โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ก่อสร้างเอกชนชะลอ ฉุดอุตฯปูนซีเมนต์ไทยปี 68 หดตัวเหลือ 34.7 ล้านตัน

TNN ช่อง16

เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา
อุปสงค์การใช้งานปูนซีเมนต์ในประเทศไทยปี 2025 เผชิญแรงกดดันจากการก่อสร้างภาคเอกชนที่หดตัว

อุปสงค์การใช้งานปูนซีเมนต์ในประเทศไทยปี 2025 เผชิญแรงกดดันจากการก่อสร้างภาคเอกชนที่หดตัว ปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์โดยรวมในประเทศปี 2025 คาดว่าอยู่ที่ 34.7 ล้านตัน หดตัว 5.5% จากปี 2024 โดยเป็นผลมาจากโครงการก่อสร้างภาคเอกชนที่หดตัวลง โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัยใหม่

แม้ว่าโครงการก่อสร้างภาครัฐจะยังสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่องจากปี 2024 แต่ก็เป็นการเติบโตในอัตราที่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งยังไม่เพียงพอต่อการหนุนให้ปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ในประเทศขยายตัวจากปีก่อนได้ โดยความไม่แน่นอนทางการเมืองยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยง ที่อาจจะกระทบให้การจัดทำงบประมาณประจำปี 2026 รวมถึงการเปิดประมูลโครงการก่อสร้างใหม่ ๆ ของภาครัฐล่าช้าออกไป ซึ่งอาจกระทบต่อความต้องการใช้งานปูนซีเมนต์ในโครงการก่อสร้างภาครัฐในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2025 ไปจนถึงปีหน้าตามมา

ขณะที่ราคาปูนซีเมนต์พอร์ตแลนด์โดยเฉลี่ยของปี 2025 มีแนวโน้มอยู่ที่ 1,809 บาท/ตัน ลดลง 2.9%YOY ตามแนวโน้มราคาพลังงานโลก ทั้งถ่านหินและน้ำมัน ซึ่งเป็นต้นทุนสำคัญของการผลิตปูนซีเมนต์ และแนวโน้มอุปสงค์การใช้งานในภาคก่อสร้างที่ลดลง โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัยใหม่

การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการควบคุมมาตรฐานการผลิตตลอดห่วงโซ่อุปทาน จะเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้ผู้ผลิตปูนซีเมนต์ไทย

ผู้ผลิตปูนซีเมนต์ของไทยมีการพัฒนาปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก ที่สามารถลดกระบวนการเผาไหม้เชื้อเพลิงจากการเผาไหม้ปูนเม็ดที่ก่อให้เกิดการปล่อย CO2 นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียน และพลังงานทางเลือก รวมถึงการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีการใช้เตาเผาเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพด้านการใช้พลังงานมากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนด้านพลังงาน และเป็นโอกาสขยายฐานลูกค้า ทั้งภาครัฐที่มีการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการลดการปล่อย CO2 เพื่อสร้างความยั่งยืน และเทรนด์ของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

ทั้งนี้เหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2025 ที่ผ่านมา ได้ส่งผลให้เกิดความตระหนักถึงการควบคุมและการตรวจสอบคุณภาพของวัสดุก่อสร้างให้ได้ตามมาตรฐานมากขึ้น โดยในส่วนของปูนซีเมนต์ที่นอกจากจะต้องมีการผลิตให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพตามมาตรฐานอุตสาหกรรมแล้ว ผู้ผลิตปูนซีเมนต์อาจยังต้องสร้างความร่วมมือกับผู้ประกอบการที่อยู่ในเครือและคู่ค้า เพื่อควบคุมมาตรฐานไปถึงการผลิตคอนกรีตผสมเสร็จ เนื่องจากเป็นสินค้าที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานเดียวกันกับปูนซีเมนต์ ซึ่งจะมีผลต่อความเชื่อถือในคุณภาพ และตราสินค้าจากผู้ว่าจ้างโครงการก่อสร้างด้วยเช่นกัน

Industry overview

ปูนซีเมนต์เป็นวัสดุก่อสร้างหลักที่ใช้ในโครงการก่อสร้าง ทั้งโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ และสิ่งปลูกสร้างของภาคเอกชน จากความต้องการใช้งานปูนซีเมนต์ในประเทศปริมาณมาก ส่งผลให้อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทยเป็นการผลิตและใช้งานในประเทศเป็นหลัก เพื่อลดความเสี่ยงด้านห่วงโซ่อุปทานที่อาจส่งผลให้กิจกรรมการก่อสร้างหยุดชะงัก

โดยการผลิตปูนซีเมนต์ของไทยเริ่มต้นตั้งแต่กิจกรรมการจัดหาวัตถุดิบต้นน้ำ จากการทำเหมืองแร่และเหมืองหิน การผลิตและการบดปูนเม็ด (Clinker) เป็นปูนซีเมนต์แบบผง ไปจนถึงการบรรจุ และการจัดจำหน่ายไปยังผู้ใช้งานขั้นสุดท้าย

อุตสาหกรรมการผลิตปูนซีเมนต์ของไทยมีผู้เล่นน้อยราย โดยมีผู้เล่นรายใหญ่ 3 ราย ได้แก่

บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)

บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน)

และบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน)

ซึ่งมีสัดส่วนกำลังการผลิตสูงสุดรวมกันกว่า 85% ของกำลังการผลิตปูนซีเมนต์รวมทั้งประเทศที่อยู่ที่ประมาณ 66 ล้านตันต่อปี (ไม่รวมปูนเม็ด) โดยมีสัดส่วนการใช้งานในประเทศอยู่ที่ 75% ส่วนอีก 25% เป็นตลาดส่งออก ทั้งในรูปแบบปูนเม็ด ปูนซีเมนต์พอร์ตแลนด์ และปูนซีเมนต์ผสม โดยเป็นการส่งออกไปยังประเทศคู่ค้าหลัก 5 อันดับแรก ได้แก่ บังกลาเทศ, ออสเตรเลีย, เมียนมา, กัมพูชา และ ลาว นอกจากนี้ ผู้ผลิตปูนซีเมนต์ของไทยยังมีการลงทุนเพื่อขยายฐานการผลิตปูนซีเมนต์ในต่างประเทศ อาทิ เวียดนาม, กัมพูชา, ลาว, เมียนมา, ศรีลังกา และบังกลาเทศด้วยเช่นกัน

รูปที่ 1 : ห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ และบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

แนวโน้มการตั้งเป้าหมายเพื่อเข้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon neutrality) ในหลายประเทศทั่วโลก ส่งผลให้ผู้ผลิตปูนซีเมนต์มุ่งพัฒนาการผลิตปูนซีเมนต์โดยลดการปล่อย CO2 จากกระบวนการผลิต โดยเฉพาะการผลิตปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก ซึ่งถือเป็น Low-carbon product ที่สามารถลดกระบวนการเผาไหม้เชื้อเพลิงจากการเผาไหม้ปูนเม็ดที่ก่อให้เกิดการปล่อย CO2 ทั้งนี้ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2025 ผู้ผลิตปูนซีเมนต์ของไทยผลิตปูนซีเมนต์ที่เป็น Low-carbon product ออกสู่ตลาดคิดเป็นสัดส่วน Conversion rate โดยเฉลี่ยที่ราว 89% เพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ยในช่วงปี 2024 ที่สัดส่วนการผลิตปูนซีเมนต์ประเภทดังกล่าวอยู่ที่ราว 80% รวมถึงยังเพิ่มสัดส่วนการวางจำหน่าย Low-carbon product ในตลาดอย่างต่อเนื่อง

Industry outlook and trend

ในปี 2025 การก่อสร้างภาคเอกชนที่หดตัว จะเป็นแรงกดดันสำคัญให้ปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ในประเทศหดตัว 5.5%YOY มาอยู่ที่ 34.7 ล้านตัน

ในไตรมาสแรกของปี 2025 ปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ในประเทศไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนกว่า 9.6%YOY มาอยู่ที่ประมาณ 8.8 ล้านตัน โดยมีแรงหนุนหลักมาจากโครงการก่อสร้างภาครัฐ ที่มีการเร่งเบิกจ่ายงบลงทุน และเดินหน้าโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้ความต้องการใช้ปูนซีเมนต์เทกอง (Bulk cement) เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น สำหรับการใช้งานปูนซีเมนต์อีกส่วนหนึ่งจะมาจากโครงการก่อสร้างภาคเอกชน โดยจะเป็นการใช้งานในการก่อสร้างและปรับปรุงพื้นที่เชิงพาณิชย์ อาทิ โรงแรม, ห้างสรรพสินค้า, พื้นที่ค้าปลีก และโครงการ Mixed-use และ Community mall รวมถึงการปรับปรุงที่อยู่อาศัย หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวกรุงเทพฯ ในวันที่ 28 มีนาคม 2025 ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ความต้องการใช้งานปูนซีเมนต์ในช่วงที่เหลือของปี 2025 มีแนวโน้มลดลง โดยเป็นผลมาจากโครงการก่อสร้างภาคเอกชนที่หดตัวลง โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ จากหน่วยเหลือขายสะสมที่ยังอยู่ในระดับสูงในตลาด แม้ว่าโครงการก่อสร้างภาครัฐจะยังสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่องจากปี 2024 แต่ก็เป็นการเติบโตในอัตราที่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งยังไม่เพียงพอต่อการหนุนให้ปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ในประเทศขยายตัวจากปีก่อนได้ ทั้งนี้ความไม่แน่นอนทางการเมืองยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยง ที่จะกระทบให้การจัดทำงบประมาณประจำปี 2026 รวมถึงการเปิดประมูลโครงการก่อสร้างใหม่ ๆ ของภาครัฐล่าช้าออกไป ซึ่งอาจกระทบต่อความต้องการใช้งานปูนซีเมนต์ในโครงการก่อสร้างภาครัฐในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2025 ไปจนถึงปีหน้า ส่งผลให้ SCB EIC คาดการณ์ปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์โดยรวมในประเทศในปี 2025 จะอยู่ที่ 34.7 ล้านตัน หรือลดลง 5.5%YOY โดยเป็นการลดลงต่อเนื่องจากปี 2024

โดยภาพรวม การส่งออกปูนซีเมนต์ในช่วงที่ผ่านมามีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ในช่วงปี 2018 โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากแรงกดดันด้านอุปทาน เนื่องจากประเทศคู่ค้าหลักมีการผลิตปูนซีเมนต์ภายในประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการที่ผู้ผลิตปูนซีเมนต์รายใหญ่ทั้งของโลกและของไทยเข้าไปดำเนินธุรกิจและขยายฐานการผลิตในประเทศดังกล่าวมากขึ้น นอกจากปัจจัยด้านอุปทานแล้ว สำหรับในปี 2025 ตลาดส่งออกปูนซีเมนต์ยังมีแนวโน้มหดตัวจากปัจจัยด้านอุปสงค์ด้วย เนื่องจากความต้องการใช้งานปูนซีเมนต์ของประเทศคู่ค้าหลัก ทั้งเวียดนาม, กัมพูชา, ศรีลังกา และบังกลาเทศ ซึ่งเป็นผู้นำเข้าปูนซีเมนต์ที่สำคัญของไทย มีแนวโน้มชะลอตัวจากปัจจัยกดดันทางเศรษฐกิจ และการชะลอตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้ SCB EIC คาดว่าปริมาณการส่งออกปูนซีเมนต์ของไทยโดยรวมในปี 2025 ทั้งปูนเม็ด (Clinker) ปูนซีเมนต์พอร์ตแลนด์ และปูนซีเมนต์ผสมประเภทอื่น ๆ มีแนวโน้มลดลงไปอยู่ที่ 6.0 ล้านตัน (-8.8%YOY) และในระยะข้างหน้าคาดว่าจะยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องมาอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงก่อนปี 2020 จากโครงสร้างตลาดปูนซีเมนต์ในประเทศคู่ค้าหลักที่เปลี่ยนแปลงไปดังกล่าว

แนวโน้มราคาปูนซีเมนต์เฉลี่ยทั้งปี 2025 คาดว่าจะปรับลดลงมาอยู่ที่ราว 1,809 บาท/ตัน (-2.9%YOY) โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 ราคาปูนซีเมนต์ยังคงปรับตัวสูงขึ้นโดยมีแรงหนุนหลักมาจากโครงการก่อสร้างภาครัฐที่มีการเร่งเบิกจ่ายงบลงทุน และการเดินหน้าโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารที่ได้รับความเสียหายจาก

เหตุการณ์แผ่นดินไหวในเดือนมีนาคม 2025 อย่างไรก็ตาม คาดว่าราคาปูนซีเมนต์ในช่วงที่เหลือของปี 2025 มีแนวโน้มปรับตัวลดลงตามทิศทางราคาพลังงานโลก ทั้งถ่านหิน และน้ำมัน ซึ่งเป็นต้นทุนสำคัญของการผลิตปูนซีเมนต์ รวมถึงแนวโน้มอุปสงค์การใช้งานที่ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเฉพาะในภาคก่อสร้างที่อยู่อาศัย รวมถึงการเบิกจ่ายของโครงการก่อสร้างภาครัฐที่คาดว่าจะเริ่มลดลงในช่วงปลายปี

การผลิตปูนซีเมนต์ของไทยปี 2025 มีแนวโน้มอยู่ที่ 40.1 ล้านตัน (-2.8%YOY) ลดลงตามแนวโน้มความต้องการใช้งานทั้งในประเทศ และตลาดส่งออก

ไทยมีการผลิตปูนซีเมนต์ปีละราว 38-43 ล้านตัน โดยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2025 มีการผลิตปูนซีเมนต์ 11.2 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 6.8%YOY อย่างไรก็ตาม SCB EIC ประเมินว่า ในช่วงที่เหลือของปี 2025 การผลิตปูนซีเมนต์ในประเทศมีแนวโน้มชะลอลง โดยคาดว่าจะมีการผลิตปูนซีเมนต์ในเดือนเมษายน-ธันวาคม 2025 อีกประมาณ 28.9 ล้านตัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 6.0%YOY จากการที่ผู้ผลิตปูนซีเมนต์ยังต้องลดปริมาณการผลิตปูนซีเมนต์ลงตามแนวโน้มความต้องการใช้งานที่หดตัว โดยเฉพาะการก่อสร้างโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ในช่วงที่เหลือของปี 2025 ที่ยังไม่สามารถฟื้นตัวได้ และเพื่อรักษาปริมาณสินค้าคงคลังไว้ให้อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้คาดว่าปริมาณการผลิตปูนซีเมนต์โดยรวมทั้งปี 2025 มีแนวโน้มอยู่ที่ 40.1 ล้านตัน ลดลง 2.8%YOY ซึ่งจะส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตลดลงไปอยู่ที่ประมาณ 53.3% โดยเป็นการลดลงอย่างต่อเนื่องจากปี 2019 จากการที่ผู้ประกอบการมีการขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง จาก 68.6 ล้านตันในปี 2019 มาอยู่ที่ 75.2 ล้านตันในปี 2025

Competitive landscape

การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และขยายช่องทางการตลาด ที่สามารถเจาะกลุ่มลูกค้าได้อย่างครอบคลุม รวมถึงการสร้างความเชื่อมั่นด้านคุณภาพสินค้า จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับผู้ผลิตปูนซีเมนต์ของไทย

ผู้ผลิตปูนซีเมนต์ของไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มการเข้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ส่งผลให้มีการผลิตปูนซีเมนต์ที่เป็น Low-carbon product รวมถึงปูนซีเมนต์สำเร็จรูป หรือปูนซีเมนต์มอร์ตาร์ที่สะดวกต่อการใช้งานเฉพาะ เช่น งานก่อ งานฉาบ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มจากปูนซีเมนต์ทั่วไป ออกมาแข่งขันในตลาดเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ปูนซีเมนต์ในตลาด

ขณะเดียวกัน การแข่งขันด้านการตลาดระหว่างผู้ประกอบการมีความรุนแรงมากขึ้น โดยมีการใช้กลยุทธ์ขยายฐานลูกค้า ทั้งการมุ่งทำการตลาดในรูปแบบผู้ผลิตถึงกลุ่มลูกค้าธุรกิจ (B2B) เช่น กลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้าง ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงรูปแบบผู้ผลิตถึงผู้บริโภคโดยตรง (B2C) เช่น การเปิดร้านค้าปลีกภายใต้แบรนด์ของตนเอง การขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ รวมถึงบางรายมีการจำหน่ายโดยตรงให้กับโครงการภาครัฐ (B2G) เพื่อขยายฐานลูกค้าให้มีความหลากหลาย ครอบคลุมมากขึ้น

ทั้งนี้ผู้ผลิตปูนซีเมนต์รายใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีการบริหารจัดการต้นทุนได้ค่อนข้างดี ส่งผลให้ระดับอัตรากำไรยังอยู่ในเกณฑ์ดีต่อเนื่อง สะท้อนจากผลประกอบการในปี 2024 และในไตรมาสแรกของปี 2025 ที่ยังมีการรักษา EBITDA margin ไว้ในระดับที่สูงกว่า 20% ซึ่งเป็นผลมาจากการลดต้นทุนด้านพลังงาน ด้วยการลดการพึ่งพาพลังงานถ่านหิน และเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียน รวมถึงพลังงานทางเลือกในกระบวนการผลิต อีกทั้ง ยังมีการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีการใช้เตาเผา เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพด้านการใช้พลังงานมากขึ้น

SCB EIC มองว่า การที่ผู้ผลิตปูนซีเมนต์ของไทยได้พัฒนาการผลิตปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกที่มีคุณสมบัติด้านความแข็งแรงเทียบเท่ากันกับปูนซีเมนต์พอร์ตแลนด์ทั่วไป และเพิ่มสัดส่วนการวางจำหน่ายทดแทนปูนซีเมนต์แบบดั้งเดิมได้อย่างต่อเนื่อง จะนำไปสู่การผลิตปูนซีเมนต์ที่เป็น Low-carbon product ที่ตอบโจทย์เป้าหมายการเข้าสู่

ความเป็นกลางทางคาร์บอน ซึ่งหากสามารถพัฒนาต่อเนื่องจนผลิตทดแทนปูนซีเมนต์แบบดั้งเดิมได้ทั้งหมด ก็จะสามารถลดการปล่อย CO2 จากการผลิตปูนซีเมนต์ในอดีตได้กว่า 50% และคาดว่าจะมีความต้องการใช้งานเพิ่มมากขึ้นในระยะข้างหน้า ทั้งจากภาครัฐที่มีการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยได้กำหนดคุณสมบัติสินค้าวัสดุก่อสร้าง 3 ประเภท ในระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างสำหรับโครงการก่อสร้างของภาครัฐ ได้แก่ ปูนซีเมนต์, ฉนวนกันความร้อน และเหล็ก ที่จะต้องได้รับมาตรฐานรับรองด้านความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงจากผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการลดการปล่อย CO2 เพื่อสร้างความยั่งยืน และเทรนด์ของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งจะหนุนให้มีการหันมาใช้งานปูนซีเมนต์ที่เป็น Low-carbon product มากขึ้น

ทั้งนี้ผู้ว่าจ้างโครงการก่อสร้างยังคงให้ความสำคัญกับคุณภาพวัสดุก่อสร้าง ซึ่งส่งผลต่อความแข็งแรง และอายุการใช้งานของตัวอาคารและสิ่งปลูกสร้าง รวมถึงความสามารถของตัวอาคารและสิ่งปลูกสร้างในการรับมือต่อภัยพิบัติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและรุนแรงมากขึ้น และเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2025 ที่ผ่านมา ได้ส่งผลให้เกิดความตื่นตัวและตระหนักถึงการควบคุมและการตรวจสอบคุณภาพของวัสดุก่อสร้างให้ได้ตามมาตรฐานมากขึ้น โดยในส่วนของปูนซีเมนต์ซึ่งเป็นวัสดุโครงสร้างที่นอกจากจะต้องมีการผลิตให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานอุตสาหกรรมแล้ว ผู้ผลิตปูนซีเมนต์อาจยังต้องสร้างความร่วมมือกับผู้ประกอบการที่อยู่ในเครือของบริษัทและคู่ค้า เพื่อควบคุมมาตรฐานไปถึงการผลิตคอนกรีตผสมเสร็จ เนื่องจากเป็นสินค้าที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานเดียวกันกับปูนซีเมนต์ ซึ่งจะมีผลต่อความน่าเชื่อถือของคุณภาพสินค้า และตราสินค้าจากผู้ว่าจ้างโครงการก่อสร้างด้วยเช่นกัน

ภาคผนวก : ภาพรวมผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยของกลุ่มผู้ผลิตปูนซีเมนต์*

หมายเหตุ : *คำนวณเฉพาะงบการเงินของธุรกิจปูนซีเมนต์

ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเอกสารเผยแพร่ของผู้ประกอบการ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก TNN ช่อง16

"แจ็คสันโฮล" ชี้ชะตา "สินทรัพย์" ทั่วโลก "เจอโรม พาวเวลล์" จะใส่เกียร์เร่ง หรือเหยียบเบรคความร้อนแรง

20 นาทีที่แล้ว

“จีน” คุมแหล่งผลิต “แร่หายาก” ในเมียนมา

31 นาทีที่แล้ว

ส่งแรงใจ เยาวชนไทยลุยศึกแรงงานอาเซียน

36 นาทีที่แล้ว

ยูเอ็นเผยเด็กอดอยากเสียชีวิตเพิ่มในกาซา

45 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

‘จุลพันธ์’ ยันจ่อเข็นมาตรการปั๊มศก.ปลายปี บูมบริโภค การันตีQ4มาแน่กระตุ้นท่องเที่ยว

ไทยโพสต์

"แจ็คสันโฮล" ชี้ชะตา "สินทรัพย์" ทั่วโลก "เจอโรม พาวเวลล์" จะใส่เกียร์เร่ง หรือเหยียบเบรคความร้อนแรง

TNN ช่อง16

“ดุสิต” ชู “Tree of Life” หนุนเที่ยวยั่งยืน ปักธงเชียงรายบริหาร“ทานตะวันเต็นท์แคมป์”

Manager Online

“จีน” คุมแหล่งผลิต “แร่หายาก” ในเมียนมา

TNN ช่อง16

นบขพ. เคาะมาตรการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เสริมเสถียรภาพราคา-ส่งเสริมการผลิตปี 68/69 วงเงิน 224 ล้านบาท คงมาตรการนำเข้า 3 ต่อ 1 ภายใต้ AFTA

BTimes

ราคาโกโก้ทะยานต่อเนื่อง! 3 ปีพุ่ง 230% แตะ 2.6 แสนบาท/ตัน พิษโลกร้อน

Amarin TV

ตรวจสอบสิทธิเงินช่วยเหลือเกษตรกร 68/69 ไร่ละ 1,000 บาท โอนเข้าบัญชี ธ.ก.ส.โดยตรง

เดลินิวส์

AIS หนุน กอช. เปิดซื้อหวยเกษียณ ผ่านแอป myAIS ออมง่าย ลุ้นล้านทุกศุกร์ เริ่มไตรมาส 4 นี้

Positioningmag

ข่าวและบทความยอดนิยม

“พฤกษา โฮลดิ้ง” Q1 กวาดรายได้รวม 3,705 ลบ. คาดผลงาน Q4 สุดพีคโครงการรอโอนแน่น

TNN ช่อง16

CPANEL ตั้งเป้าพลิกมีกำไร Q2/68 ปรับกลยุทธ์ขยายฐาน ใหม่ โชว์ Backlog แตะ 1,528.29 ล้านบาท

TNN ช่อง16

ภาพรวมอสังหาฯ ปัจจุบันชะลอตัว คนไทยซื้อบ้านไม่ผ่านพุ่งสูงถึง 80%

TNN ช่อง16
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...