โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เปิดชื่อ ‘ตัวเต็ง’ ชิงตำแหน่งประธาน Fed คนต่อไป ‘ทรัมป์’ เผยเหลือแค่ 3 คนสุดท้าย

THE STANDARD

อัพเดต 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • thestandard.co
เปิดชื่อ ‘ตัวเต็ง’ ชิงตำแหน่งประธาน Fed คนต่อไป ‘ทรัมป์’ เผยเหลือแค่ 3 คนสุดท้าย

โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศแล้วว่า เควิน ฮัสเซ็ตต์ (Kevin Hassett) และ เควิน วอร์ช (Kevin Warsh) คือตัวเต็งที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ต่อจากเจอโรม พาวเวลล์ เมื่อวาระการดำรงสิ้นสุดลงในเดือนพฤษภาคมปี 2026 จับตา คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ (Christopher Waller) ตัวเต็งอีกราย

“เราได้เริ่มกระบวนการสัมภาษณ์แล้ว เรามีผู้สมัครที่ยอดเยี่ยมหลายคน ซึ่งตอนนี้น่าจะเหลือแค่ 3 คน” ประธานาธิบดีกล่าวในการแถลงข่าวเมื่อบ่ายวันพุธ ตามเวลาท้องถิ่น

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ฮัสเซ็ตต์และวอร์ช คือตัวเต็งที่จะได้รับการแต่งตั้งหรือไม่ ทรัมป์กล่าวว่า “เควิน 2 คนนี้แน่นอน ทั้งคู่ดีมาก”

การเลือกประธาน Fed คนใหม่นี้เกิดขึ้นท่ามกลางการวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงของทรัมป์ที่มีต่อพาวเวลล์ โดยทรัมป์เรียกพาวเวลล์ว่า ‘ลาหัวดื้อ’ (Stubborn Mule) และ ‘คนโง่’ (Moron) เนื่องจาก Fed ยังไม่ลดอัตราดอกเบี้ยเลยในปีนี้

โดยทรัมป์ยืนยันว่า อัตราดอกเบี้ยควรลดลงจากระดับปัจจุบันที่ 4.25-4.50% 50% เหลือ 1% ขณะที่พาวเวลล์และผู้กำหนดนโยบายคนอื่นๆ กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยจำเป็นต้องคงไว้ในระดับที่เข้มงวด เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากนโยบายภาษีศุลกากรของทรัมป์ ที่อาจจะก่อให้เกิดภาวะเงินเฟ้อรุนแรงรอบใหม่

เควิน แฮสเซ็ตต์ ซึ่งเป็นพันธมิตรของทรัมป์ ผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ (National Economic Council: NEC) และวอร์ช คืออดีตผู้ว่าการ Fed ซึ่งเสียตำแหน่งประธาน Fed ให้กับพาวเวลล์อย่างเฉียดฉิว เมื่อปี 2017

โดยทั้งแฮสเซ็ตต์และวอร์ชต่างก็เริ่มสนับสนุนให้มีการลดดอกเบี้ยแล้ว ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง หากต้องการได้รับเสียงสนับสนุนจากทรัมป์

สตีเฟน มัวร์ (Stephen Moore) นักเศรษฐศาสตร์ผู้ใกล้ชิดกับทรัมป์กล่าวว่า “มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะเป็น 1 ใน 2 เควินนี้ ทรัมป์ให้ความเคารพและชอบทั้งคู่”

นอกเหนือจากแฮสเซ็ตต์และวอร์ชแล้ว นักลงทุนและนักเศรษฐศาสตร์หลายคนยังมองว่า คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ (Christopher Waller) ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากทรัมป์ให้เป็นคณะกรรมการ Fed ในสมัยแรก ก็เป็นอีกหนึ่งผู้สมัครสำหรับตำแหน่งนี้

อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งของ เอเดรียนา คูเกลอร์ (Adriana Kugler) คณะกรรมการ Fed เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเร็วกว่ากำหนดที่จะหมดวาระในเดือนมกราคม ทำให้กระบวนการซับซ้อนขึ้น

ทรัมป์กล่าวว่าเขา ‘น่าจะเลือกคนชั่วคราว’ มาดำรงตำแหน่งที่เหลือของคูเกลอร์ จากนั้นจึงจะเสนอชื่อผู้สมัคร ‘ถาวร’ ที่จะใช้ตำแหน่งของคูเกลอร์เป็นประธาน Fed คนใหม่

วาระของพาวเวลล์ในฐานะประธานจะสิ้นสุดในเดือนพฤษภาคม 2026 แต่เขาสามารถอยู่ในตำแหน่งคณะกรรมการ Fed ได้จนถึงเดือนมกราคม 2028 ทรัมป์กล่าวว่าจะประกาศชื่อผู้แทนชั่วคราวของคูเกลอร์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

นักเศรษฐศาสตร์และนักลงทุนกล่าวว่า ไม่น่าเป็นไปได้ที่ทั้งแฮสเซ็ตต์หรือวอร์ชจะยอมรับตำแหน่งชั่วคราว โดยตำแหน่งนี้อาจตกเป็นของตัวเลือกที่ไม่ค่อยเด่นเท่าไหร่สำหรับตำแหน่งประธาน อย่างเช่น เดวิด มัลพาส (David Malpass) อดีตหัวหน้าธนาคารโลก

ตัดชื่อ ‘สกอตต์ เบสเซนต์’ ออกแล้ว

ทรัมป์ยังกล่าวเมื่อวันอังคารว่า ได้ตัดชื่อ สกอตต์ เบสเซนต์ (Scott Bessent) รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ออกจากการพิจารณาสำหรับตำแหน่งว่างในคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) แล้ว แต่ยืนยันว่าจะประกาศรายชื่อผู้ที่ถูกเลือกในอีก ‘ไม่นาน’

ในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNBC ทรัมป์กล่าวว่า การตัดสินใจของ เอเดรียนา คูเกลอร์ (Adriana Kugler) กรรมการ Fed ที่จะลาออกจากตำแหน่งก่อนกำหนด เป็น ‘เรื่องน่าประหลาดใจที่น่ายินดี’

การลาออกของคูเกลอร์ ซึ่งวาระจะสิ้นสุดในวันที่ 31 มกราคม ดูเหมือนจะทำให้แผนของทรัมป์สำหรับธนาคารกลางสหรัฐฯ เร็วขึ้น ทำให้เขามีตำแหน่งว่างให้เติมเต็มได้ทันทีด้วยบุคคลที่อาจได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าผู้กำหนดนโยบายเมื่อวาระของ เจอโรม พาวเวลล์ (Jerome Powell) ประธาน Fed สิ้นสุดลงในเดือนพฤษภาคม

“มีคนที่มีคุณสมบัติมากมาย” ทรัมป์กล่าว “ผมจะประกาศเรื่องนี้ในไม่ช้า” ประธานาธิบดีกล่าวถึงการตั้งชื่อผู้แทนคูเกลอร์ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นคณะกรรมการ Fed โดยอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน

ทรัมป์กล่าวว่าเบสเซนต์จะไม่เข้าชิงตำแหน่งนี้ เพราะเบสเซนต์ต้องการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการคลังต่อ แต่ผู้ได้รับการเสนอชื่อจะต้องทำหน้าที่เพียงไม่กี่เดือนตามวาระของคูเกลอร์

การลาออกของคูเกลอร์ถูกประกาศในวันเดียวกับที่ทรัมป์ประกาศไล่อดีตหัวหน้าสำนักงานสถิติแรงงาน (BLS) เอริก้า แมคเอ็นทาร์เฟอร์ (Erika McEntarfer) ออกจากตำแหน่ง โดยกล่าวหาอย่างไม่มีหลักฐานว่า BLS กำลังบิดเบือนข้อมูลการจ้างงานเพื่อให้ทรัมป์ดูไม่ดี หลังจากตัวเลขการจ้างงานชะลอตัวลงในช่วง 2-3 เดือนแรกภายใต้การบริหารของทรัมป์

มุมมองต่อ 2 เควิน

ในบรรดาผู้สมัครทั้งสองคนนี้ เควิน วอร์ช อดีตผู้บริหารของมอร์แกน สแตนลีย์ (Morgan Stanley) และที่ปรึกษาของอดีตประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช (George W. Bush) ถูกมองว่าเป็นตัวเลือกที่นักลงทุนวอลล์สตรีตจำนวนมากมองว่าเป็นทางเลือกที่สมเหตุสมผลกว่า

ขณะที่ฮัสเซ็ตต์ถูกมองว่ามีแนวโน้มที่จะสนับสนุนความปรารถนาของทรัมป์ในการลดดอกเบี้ยมากกว่า แม้ว่าฮัสเซ็ตต์จะขาดประสบการณ์ในฐานะเจ้าหน้าที่อาวุโสของ Fed แต่นักวิเคราะห์บางคนกล่าวว่าประธานาธิบดีมองว่าเขาเป็นผู้ดูแลนโยบายเศรษฐกิจของทำเนียบขาวที่ภักดีมากกว่า

นอกจากนี้ ฮัสเซ็ตต์ยังมีประสบการณ์ทางการเมืองมากกว่า โดยเคยเป็นที่ปรึกษาให้กับทีมหาเสียงของผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันที่มีชื่อเสียงหลายคน รวมถึง บุช (George W. Bush) จอห์น แมคเคน (John McCain) และมิตต์ รอมนีย์ (Mitt Romney) โดยในช่วงสมัยแรกของทรัมป์ เขาเคยเป็นหัวหน้าสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจเป็นเวลา 2 ปี

แม้ว่าวอร์ชจะเคยสนับสนุนให้ลดดอกเบี้ยในการให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์เมื่อเดือนที่แล้ว แต่นักลงทุนหลายคนก็ตั้งข้อสังเกตว่า วอร์ชมีแนวโน้มความเป็น ‘สายเหยี่ยว’ (hawkish) ในช่วงที่เคยดำรงตำแหน่งที่ Fed

โดยบันทึกการประชุม FOMC เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2551 ซึ่งเป็นวันหลังจากที่เลห์แมน บราเดอร์ส ล้มละลาย แสดงให้เห็นว่า วอร์ช อดีตผู้ว่าการ Fed ผู้นี้มีความกังวลเกี่ยวกับแรงกดดันด้านราคา แม้ว่าระบบการเงินโลกกำลังเผชิญกับภาวะล่มสลายก็ตาม

ดังนั้น วอร์ช ซึ่งเป็นนักวิจัยประจำสถาบันฮูเวอร์ (Hoover Institution) ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ซึ่งมีนักการเงินสายเหยี่ยวอย่างจอห์น เทย์เลอร์ อยู่ในทีม จึงได้พยายามหลีกเลี่ยงความกังวลว่าเขาจะดูเป็นสายเหยี่ยวเกินไป โดยอ้างว่า ความปรารถนาในการลดขนาดงบดุลของ Fed จะนำไปสู่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลายครั้ง

อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ส่งสัญญาณว่า เขาอาจมีความสงสัยในความเต็มใจของวอร์ชที่จะลดดอกเบี้ยอย่างจริงจัง โดยกล่าวกับ CNBC ว่า “บางครั้งพวกเขาทั้งหมดก็ดูดีมากจนกว่าคุณจะให้พวกเขาเข้าไปอยู่ในตำแหน่งนั้น แล้วพวกเขาก็ไม่ได้ทำได้ดีอย่างที่คิด”

อ้างอิง:

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก THE STANDARD

Cartier เปิดร้านแฟล็กชิพสโตร์ 2 ชั้น แห่งแรกของไทย ณ Siam Paragon

8 นาทีที่แล้ว

“เตรียมโบกมือลาลูกค้าสุดที่รัก” นับถอยหลัง โรงอาหารรัฐสภา เตรียมยกเลิกและขนย้ายออกจากพื้นที่ 15 สิงหาคมนี้

9 นาทีที่แล้ว

ทนายความบุรีรัมย์ แถลงโต้ปมเพิกถอนที่ดินเขากระโดง ชี้ รฟท. ไม่มี พ.ร.ฎ. – แผนที่แนบท้าย ย้ำชาวบ้านมีสิทธิครอบครองตามกฎหมาย

12 นาทีที่แล้ว

สว. ถอนตัวจากคำร้องถอดถอน 136 สว. เพิ่มอีก 3 คน โวยถูกปลอมลายเซ็น 2 คน อีก 1 คนอ้างเข้าใจคลาดเคลื่อน

28 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

กต.แถลงอัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

สำนักข่าวไทย Online
วิดีโอ

เพาะพันธุ์ "เต่าซูลคาต้า" รายแรก อ.เมืองตรัง

Thai PBS

“เตรียมโบกมือลาลูกค้าสุดที่รัก” นับถอยหลัง โรงอาหารรัฐสภา เตรียมยกเลิกและขนย้ายออกจากพื้นที่ 15 สิงหาคมนี้

THE STANDARD
วิดีโอ

"หนุ่มกัมพูชา" พ้อ! ไม่อยากเป็นทหาร | ทันข่าวเย็น | 7 ส.ค. 68 | NationTV22

NATIONTV

IFC จับมือคลีนแม็กซ์ขยายการลงทุนระบบพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมในไทย

ไทยพับลิก้า

ทนายความบุรีรัมย์ แถลงโต้ปมเพิกถอนที่ดินเขากระโดง ชี้ รฟท. ไม่มี พ.ร.ฎ. – แผนที่แนบท้าย ย้ำชาวบ้านมีสิทธิครอบครองตามกฎหมาย

THE STANDARD

ภูมิใจไทยผิดหวัง “วันนอร์” รีบปิดประชุม ไม่ได้สะท้อนปัญหาประชาชนชายแดน

สำนักข่าวไทย Online

บุรีรัมย์ยันชัด! ไม่รุกที่การรถไฟ เดินหน้าจัดกิจกรรมเต็มสูบ

มุมข่าว

ข่าวและบทความยอดนิยม

อินโนเวสท์ เอกซ์ ไม่ห่วง หลังทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีนำเข้าชิป 100% มองไม่กระทบผลประกอบการ ชี้ตลาดกังวลน้อยลง

THE STANDARD

ทรัมป์เผย มีโอกาสสูงพบปูติน หวังยุติสงครามยูเครน หลังทูตพิเศษสหรัฐฯ เดินทางเยือนกรุงมอสโก

THE STANDARD

Apple ทุ่มลงทุน 1 แสนล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ ขยายกำลังการผลิตในประเทศ หวังลดความเสี่ยงมาตรการภาษี

THE STANDARD
ดูเพิ่ม
Loading...