อย่างไหน..เลวกว่ากัน?
ยังเชื่อฮุน เซน อยู่อีกหรือ?
เปล่า..ผมไม่ได้ถาม แต่คุณภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทยโน่นต่างหากที่กล่าวว่า..
“ยังเชื่อสมเด็จฮุน เซน อีกหรือ พูดหรือโพสต์อะไร อีกวันบอกไม่ใช่ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตลอด ยังเชื่ออีกหรือว่าเขามีความหวังดีกับประเทศเรา ก็ต้องคิด
ไม่ใช่ว่าเขาพูดอะไรมา เราก็มาตื่นเต้น ไปหวั่นไหวกับสิ่งที่เขาพูด ต้องดูที่คนพูดว่ามีเครดิตแค่ไหน”
นั่นสิ..ก็เห็นจะมีแต่คุณภูมิธรรมกับคนในคอกเพื่อไทยกระมังที่ไม่เชื่อ เพราะคนไทยน่ะเขาเชื่อ จะหวังดี-ไม่หวังดีกับประเทศไทยก็เรื่องหนึ่ง..
แต่..ที่พูดถึงนายทักษิณ ชินวัตรนั้น ผมว่าฮุน เซน แกหวังดีที่ทำให้คนไทยได้รู้ว่านายเหนือหัวของคุณภูมิธรรมคิดไม่ซื่อกับชาติ-บ้านเมืองตัวเอง!
และจะว่าไประหว่างฮุน เซน กับคุณภูมิธรรม หรือจะนายทักษิณอีกคน ถ้าเอามาร่อนตะแกรงดูแล้ว ฮุน เซน น่าจะมีเครดิตมากกว่าเสียด้วยซ้ำ!
อย่างน้อย ที่พูดมาแต่ละเรื่อง นายทักษิณอ้าปากเถียง-ตอบโต้ไม่ได้ก็แล้วกัน นอกจากจะนั่งบีบน้ำตาครวญให้ 3 บ.ก.ฟัง.. “ทำกับลูกผมขนาดนี้ ผมช็อกเลย”
เออ..ตอนนี้คงหายช็อกแล้วสิท่า ถึงได้กล้าสบตากับชาวบ้าน ไปงานโน้น-งานนี้ ไม่เว้นกระทั่งงานทอดผ้าป่า แล้วอย่าลืมข้อหา..
“นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ส่งความลับของไทยให้ผม แม้กระทั่งเอกสารลับของรัฐบาลในสมัยที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี”
ว่างจาก สทร.ก็ช่วยอธิบายให้สังคม-คนไทยฟังด้วย..ฮุน เซน พูดเท็จ หรือทักษิณทำจริง?
อ้อ..แต่นั่นถ้าจริงตามที่ “สำนักวิจัยซูเปอร์โพล” สำรวจพบ ว่าความเชื่อมั่นของประชาชนต่อหัวหน้าพรรคการเมืองตั้งใหม่และพรรคเล็กในประเด็นเฉพาะทาง
ซึ่งเผยให้เห็นว่า ผู้นำแต่ละคนมีภาพลักษณ์และจุดแข็งที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ทั้งในเชิงนโยบาย ความสามารถ และการยอมรับจากประชาชนในวงกว้าง
1.ความโปร่งใสและการต่อต้านคอร์รัปชัน ได้แก่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม (ไทยภักดี) 2.การศึกษาและการพัฒนาคน ได้แก่ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ (ไทยก้าวใหม่)
3.เทคโนโลยี เศรษฐกิจยุคใหม่ และโอกาสทางรายได้ ได้แก่ นายเอกสิทธิ์ คุณานันทกุล (ปวงชนไทย) 4.สุขภาพและสวัสดิการ ได้แก่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (ไทยสร้างไทย)
ก็..อยากคิดเล่นๆ นะ (เพราะความจริงคงเป็นไปไม่ได้) ว่าถ้าทั้ง 4 ท่านจะได้จับมือหลอมรวมใจมาอยู่ร่วมในพรรคเดียวกันได้..
น่าจะเป็นอีกตัวเลือกของพรรคการเมืองไทยที่ประชาชนพอจะฝากผีฝากไข้ได้บ้าง ในท่ามกลางความมืดมนอนธการของนักการเมืองคุณภาพ!
และถ้าเป็นไปได้ (ยาก) อยากให้ทั้ง 4 ท่านได้สอดส่องมองหาคนดี-คนเก่ง มีความรู้ความสามารถเฉพาะทางมาเสริมทัพก็ยิ่งจะเพิ่มความศรัทธา-ความเชื่อมั่น
นี่..ไม่ได้ฝันหรือละเมอเพ้อพก แค่คิด-มองอย่างไรก็พูดออกมา เหมือนกับที่กำลังจะบอกกับ “เด็จพี่” คุณพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ที่วันก่อนได้ออกมาปกป้องนายพ่อ-นายลูก..
“ไม่เข้าใจพวกอคติ หน้าเดิมๆ พอหมดมุกชาตินิยม ไทยกับกัมพูชา เรื่องคลิปเสียง วันนี้เอาประเด็นภาษี ทีมไทยแลนด์ระดมสมองรับมือ หาทางเจรจาเพื่อช่วยภาคการส่งออกของไทย
ลองคิดดู หากภาษีสหรัฐเก็บเราอัตราต่ำกว่า 36 เปอร์เซ็นต์ คนที่ได้ประโยชน์คือ ภาคธุรกิจ ภาคการส่งออก กลุ่ม SME ภาคเกษตร ที่กำลังเผชิญผลกระทบทางเศรษฐกิจ
คนที่ได้คือ ประเทศชาติ ประชาชน จะเกิดผลดีช่วยยกระดับทางเศรษฐกิจขนาดไหน พวกขาประจำ ควรแยกแยะอคติส่วนตัวกับผลประโยชน์ชาติที่จะได้รับบ้าง
ตอนนี้ ใครมีความคิดเห็นอะไรดีๆ เสนอไปยังรัฐบาลดีกว่า ไม่อย่างนั้นจะถูกคนมองได้ว่าเป็นพวก มือไม่พาย เอาเท้าราน้ำหรือไม่” ว่า
ไม่มีใครอคติกับนายทักษิณดอก จะมีก็แต่ “คนรู้ทันทักษิณ” นั่นตะหาก ที่เฝ้าจับตาดู เอียงหูฟัง เกาะติดไปทุกหนแห่ง และเมื่อได้ยินได้เห็นอะไรที่ไม่ชอบมาพากล..
เขาก็นำมาพูด-มาวิจารณ์ไปตามเหตุตามผล และตามจริง!
ใช่..พวกเขาเหล่านั้นล้วนแต่เป็นคนหน้าเดิมๆ ก็เหมือนกับทาสที่คอยเป็นองครักษ์-รับใช้นายทักษิณนั่นแหละ..
จะกี่ปีๆ ก็มีแต่ “หน้าเดิมๆ” อย่างเช่น “เด็จพี่” ก็เปลี่ยนหน้าซะที่ไหน และที่สำคัญก็ยังคงใช้ “มุกเดิมๆ” อ้างนายทักษิณทำเพื่อเป็นประเทศชาติๆ เป็น “แผ่นเสียงตกร่อง” มาตลอด!
แม้แต่เวลานี้ ที่นายทักษิณถูกเปิดโปง-ถูกแฉ เอาเอกสารความลับของประเทศไปให้กัมพูชา คนในพรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้รู้สึกรู้สา..
จนชักไม่แน่ใจว่า พวกมือไม่พาย เอาเท้าราน้ำ กับ “พวกพายเรือให้โจรนั่ง”..
อย่างไหน..เลวกว่ากัน?.
สันต์ สะตอแมน