แจ้งข้อหานักแสดงสาว “เมาแล้วขับ” ชี้ปฏิเสธเป่าแอลกอฮอล์ โทษสูงกว่าปกติ
ความคืบหน้ากรณีนักแสดงสาว ปฏิเสธการเป่าวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ขณะขับขี่รถหรูเข้ามาที่ด่านตรวจของสถานีตำรวจนครบาลวังทองหลาง และเพื่อนชายคนสนิทมีพฤติกรรมขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ และมีคลิปปรากฎ โดยวันนี้ (25 ส.ค.) พนักงานสอบสวนมีการแจ้งให้นักแสดงสาวและเพื่อนชายคนสนิทเข้ามาพบพนักงานสอบสวนก่อนจะส่งตัวฟ้องศาล
พันตำรวจเอกเจษฎา ยางนอก ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลวังทองหลาง เปิดเผยเบื้องต้นว่า นางสาวมารี เบิร์นเนอร์ นักแสดงสาว ได้ประสานเข้ามาพบพนักงานสอบสวนที่ สน. วังทองหลางแล้ว หลังจากถูกตำรวจ แจ้งข้อหา “เมาแล้วขับ” ซึ่งตามกฎหมายแล้วการปฏิเสธการเป่าวัดแอลกอฮอล์ ตำรวจสามารถสันนิษฐานได้เลยว่าเมาแล้วขับ โดย มารี ใช้หลักทรัพย์ในการประกันตัวเป็นเงินสด 20,000 บาท วันนี้พนักงานสอบสวนจึงได้นัดตัวนักแสดงสาวเข้ามา ก่อนที่จะนำตัวส่งศาลแขวงพระนครเหนือ ซึ่งวันนี้จะต้องมีการสอบปากคำเพิ่มเติมและหากรับสารภาพก็จะพิมพ์ลายนิ้วมือ โดยหลังจากเกิดเหตุ นางสาวมารี ได้ยอมรับกับทางตำรวจว่ามีการดื่มแอลกอฮอล์มาก่อนจริง ขณะที่ นายอัศม์กรณ์ ฝ่ายชาย ถูกแจ้งข้อหา ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน, ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งฝ่ายชายก็ให้การรับสารภาพ
“ส่วนที่มีการแอบอ้างนายตำรวจท่านหนึ่ง ที่ชื่อว่า พี่แมน ตรงนี้มองว่า เป็นอาการของคนเมาแล้วพูดกล่าวอ้างไปเรื่อย ซึ่งไม่ได้ใจความอะไร ซึ่งนอกจากชื่อแมนแล้ว ก็ไม่ได้พูดชื่อใครต่ออีก โดยวันนี้ก็ได้ประสานให้ฝ่ายชายเข้ามาพบพนักงานสอบสวนเช่นเดียวกันไม่แน่ใจว่าทั้งคู่จะมาพร้อมกันหรือไม่”
ทั้งนี้ การที่นักแสดงสาวนั่งในรถเป็นระยะเวลากว่า 1 ชั่วโมง ก่อนที่จะลงจากรถนั้น ก็ถือว่าเป็นสิทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหา ตำรวจไม่สามารถไปบังคับได้ แต่ตำรวจก็มีเจตนาที่จะปฎิบัติหน้าที่อย่างเป็นขั้นตอน สุภาพ และให้เกียรติประชาชนทุกคน ย้ำว่า การตั้งด่านตรวจ เพื่อจะ บังคับใช้กฎหมาย ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนกลับบ้านอย่างปลอดภัย ซึ่งหลังจากที่เกิดขึ้นทางเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ ยังมีกำลังใจที่ดี ซึ่งเป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องดูแลรับใช้ประชาชน
อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีการปฏิเสธการเป่าแอลกอฮอล์ ตามกฏหมาย ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2557 ระบุไว้ว่า หากไม่เป่าแอลกอฮอล์ เท่ากับ เมาแล้วขับ ซึ่งหลังจากนี้ก็ไม่ต้องตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด และไม่ต้องแจ้งปริมาณแอลกอฮอล์ โดยข้อหา เมาแล้วขับที่มาจากการปฏิเสธการเป่าแอลกอฮอล์ จะมีอัตราโทษสูงกว่าข้อหาเมาแล้วขับปกติ ส่วนหลังจากนี้จะมีการบำเพ็ญประโยชน์หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล มีอัตราโทษปรับ 10,000 - 20,000 บาท จำคุก 1 ปี.