“ต้นยางอำเภอสารภี” อายุกว่า 100 ปี 800 กว่าต้น แลนด์มาร์คสำคัญของเชียงใหม่ มีที่มาอย่างไร
“ต้นยางอำเภอสารภี” ต้นยางกลุ่มนี้ที่ปลูกในพื้นที่อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ในสมัยรัชกาลที่ 5 (ครองราชย์ พ.ศ. 2411-2453) มีการประกาศเป็นพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมเนื่องจากมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์มากว่า 100 ปี
นโยบายปลูกต้นไม้
สมัยรัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง เจ้าพระยาสุรสีห์วิสิษฐ์ศักดิ์ (เชย กัลยาณมิตร) ให้เป็น “ข้าหลวงใหญ่มณฑลพายัพ” ได้มาพำนักที่เชียงใหม่ ซึ่งเป็นเป็นหัวเมืองเอกของมณฑล และประเทศราชของสยาม ตรงกับช่วงสมัยเจ้าอินทวโรรสสุริยวงศ์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่
นอกจากราชการงานแผ่นดินแล้ว ด้านความเป็นอยู่ของประชาชน เจ้าพระยาสุรสีห์วิสิษฐ์ศักดิ์ (เชย กัลยาณมิตร) ได้มีนโยบายให้ดูแลและปรับปรุงภูมิทัศน์ของบ้านเมืองหลายอย่าง หนึ่งนั้นคือ “การปลูกต้นไม้” ที่กำหนดให้ทางหลวงแต่ละสายปลูกต้นไม้ไม่ซ้ำกัน คือ
- ถนนในตัวเมืองเชียงใหม่ ให้ทดลองปลูก “ต้นไม้เมืองหนาว”
- ถนนรอบคูเมือง ให้ปลูก “ต้นสักและต้นสน”
- ถนนสายเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด ให้ปลูก “ต้นประดู่”
- ถนนสายเชียงใหม่-หางดง-สันป่าตอง ให้ปลูก “ต้นขี้เหล็ก”
- ถนนสายเชียงใหม่-ลำพูน ให้ปลูก “ต้นยาง” เมื่อเข้าเขตลำพูนให้ปลูก “ต้นขี้เหล็ก”
ต้นยางอำเภอสารภี
สำหรับต้นยางที่ปลูกริมถนนสายเชียงใหม่-ลำพูน เป็น “ต้นยางนา” ซึ่งจัดเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ไม่ผลัดใบ หรือผลัดใบระยะสั้น ต้นที่โตเต็มที่สูงได้ถึง 50 เมตร พบขึ้นในที่ลุ่มต่ำริมลำธาร และตามหุบเขาทุกภาคของประเทศไทย
เหตุที่เจ้าพระยาสุรสีห์วิสิษฐ์ศักดิ์ (เชย กัลยาณมิตร) เลือกให้ปลูก “ต้นยาง” นั้น น่าจะเป็นเพราะพื้นที่อำเภอสารภีเดิมเป็นป่ายาง จึงมีชื่อว่า “อำเภอยางเนิ้ง” คำว่า “ยาง” คือ ต้นยาง ส่วนคำว่า “เนิ้ง” เป็นภาษาพื้นเมือง แปลว่า “โน้มเอน” โดยชื่อ “อำเภอสารภี” เพิ่งเปลี่ยนมาใช้เมื่อ พ.ศ. 2470
การปลูก “ต้นยางอำเภอสารภี” ริมถนนสายเชียงใหม่-ลำพูน อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ เกิดขึ้นเมื่อราว พ.ศ. 2445 ซึ่งครั้งนั้นยังได้กำหนดระเบียบในการดูแลอย่างเคร่งครัดว่า หากต้นยางนาอยู่ตรงหน้าบ้านใด ให้เจ้าของบ้านนั้นเอาใจใส่ทำรั้วล้อมรอบ, หมั่นรดน้ำพรวนดินใส่ปุ๋ย ส่วนต้นยางที่ปลูกไม่ตรงหน้าบ้านผู้ใดเลย ให้บ้านที่อยู่ใกล้เคียงรับผิดชอบ โดยให้หัวหน้าผู้บ้านนำลูกบ้านช่วยกันดูแล
ต้นยางนาอำเภอสารภี ที่ปลูกสมัยรัชกาลที่ 5 จึงหยัดยืนมาจนถึงปัจจุบันได้ โดยตัวเลขเมื่อ พ.ศ. 2534 มีจำนวนต้นยางนาสองฝั่งถนนสายดังกล่าวทั้งหมด 1,227 ต้น อยู่ในอำเภอสารภี 903 ต้น ส่วนตัวเลข พ.ศ. 2560 เหลือ 886 ต้น
คลิกอ่านเพิ่ม :
- “ต้นไม้อายุยืน” หลัก 1,000 ปี ของไทย มีต้นอะไร ต้นที่อายุยืนสุดเท่าใด
- “สนธิสัญญาเบาว์ริง” จุดเริ่มต้นการทำลายป่า “ไม้สัก” ในสยาม
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
อ้างอิง :
สุเมธ เจตปิยะวัฒน์. ทัศนคติของประชาชนอำเภอสารภีที่มีต่อการอนุรักษ์ต้นยาง, การค้นคว้าอิสระตามหลักสูตรปริญญารัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการเมืองละการปกครอง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตุลาคม 2535.
ผู้เขียน (ไม่ได้ระบุ). รุกขมรดกของแผ่นดิน ใต้ร่มพระบารมี, กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม, พ.ศ. 2560.
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 11 สิงหาคม 2568.
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : “ต้นยางอำเภอสารภี” อายุกว่า 100 ปี 800 กว่าต้น แลนด์มาร์คสำคัญของเชียงใหม่ มีที่มาอย่างไร
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.silpa-mag.com