‘20 บาทตลอดสาย’ วุ่น ‘สุริยะ’ ลุยแก้สัมปทานรถไฟฟ้า 4 สาย ดึงเงินโปะกองทุรฟม.
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า สำหรับนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายที่คาดว่าจะใช้ไม่ทันในวันที่ 1 ต.ค.นี้ เนื่องจากติดร่างกฎหมาย 3 ฉบับที่ยังอยู่ในการพิจารณาจากสภาผู้แทนราษฎรนั้น
ขณะเดียวกันกระทรวงคมนาคมมีแผนดำเนินการแก้สัญญาสัมปทานกับเอกชนผู้รับสัมปทานทั้ง 4 เส้นทาง ประกอบด้วย รถไฟฟ้าสายสีชมพู,รถไฟฟ้าสายสีเหลือง,รถไฟฟ้าสายสีเขียว และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน โดยในสัญญาใหม่จะมีการระบุสัญญาแนบท้ายโดยกำหนดเมื่อดำเนินการตามนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายแล้ว ในกรณีที่มีปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น 25% เอกชนผู้รับสัมปทานต้องแบ่งส่วนแบ่งรายได้เพิ่มให้รัฐเข้ากองทุนรฟม.จากเดิมที่มีการกำหนดสัดส่วนอยู่ที่ 15%
ส่วนการแก้ไขสัญญาสัมปทานของรถไฟฟ้าสายสีเขียว เบื้องต้นทางกรมการขนส่งทางราง (ขร.) อยู่ระหว่างดำเนินการประสานงานร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อหารือถึงเรื่องดังกล่าวต่อไป
ทั้งนี้ในระหว่างที่รอร่างกฎหมายทั้ง 3 ฉบับผ่านความเห็นชอบนั้น เบื้องต้นกระทรวงคมนาคมจะมีการหารือร่วมกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กรมการขนส่งทางราง (ขร.) เพื่อหาข้อสรุปในกรณีที่แก้สัญญาสัมปทานในการให้เอกชนนำรายได้ชดเชยหากมีปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจากเดิมเพื่อชดเชยเข้ากองทุนรฟม.โดยรฟม.จะนำเงินไปใช้เข้ากองทุนระบบตั๋วร่วมต่อไป ซึ่งจะต้องพิจารณาร่วมกันว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่ จากเดิมที่มีการหารือว่าสามารถดำเนินการได้
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ตามขั้นตอนแก้ไขสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้านั้น ภายหลังการหารือร่วมกันแล้วเสร็จ รฟม.จะสรุปข้อมูลการแก้ไขสัญญาสัมปทานเพื่อเสนอต่อกระทรวงคมนาคมรับทราบภายในวันที่ 31 ส.ค.นี้ ก่อนเสนอต่อคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม.พิจารณาในวันที่ 9 ก.ย.68 และคณะกรรมการกำกับแก้ไขสัญญา โดยมีรองปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธานในวันที่ 16 ก.ย.68
จากนั้นจะเสนอต่ออัยการสูงสุดตรวจสอบร่างสัญญาภายใน 45 วัน เบื้องต้นจะมีการหารือกับอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาการตรวจร่างสัญญาเร็วขึ้นภายใน 30 วัน ก่อนเสนอไปยังคณะกรรมการ PPP และที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบภายในต้นพ.ย.2568 เพื่อให้มีผลบังคับใช้นโยบายทันในวันที่ 15 พ.ย.68
“ที่ผ่านมากระทรวงได้มีการหารือร่วมกับเอกชนอย่างไม่เป็นทางการถึงการแก้ไขสัญญาสัมปทานแล้ว ซึ่งบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM และบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส เบื้องต้นเอกชนทั้ง 2 ราย เห็นด้วยและยอมรับแล้วว่าสามารถดำเนินการ ในขณะที่ BEM ยืนยัน ว่าการแบ่งสัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้น 25% เป็นตัวเลขที่เหมาะสมจากต้นทุนที่เอกชนต้องเดินรถและการเพิ่มความถี่ของขบวนรถ” นายสุริยะ กล่าว
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่มีการนำร่องรถไฟฟ้า 2 สาย ประกอบด้วย รถไฟฟ้าสายสีม่วงและรถไฟฟ้าสายสีแดง ตามนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย จากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย.68 นั้น โดยทั้ง 2 สาย สามารถดำเนินการได้อัตโนมัติ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ก.ค.68 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายหรือมาตรการอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าทุกสาย ในราคาไม่เกิน 20 บาทตลอดสาย ตามนโยบายของรัฐบาล เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568-30 กันยายน 2569
สำหรับมาตรการอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาทตลอดสายนี้จะครอบคลุมโครงข่ายเส้นทางรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพและปริมณฑล จำนวน 13 เส้นทาง ระยะทางรวม 286.84 กิโลเมตร 193 สถานี ประกอบด้วย รถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม, สายสีแดงอ่อน,รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย
รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ,รถไฟฟ้าสายสีม่วง ,รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ,รถไฟฟ้าสายสีชมพูของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ,รถไฟฟ้าสายสีเขียว สายสุขุมวิท สายสีลม และรถไฟฟ้าสายสีทองของกรุงเทพมหานคร (กทม.)