหากผลวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในคดีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุนเซนของนายกรัฐมนตรีออกมาเป็นลบ ซึ่งส่งผลให้รัฐบาลเกิดสุญญากาศ จะส่งผลต่อพื้นที่ชายแดนหรือไม่ พลโทบุญสิน กล่าวว่า ต้องดูสภาพแวดล้อมทั่วไป เนื่องจากต้องวิเคราะห์หลายๆอย่างร่วมกัน พร้อมยืนยันว่าเราไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มก่อนอยู่แล้ว เพราะเรามุ่งมั่นที่จะยึดถือในเส้นเขตแดน
เมื่อถามต่อว่าหากผลเป็นลบจะกระทบต่อการหารือ การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ที่จะเกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนกันยายนนี้หรือไม่ พลโทบุญสิน มองว่า ข้าราชการประจำก็ต้องทำงานอยู่ ไม่น่าจะเกี่ยวข้องหรือส่งผลอะไร การเมืองก็ว่ากันไป
พลโทบุญสิน ยังกล่าวถึงกรณี ที่ พลทหาร พิทยุตม์ โสดา กำลังพลสังกัด กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ใน พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 เวลา 18.15 น. ภายในห้องสุขา บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ว่าน้องมีอาการทางสุขภาพ โดยตนเองได้แจ้งให้หน่วยดูแล เป็นอย่างดีเพราะถือว่า เสียชีวิตระหว่าง ปฎิบัติหน้าที่ อันนี้เราต้องให้กำลังใจและก็ ดูแลเรื่องสิทธิกำลังพลให้ดีที่สุด
ส่วนเรื่องสิทธิกำลังพลที่ปฎิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนทางกองทัพภาคที่ 2 ได้ดำเนินการดูแลอย่างไรนั้นกล่าวว่า นี้เป็นเรื่องหนึ่งที่เราให้หมอสนาม เข้าไปคัดกรองน้องทหารเป็นรายบุคคล ซึ่งในหน่วยผู้บังคับหน่วยก็จะรู้รายละเอียดแต่ละบุคคล โดยจะคัดกรองผ่านจิตแพทย์ ใครที่มีอาการสูงเสี่ยงหรืออยู่ในเกณฑ์ที่ อันตรายเราก็จะนำตัวออกไปข้างนอก เพื่อให้ได้พบปะกับญาติพี่น้อง ให้มีอาการดีขึ้นต่อไป