จเรตำรวจฯ เผยเครือข่าย ‘ก๊ก อาน’ ซื้อบ้านในไทยเป็นฐานฟอกเงิน ที่พักแก๊งคอลเซ็นเตอร์
"บิ๊กหวาน" เผยอยู่ระหว่างประสานอินเตอร์โพลออกหมายแดงล่าตัว "ก๊ก อาน" หากพบคนไทยร่วมขบวนการคอลเซ็นเตอร์-ฟอกเงิน จะดำเนินคดีด้วยโทษสูงสุดในฐานะไส้ศึก
15 กรกฎาคม 2568 - ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศปอส.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีเครือข่ายแก๊งคอลเซนเตอร์ของนายก๊ก อาน นายทุนรายใหญ่ชาวกัมพูชา ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานกับองค์การตำรวจสากล (Interpol) เพื่อขอออกหมายแดงสำหรับผู้ต้องหาในเครือข่าย
พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า หลังจากที่มีการออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 6 รายวันนี้ ตำรวจกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนสมบูรณ์ เนื่องจากคดีนี้มีความเชื่อมโยงทั้งในและต่างประเทศ โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดในขณะนี้คือการติดตามหาแหล่งฟอกเงินของเครือข่ายที่คาดว่าตั้งอยู่ในต่างประเทศ
“เส้นทางการเงินที่นำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหา 6 รายล่าสุดนั้น มีขนาดใหญ่และมีความชัดเจนมาก ซึ่งน่าจะนำไปสู่การขยายผลถึงแหล่งฟอกเงินได้ โดยวิธีการฟอกเงินในประเทศไทยของเครือข่ายนี้คือการลงทุนในสินทรัพย์ส่วนบุคคล เช่น การซื้อบ้านและรถยนต์” จตช. กล่าว
ส่วนของความเชื่อมโยงกับคนไทย พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า กำลังตรวจสอบอยู่ และหากพบว่ามีคนไทยร่วมขบวนการจริง จะมีการดำเนินคดีด้วยโทษสูงสุดในฐานะไส้ศึก ส่วนในรูปแบบการลงทุนทำธุรกิจร่วมกับคนไทยนั้นยังไม่พบข้อมูล แต่สำหรับบ้านที่ถูกซื้อไว้ ทราบว่าเป็นสถานที่สำหรับฟอกเงินและเป็นที่พักให้กับแก๊งคอลเซนเตอร์ที่เดินทางมาพักในประเทศไทยก่อนจะไปยังประเทศที่สาม
พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวอีกว่า ตำรวจไทยจะเร่งดำเนินการเรื่องนี้อย่างเต็มที่ เนื่องจากเครือข่ายดังกล่าวไม่ใช่แค่ประเทศไทยเท่านั้นที่ให้ความสนใจ แต่ยังมีอีกหลายประเทศทั่วโลกที่กำลังติดตามคดีนี้อยู่เช่นกัน