‘พร้อมพงศ์’ รับไม่ได้ ขาประจำขู่ศาลห้ามตัดสินคดี ‘อิ๊งค์’ ฝืนความรู้สึก เบรกอย่าใช้ความแค้นสนองความสะใจตัวเอง
เมื่อวันที่ 23 ส.ค. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.วัฒนธรรม เข้ารับการไต่สวนคดีคลิปเสียงเมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่ศาลรัฐธรรมนูญ และศาลอาญายกฟ้องคดีมาตรา 112 ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี วันที่ 22 ส.ค. พวกขาประจำฝ่ายตรงข้าม ไม่หวังดี ยังไม่เลิกพฤติกรรมเดิมๆ โดยเฉพาะพวกไม่หวังดี นักการเมือง นักกฎหมายบางคน ออกมาฟันธงทำให้ผู้คนในสังคมเห็นว่า คดีของ น.ส.แพทองธาร ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินวันที่ 29 ส.ค. จะไม่เป็นผลดีต่อนายกฯ และรัฐบาล ใช้อคติชี้นำสังคม มากกว่าข้อเท็จจริง
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ส่วน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ไปปราศรัยว่า คดีวันที่ 29 ส.ค. หากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินออกมาฝืนความรู้สึก จ้องจะปลุกระดมมวลชน ให้ลงถนนมาไล่ศาล ตนมองว่า ไปกันใหญ่ นักเคลื่อนไหวขาประจำเรียกร้องนายทักษิณ กลับประเทศ ต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม เมื่อท่านกลับมาต่อสู้คดี ม.112 คดีพักรักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจ ยังไม่พอใจ ซึ่งบอกเองให้ทุกคนเคารพศาล น้อมรับคำวินิจฉัย แต่ไม่ทันไร นายทักษิณ รอดคดี 112 มาฟันธงล่วงหน้า ฟาดงวงฟาดงาใส่คดีชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจไม่รอดแน่ คดี น.ส.แพทองธาร ท่านเข้ารับการไต่สวน ศาลไม่ถ่ายทอดสดเพราะเป็นเรื่องความมั่นคง บางคนมาติติงปลุกระดม ลุกลามว่าจะต้องตัดสินตามความต้องการของตัวเอง บอกมีดีลลับบ้าง ไปคาดการณ์ผลตัดสินล่วงหน้า ชี้นำสังคมให้เห็นว่าผู้ถูกกล่าวหาผิดไปแล้ว อย่าปล่อยให้อคติมาครอบงำจิตใจ คดีของนายกฯ วันที่ 29 ส.ค. ไม่มีใครรู้ล่วงหน้า ผลจะออกมาเป็นอย่างไร
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า หลังมีคำตัดสินคดีของนายทักษิณ วันที่ 22 ส.ค. หุ้นปิดบวกกว่า 8 จุด สะท้อนนักลงทุน คลายความกังวลการเมือง ตอบรับในทิศทางบวก ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา สงบลงไปมาก เข้าสู่กระบวนการเจรจา การเดินหน้าแก้ไขปัญหายาเสพติด ปัญหาปากท้อง พรรคร่วมรัฐบาลมีเสถียรภาพแข็งแกร่ง รัฐบาลเร่งเดินหน้าแก้ปัญหาประชาชนไม่หยุด แต่ยังมีคนคอยขัดขวาง เล่นการเมืองทั้งในสภา นอกสภา เพื่อสนองความต้องการทางการเมืองของตัวเอง คดีที่รอศาลตัดสิน น.ส.แพทองธาร 29 ส.ค. และคดีนายทักษิณ วันที่ 9 ก.ย. ไม่มีใครรู้ล่วงหน้า ระหว่างนี้ควรรอคำวินิจฉัยของศาลออกมาให้เรียบร้อย ไม่อยากให้นักปราศรัยบางคนต้องคดีหมิ่นศาล ข่มขู่ศาล ระหว่างนี้ตั้งสติ อย่าให้ความแค้นส่วนตัวมาเป็นตัวชี้นำ แล้วมารอฟังคำตัดสินอีก 2 คดีสำคัญไปพร้อมกัน