มาริษยื่นหลักฐานกัมพูชาละเมิด “อนุสัญญาออตตาวา” ที่สหประชาชาติ
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางอิชิกาวะ โทมิโกะ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรญี่ปุ่นและประธานการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ครั้งที่ 22 (อนุสัญญาออตตาวา) รวมถึงนางแคโรลีน-เมลานี เรกิมบัล หัวหน้าสำนักงานกิจการลดอาวุธแห่งสหประชาชาติ (UNODA) เพื่อรายงานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการที่กัมพูชาละเมิดพันธกรณีโดยลอบใช้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา
การหารือดังกล่าวกินเวลาประมาณ 40 นาที ก่อนที่นายมาริษจะเข้าพบกลุ่มสมาชิกรัฐภาคีอนุสัญญาอีกกว่า 14 ประเทศ อาทิ ฝรั่งเศส นอร์เวย์ เยอรมนี เบลเยียม และสหภาพยุโรป ซึ่งหลายประเทศมีบทบาทเป็นผู้สนับสนุนการเก็บกู้ทุ่นระเบิดในกัมพูชา
นายมาริษเปิดเผยว่า ได้แสดงหลักฐานที่ยืนยันถึงการละเมิดอธิปไตยไทยและการใช้ทุ่นระเบิดโดยกัมพูชา โดยเฉพาะเหตุการณ์ล่าสุดซึ่งทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 นาย พร้อมยื่นคำประท้วงและเรียกร้องให้ภาคีสมาชิกกดดันกัมพูชาให้ชี้แจงต่อกรณีดังกล่าว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศระบุว่า ประเทศต่าง ๆ ชื่นชมบทบาทของไทยที่แม้ตกเป็นฝ่ายถูกกระทำ แต่ยังคงตอบโต้ด้วยมาตรการที่เหมาะสม สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศและกฎบัตรอาเซียน โดยมุ่งจำกัดการสูญเสียและไม่กระทบต่อพลเรือน ขณะเดียวกันยังคงยึดแนวทางการเจรจาทวิภาคีเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างสันติ
ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่ทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบทุ่นระเบิดในพื้นที่ ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งอยู่ในเขตแดนไทย ได้ถูกหยิบยกขึ้นหารือในที่ประชุมเพื่อย้ำถึงการละเมิดที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยืนยันว่าหลักฐานที่นำเสนอนั้นเป็นข้อมูลเชิงประจักษ์และพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์ พร้อมเชื่อมั่นว่าจะเพิ่มน้ำหนักให้กระบวนการพิจารณาภายใต้กรอบของสหประชาชาติและอนุสัญญาออตตาวา
นายมาริษกล่าวเพิ่มเติมว่า ประเทศภาคีต่าง ๆ จะนำหลักฐานที่ไทยยื่นไปประเมินตามขั้นตอน และยืนยันพร้อมสนับสนุนให้กระบวนการพิจารณาเดินหน้าไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมโดยเร็ว โดยมีเป้าหมายหลักคือการให้กัมพูชาชี้แจงและรับผิดชอบต่อการละเมิดข้อตกลงและบูรณภาพแห่งดินแดนไทย