โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

ประวัติ ยานนิค ซินเนอร์ ตำนานบทใหม่ของวงการเทนนิส

TNN ช่อง16

เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา
เปิดประวัติ ยานนิค ซินเนอร์ นักเทนนิวมือ1 ของโลกชาวอิตาลี ที่กำลังสร้างตำนานบทใหม่ของวงการเทนนิสโลกในปัจจุบัน

ในวงการเทนนิสชั่วโมงนี้คงจะไม่มีใครร้อนแรงไปกว่า ยานนิค ซินเนอร์ และ คาร์ลอส อัลคาราซ มือวางอันดับ1 และมือวางอันดับ2 ของโลก ที่กำลังแย่งชิงความสำเร็จในระดับสูง

แฟนๆกีฬาต่างยกย่องว่าคู่นี้จะเป็นคู่ที่ต่อกรและก้าวขึ้นมาสร้างตำนานบทใหม่ นับตั้งแต่ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์, ราฟาเอล นาดาล และ แอนดี้ เมอร์เรย์ แขวนแร็กเก็ต รวมถึง โนวัค ยอโควิช ที่กำลังอยู่ในช่วงบั้นปลายบนวัย 38 ปี ซึ่งตอนนี้ทั้งคู่ผลัดกันคว้าแชมป์แกรนด์สแลม ไปแล้ว 8 จาก 9 รายการหลังสุด แถมเป็นการคว้าแชมป์ต่อเนื่องถึง 7 รายการติดต่อกัน

เอาง่ายๆนับตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นมา แชมป์แกรนด์สแลม มีแค่ชื่อของ 2 คนนี้เท่านั้นที่ได้ไปครอบครองโดยไม่มีใครมาขั้นกลาง ไล่ตั้งแต่แชมป์ Australian Open 2024 ที่เป็นของ ยานนิค ซินเนอร์ แชมป์ French Open และแชมป์ Wimbledon ในปีนั้นเป็นของ คาร์ลอส อัลคาราซ ก่อนที่ ซินเนอร์ จะมาปิดท้ายปีด้วยการคว้าแชมป์ US Open

ส่วนในปี 2025 กับศึก Australian Open เปิดหัวแกรนด์สแลมรายการแรกของปี เป็นของ ยานนิค ซินเนอร์ ต่อด้วยศึก French Open ที่ทั้งคู่โคจรมาชิงชนะเลิศกัน สุดท้ายแชมป์ตกเป็นของ คาร์ลอส อัลคาราซ ที่มีลูกฮึดเก็บ 3 เซตรวด จากตามหลัง 0-2 ไล่แซงเอาชนะไปแบบน่าเหลือเชื่อ แถมในรายละเอียดยังมีจังหวะเซฟแชมเปี้ยนส์ชิพพอยท์ ในเซตที่3

จากนั้นในศึกแกรนด์สแลมที่ 3 ของปี ทั้งคู่โคจรมาชิงชนะเลิศกันอีกครั้ง ในช่วงระยะเวลาราวๆ 5 สัปดาห์ หลังจบศึก French Open ซึ่งเป็นการชิงกันบนคอร์ตหญ้าที่ คาร์ลอส อัลคาราซ กำลังขึ้นหม้อกับการคว้าแชมป์ Wimbledon มา 2 ปีติดต่อกัน

แน่นอนว่าเจ้าตัวก็หวังที่จะคว้าแชมป์ให้ได้อีกครั้ง ด้วยผลงานร้อนแรงกับการเดินหน้าเก็บชัยชนะที่นี่มา 20 แมตช์ติดต่อกัน แถมมีสถิติที่ยอดเยี่ยมในยามชิงชนะเลิศระดับแกรนด์สแลม 5 ครั้ง เขาคว้าแชมป์ได้ทั้ง 5 ครั้ง เรียกได้ว่าไม่เคยอกหักเลย

สวนทางกับ ยานนิค ซินเนอร์ ที่ช่วงหลังแพ้ทางในการเจอกับ คาร์ลอส อัลคาราซ ตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ทั้งหมดกับการดวลกัน 5 ครั้งหลัง แถมแมตช์ล่าสุดยังแพ้แบบน่าเจ็บใจ ทั้งๆที่ตั้วเองขึ้นแท่นไปแล้ว แต่ดันปิดแมตช์ไม่ลง จึงไม่น่าแปลกใจอะไรที่เขาจะดูมุ่งมั่นเป็นพิเศษกับการคว้าแชมป์ Wimbledon ให้ได้

แม้ในเซตแรกจะเป็นฝ่ายพ่ายไปก่อน แต่หลังจากนั้นเขาก็งัดฟอร์มเก่งของตัวเองออกมา ก่อนจะเดินหน้าไล่เก็บ 3 เซตรวด แซงเอาชนะ คาร์ลอส อัลคาราซ ทำให้สามารถลบฝันร้ายของตัวเองลงได้สำเร็จ ซึ่งแน่นอนว่าในแกรนด์สแลมสุดท้ายของปีอย่างศึก US Open ทุกสายตาของแฟนๆเทนนิสต่างจับจ้องและคาดหวังว่าทั้งคู่จะรีแมตช์นัดชิงชนะเลิศอีกครั้ง เป็นแกรนด์สแลมที่ 3 ติดต่อกัน

ด้วยผลงานที่กำลังร้อนแรงของ ยานนิค ซินเนอร์ เราขอพาแฟนๆกีฬาทุกท่านไปย้อนดูประวัติของเขากันดูว่ากว่าที่เขาจะก้าวมายืนเป็นเบอร์หนึ่งของโลก ต้องผ่านร้อนผ่านหนาวอะไรมาบ้าง

ประวัติ ยานนิค ซินเนอร์

ยานนิค ซินเนอร์ เกิดเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ค.ศ. 2001 ที่เซาท์ไทโรล ดินแดนแห่งเทือกเขาโดโลมิติ อยู่ทางตอนเหนือสุดของประเทศอิตาลี โดยมีคุณพ่อทำงานเป็นพ่อครัวและคุณแม่เป็นพนักงานเสิร์ฟในกระท่อมสกี บนเทือกเขาโดโลไมท์

ด้วยเหตุนี้ทำให้จุดเริ่มต้นในการเล่นกีฬาของเขาไม่ใช่เทนนิส แต่เป็นการเล่นสกี ตั้งแต่อายุเพียงแค่ 3 ขวบ และเริ่มเข้าแข่งขันสกีครั้งแรกตอนอายุได้ 8 ขวบ ซึ่งในระหว่างนั้นด้วยความเป็นสปอร์ตแมน เขาก็เริ่มสนใจในการเตะฟุตบอล และเทนนิสควบคู่กันไป แต่สิ่งที่เขาทำได้ดีที่สุดในตอนนั้นคือสกี

เขาถูกจับตามองในฐานะนักสกีเยาวชนแถวหน้าของประเทศ หลังสามารถคว้าแชมป์ในการแข่งขันระดับชาติประเภทสลาลอมยักษ์ ในปี 2008 ก่อนจะไต่เต้าจนก้าวสู่การเป็นรองแชมป์ระดับประเทศ เมื่อตอนอายุ 11 ขวบ

ในช่วงฝึกซ้อมสกีแบบเอาจริงเอาจัง ซินเนอร์ ตัดสินใจเลิกเล่นเทนนิสไป 1 ปีเต็มๆ ก่อนที่คุณพ่อของเขาจะมีส่วนสำคัญทำให้เขากลับมาจับไม้เทนนิสอีกครั้ง เพราะมองว่ากีฬาชนิดนี้มีโอกาสเติบโตในวงที่กว้างกว่า และฝีมือและหน่วยก้านของลูกชายก็ดูดีมีอนาคตที่จะพัฒนาไปได้ต่อ

เฮริเบิร์ต เมียร์ คือโค้ชเทนนิสคนแรก ปู่ของ ซินเนอร์ ทำหน้าที่คอยรับคอยส่งหลานชายในช่วงเช้าเพื่อไปฝึกซ้อมเทนนิส ซึ่งในวัยนั้นไม่มีเด็กคนไหนที่เล่นได้ในระดับเดียวกัน ด้วยความสามารถ ความเร็ว และรูปร่างที่สูงกว่า ทำให้ใช้เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการซ้อมแบบตัวต่อตัวกับโค้ช

แม้ว่า ซินเนอร์ จะทำได้ดีกับการตีเทนนิส แต่ในใจของเขามองกีฬาชนิดนี้เป็นอันดับ3 รองจากสกีและฟุตบอล นอกเหนือเวลาจากการซ้อมเทนนิส เขาก็เข้าแข่งขันสกีในรายการต่างๆ ควบคู่กับการเตะฟุตบอลให้กับทีมเยาวชนของ AFC Sexten

ยานนิค ซินเนอร์ เอาจริงเอาจังกับกีฬาเทนนิส

กระทั่งเข้าสู่อายุ 13 ปี ร่างกายเติบโตขึ้น สรีระของเขาเป็นคนสูงผอม และมีน้ำหนักเพียงแค่ 35 กิโลกรัมเท่านั้น ทำให้เขาตัดสินใจหันหลังให้กับสกีและฟุตบอล ก่อนจะมาเอาดีด้านการตีเทนนิสเต็มตัว ซึ่งดูจะเหมาะสมกับรูปร่างของเขาที่สุด

เมื่อรู้แนวทางตัวเองชัดเจน ซินเนอร์ ก็จริงจังกับการฝึกซ้อมเทนนิสแบบเต็มร้อย ด้วยการสนับสนุนที่ดีของครอบครัว เขาย้ายไปอยู่ที่ Bordighera เพื่อฝึกซ้อมในศูนย์ฝึกที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันอย่าง Piatti Tennis Center

ภายใต้การดูแลของ Riccardo Piatti และ Massimo Sartori โค้ชยอดฝีมือที่เคยปั้นนักเทนนิสระดับท็อปโลกขึ้นมาประดับวงการมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โนวัค ยอโควิช, อีวาน ลูบิชิช, ริชาร์ด กาสเกต์, มิโลส ราโอนิช ล้วนผ่านการขัดเกลาจากโค้ชผู้นี้มาทั้งสิ้น

ฝีมือของ ซินเนอร์ เริ่มยกระดับได้ดีพอกับการลองชิมลางเข้าแข่งขันในศึก ITF Junior Circuit แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จมากนักในระดับเยาวชน โดยเขารั้งอันดับ 133 ของโลก ในระดับจูเนียร์

เข้าสู่ปี 2018 ฝีมือการตีเทนนิสของเขายกระดับขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากการมุ่งมั่นซุ่มฝึกซ้อมอย่างไม่ย่อท้อ จนถูกมองว่านี่คือเด็กที่มีพัฒนาการเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ และเริ่มทำได้ดีในระดับ ITF Futures ได้รับสิทธิ์ไวลด์การ์ดเข้าแข่งขันในระดับ ATP Challenger Tour ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์รองที่จัดโดยสมาคมนักเทนนิสอาชีพ (ATP) เขาจบปี 2018 ด้วยการมีแชมป์ ITF ประเภทคู่ติดมือ

เข้าสู่ปี 2019 ซินเนอร์ สามารถคว้าแชมป์ระดับ ATP Challenger เป็นครั้งแรกที่เบอร์กาโม ในเดือนกุมภาพันธ์ ด้วยวัย 17 ปี 6 เดือน กลายเป็นนักเทนนิสคนแรกที่เกิดในปี 2001 และเป็นชาวอิตาลี ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์ระดับ Challenger มาครองได้ จนสามารถไต่อันดับพุ่งพรวดกว่า 200 อันดับใน ATP กลายเป็นมือ 324 ของโลก

จากนั้นเขาได้โอกาสเข้าแข่งขันในระดับ ATP Tour ครั้งแรก กับศึก Hungarian Open และสามารถเอาชนะมือไวลด์การ์ดของเจ้าถิ่นได้อย่างยอดเยี่ยม จากนั้นในอีก 1 สัปดาห์ต่อมา เขาสามารถผ่านเข้าชิงชนะเลิศในระดับ ATP Challenger ได้เป็นครั้งที่2 ใน Ostrava ก่อนจะจบด้วยรองแชมป์

ในช่วงครึ่งปีหลัง ซินเนอร์ ได้โอกาสแข่งขันในระดับ ATP Tour มากขึ้น และสามารถคว้าแชมป์ในระดับชาเลนเจอร์เป็นครั้งแรกที่บ้านเกิดของตัวเอง กับศึก Italian Open ซึ่งเป็นการดวลกับ สตีฟ จอห์นสัน จากนั้นก็สามารถคว้าแชมป์ Croatia Open ส่งให้เขาก้าวไปติด 200 อันดับแรกของโลก

ถัดมาอีกแค่เดือนเดียว เขาสามารถคว้าแชมป์ระดับ ATP Challenger เป็นสมัยที่สอง และกลายเป็น 1 ใน 11 คน ของบรรดานักเทนนิสวัย 17 ปี ที่คว้าแชมป์ระดับนี้มาครองได้ถึง 2 ครั้ง

ยานนิค ซินเนอร์ เข้าร่วมชิงชัยในระดับแกรนด์สแลม

ซินเนอร์ ลงแข่งรอบคัดเลือกของศึกวิมเบิลดัน แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ไป ก่อนที่เขาจะได้สิทธิ์แข่งขันแกรนด์สแลมสุดท้ายของปีในรอบเมนดรอว์ กับศึก US Open และด้วยความที่ยังด้อยประสบการณ์ ทำให้พ่ายต่อ สแตน วาวรินกา มือวางอันดับ 24 ตั้งแต่แมตช์แรก

ยานนิค ซินเนอร์ ติดท็อป 100 ของโลก

เขาจบปี 2019 ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยม ได้สิทธิ์ไวด์การ์ดในรายการยูโรเปียนโอเพ่น และกลายเป็นนักเทนนิสที่อายุน้อยที่สุดในรอบ 5 ปี ที่สามารถผ่านเข้าชิงชนะเลิศ ATP แถมมีช่วงที่เอาชนะมือวางอันดับ1 ของรายการอย่าง กาแอล มงฟิลส์ ที่ตอนนั้นรั้งมือ 13 ของโลก จนส่งให้เขาก้าวไปติดท็อป 100 เป็นครั้งแรก

ถึงเวลาที่ ซินเนอร์ จะกอบโกยความสำเร็จ เขาผ่านเข้ารอบในศึก Next Gen ATP Finals 2019 ในฐานะไวด์การ์ดของอิตาลี และเป็นนักเทนนิสที่มีอันดับต่ำที่สุด แต่ก็ยังผ่านรอบแบ่งกลุ่ม ก่อนจะไต่เต้าไปถึงการคว้าแชมป์ด้วยการเอาชนะมือวางอันดับ1 ของรายการ มือ 18 ของโลก อย่าง อเล็กซ์ เดอ มินัวร์ ผงาดคว้าแชมป์ไปครองอย่างยิ่งใหญ่

จากนั้นอีก 1 สัปดาห์ถัดมา เขาก็ส่งท้ายปีด้วยการคว้าแชมป์ระดับชาเลนเจอร์ เป็นสมัยที่3 ของตัวเอง และจบด้วยการก้าวขึ้นมารั้งมือ 78 ของโลก กลายเป็นนักเทนนิสอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ติด 80 อันดับแรกของโลก ต่อจาก ราฟาเอล นาดาล ที่ทำไว้ในปี 2003

ผลงานของ ยานนิค ซินเนอร์ ในปี 2020

ถึงเวลาที่เขาจะได้เฉิดฉายในโลกกว้างของวงการเทนนิส เขาเริ่มต้นปีด้วยการเข้าถึงรอบ2 ในศึก Australian Open 2020 ก่อนที่จะเจอกกับสถานการณ์แพร่ระะบาดของโควิด-19 ทำให้การแข่งขัน ATP ต้องเว้นว่างไป

ซินเนอร์ กลายเป็นนักเทนนิสอายุน้อยที่สุดกับการผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ French Open ต่อจาก โนวัค ยอโควิช ที่เคยทำไว้ในปี 2006 และกลายเป็นคนแรกที่มาถึงรอบนี้ได้ตั้งแต่การแข่งขันครั้งแรก ต่อจากอีกหนึ่งตำนานอย่าง ราฟาเอล นาดาล ที่เคยทำได้ในปี 2005

แม้ว่าจะอกหักตกรอบแรกในแกรนด์สแลมสุดท้ายของปีอย่าง US Open ด้วยการแพ้ คาเรน คาชานอฟ แต่ในรายการทัวร์ยุโรป เขามีผลงานที่ยอดเยี่ยม สามารถเขาเข้าถึงรอบ3 ในรายการโรมมาสเตอร์ส และแมตช์สร้างชื่อคือการเอาชนะ สเตฟานอส ซิตซิปาส มือวางอันดับ 6 ของโลก ก่อนจะจบฤดูกาลด้วยการรั้งมือวางอันดับ 37 ของโลก

ผลงานของ ยานนิค ซินเนอร์ ในปี 2021

เข้าสู่ปี 2021 เขายังคงสานต่อฟอร์มอันร้อนแรงด้วยการคว้าแชมป์ ATP เป็นรายการที่ 2 ในอาชีพ กับศึก Great Ocean Road Open กลายเป็นนักเทนนิสอายุน้อยที่สุดที่คว้าแชมป์ ATP 2 สมัยติดต่อกัน ตั้งแต่ ราฟาเอล นาดาล เคยทำได้ในปี 2005 จากนั้นในศึก Australian Open เขาถูกหยุดสถิติชนะ 10 นัดรวดลงด้วยน้ำมือของ เดนิส ชาโปวาลอฟ มือวางอันดับ 12 ของโลก แต่ก็ต้องดวลกันถึง 5 เซต ในการแข่งขันรอบแรก

ผลงานชิ้นโบว์แดงในปีนั้นของเจ้าตัวเกิดขึ้นในศึก Miami Open ซึ่งเป็นรายการระดับ ATP Masters 1000 กับการผ่านเข้าชิงชนะเลิศรายการใหญ่ครั้งแรก แม้จะไปไม่ถึงตำแหน่งแชมป์ แต่ก็เป็นผลงานที่เรียกความมั่นใจให้เขาอย่างเต็มเปี่ยม

ถัดมาเป็นการแข่งขันแกรนด์สแลมที่ 2 ของปี กับศึก French Open ที่โคจรมาเจอกับราชาคอร์ตดินอย่าง ราฟาเอล นาดาล ในการแข่งขันรอบที่4 และก็ต้านทานไม่ไหว พ่ายไป 0-3 เซต และก็ไปตกรอบแรกกับการได้ประเดิมสนามครั้งแรกในรอบเมนดรอว์ ของศึก Wimbledon

จากนั้นในศึก Citi Open ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซินเนอร์ ลงแข่งขันในฐานะมือวางอันดับ5 ของรายการ และก็สามารถทะลุไปถึงตำแหน่งแชมป์ นับเป็นการประเดิมแชมป์ ATP 500 เป็นครั้งแรก แถมยังพ่วงสถิติอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์กับการคว้าแชมป์ระดับนี้ ก่อนจะทะยานติดท็อป 15 ของโลก ในการจัดอันดับ ATP เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2021

ตามติดด้วยด้วยการแข่งขัน US Open เขาเอาชนะ กาแอล มงฟิลส์ ในรอบที่ 3 และสามารถพาตัวเองผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 4 ของรายการเมเจอร์ได้เป็นครั้งที่ 2 ก่อนจะพ่าย ซานเดอร์ ซเวเรฟ

ซินเนอร์ โชว์ฟอร์มส่งท้ายปีด้วยการป้องกันแชมป์ Sofia Open จากนั้นเขาก็ไปเข้าชิงชนะเลิศในศึก European Open นับเป็นการชิงชนะเลิศครั้งที่ 6 ในอาชีพของเจ้าตัว ก่อนจะผงาดคว้าแชมป์เป็นรายการที่ 5 สร้างอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์กับการเป็นนักเทนนิสอายุน้องที่สุดที่สามารถคว้าแชมป์ระดับ ATP ได้ถึง 5 สมัย ต่อจาก โนวัค ยอโควิช ที่เคยทำได้ในวัย 19 ปี

1 พฤศจิกายน 2021 เขากลายเป็นนักเทนนิสชายคนแรกที่เกิดในยุคปี 2000 ที่สามารถทำอันดับติดท็อป10 ของโลก จากผลงานที่เข้ารอบรองชนะเลิศในศึก Paris Masters แม้ว่าจะพ่าย คาร์ลอส อัลคาราซ ส่งผลให้เขาไม่สามารถคว้าตั๋วไปเล่นในศึก ATP Finals ทัวร์นาเมนต์ส่งท้ายปีแบบตรงๆ แต่สุดท้ายก็ได้เข้าร่วมในฐานะตัวสำรองอันดับ1 จากการที่ มัตเตโอ เบอร์เร็ตตินี ถอนตัวจากอาการบาดเจ็บ

รายการนี้ ซินเนอร์ สร้างอีก 1 ประวัติศาสตร์ ด้วยการเป็นนักเทนนิสอายุน้อยที่สุดที่สามารถเก็บชัยชนะได้ตั้งแต่เข้าร่วมการแข่งขันครั้งแรก ต่อจาก เลย์ตัน ฮิววิตต์ ที่เคยทำไว้ในปี 2000

ผลงานของ ยานนิค ซินเนอร์ ในปี 2022

เปิดหัวปี 2022 ด้วยความร้อนแรง เมื่อสามารถผ่านเข้าไปถึงรอบ 8 คนสุดท้าย ของศึก Australian Open กลายเป็นชาวอิตาลีคนที่ 5 ที่ผ่านเข้ามาถึงรอบนี้ ก่อนจะพ่ายต่อ สเตฟานอส ซิตซิปาส มือวางอันดับ 4

จากนั้นในศึก French Open ซินเนอร์ ผ่านเข้าไปถึงรอบ 4 แต่ต้องถอนตัวจากอาการบาดเจ็บหัวเข่า ก่อนจะกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ในศึก Wimbledon ด้วยการเก็บชัยชนะในรายการนี้ได้เป็นครั้งแรกเหนือ สแตน วาวรินกา จากนั้นก็กรุยทางผ่านมือระดับโลกมากมายทั้ง ยีเมอร์, จอห์น อิสเนอร์ และคาร์ลอส อัลคาราซ

เขาตีตั๋วผ่านเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศรายการเมเจอร์เป็นครั้งที่ 3 ในชีวิต โดยในรอบนี้ต้องโคจรมาเจอกับ โนวัค ยอโควิช มือวางอันดับ1 ก่อนจะสู้กันถึง 5 เซต และเป็น โนวัค ที่เอาชนะไปได้ ก่อนจะหลุดไปถึงการคว้าแชมป์ในที่สุด

ซินเนอร์ สร้างชื่อบนคอร์ตดินครั้งแรก หลังเอาชนะ คาร์ลอส อัลคาราซ ในรอบชิงชนะเลิศ ของศึก Croatia Open คว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ ก่อนที่จะถึงแกรนด์สแลมสุดท้ายของปีอย่าง US Open

เขายังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับการผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ จนสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักเทนนิสอายุน้อยที่สุดที่เข้าถึงรอบ 4 ได้ทั้ง 4 แกรนด์สแลม ต่อจาก โนวัค ยอโควิช ที่เคยทำได้ในช่วงปี 2007-08

ครั้งนี้เขาโคจรมาเจอกับคู่ปรับสำคัญอย่าง คาร์ลอส อัลคาราซ ก่อนจะพ่ายไปแบบดุเดือดกับการแข่งขัน 5 เซต ที่ใช้เวลารวมไป 5 ชั่วโมง 15 นาที นับเป็นสถิติการแข่งขันที่ใช้เวลานานที่สุดเป็นอันดับ2 ในประวัติศาสตร์ US Open และเขาจบปีด้วยการรั้งมือวางอันดับ 15 ของโลก

ผลงานของ ยานนิค ซินเนอร์ ในปี 2023

ก้าวเข้าสู่ปี 2023 ในแกรนด์สแลมแลมแรก Australian Open เขาตกรอบ 4 ด้วยการพ่ายให้กับ สเตฟานอส ซิตซิปาส รองแชมป์ในปีนั้น ก่อนจะเดินหน้าคว้าแชมป์รายการที่ 7 ในอาชีพ กับศึก Open Sud de France ที่ประเทศฝรั่งเศส กลายเป็นนักเทนนิสคนแรกที่คว้าแชมป์ในฤดูกาลดังกล่าวแบบไม่เสียเซตให้ใคร

ซินเนอร์ โคจรมาเจอกับ สเตฟานอส ซิตซิปาส มือ1 ของรายการ และมืออันดับ 3 ของโลก ในศึก AMRO Open ก่อนจะสามารถแก้แค้นจากศึก Australian Open ได้สำเร็จ และถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ที่สุดของเจ้าตัวในช่วงเวลานั้น ก่อนจะเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศ แต่ก็ต้องพ่ายให้กับ ดานิล เมดเวเดฟ มือวางอันดับ 6

เข้าสู่เดือนมีนาคม กับศึกอินเดียนเวลส์ เขาผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ไปเจอกับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง คาร์ลอส อัลคาราซ ที่ตอนนั้นเป็นมือวางอันดับ1 ของโลก ก่อนจะพ่ายไป 3 เซตรวด

จากนั้นเขาทำผลงานได้ดีต่อเนื่องที่ไมอามี่ ด้วยการผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ก่อนจะผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน และฟ้าลิขิตให้โคจรมาเจอกับ คาร์ลอส อัลคาราซ อีกครั้ง แต่คราวนี้ ซินเนอร์ สามารถเก็บชัยชนะไปได้ ก่อนจะไปพ่าย ดานิล เมดเวเดฟ มือวางอันดับ4 ในรอบชิงชนะเลิศ

ในศึก China Open เขาโคจรมาเจอกับ คาร์ลอส อัลคาราซ อีกครั้งในรอบรองชนะเลิศ ก่อนจะเก็บชัยชนะไปได้ และถือเป็นชัยชนะครั้งที่ 4 เหนือนักหวดชาวสเปนผู้นี้ และผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปเจอกับ ดานิล เมดเวเดฟ ขวากหนามสำคัญที่ขึ้นมาเป็นมือวางอันดับ 3 ของโลก

แต่คราวนี้เขาแก้ตัวและสามารถเอาชนะ เมดเวเดฟ ได้เป็นครั้งแรก และคว้าแชมป์ไปในที่สุด ส่งผลให้อันดับโลกขยับขึ้นสู่จุดสูงสุดในอาชีพกับการรั้งมือวางอันดับ 4 ของโลก กลายเป็นนักเทนนิสอิตาลี คนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ที่ติดท็อป 5 ต่อจาก อาเดรียโน่ ปานัตต้า

ซินเนอร์ ได้ตั๋วลุยศึก ATP Finals และสามารถเก็บชัยชนะรวดในรูปแบบพบกันหมดของรอบแรก หนึ่งในนั้นคือแมตช์สร้างชื่อด้วยการปราบ โนวัค ยอโควิช มือ 1 ของโลก ในการดวลไทเบรกเซตที่ 3 และนับเป็นการเอาชนะมือวางท็อป5 ของโลก ได้เป็นครั้งที่ 5 ติดต่อกัน ก่อนจะโคจรมาเจอกับ โนวัค อีกครั้งในรอบรองชนะเลิศ แต่สุดท้ายก็โดนถอนแค้นพ่ายไปในที่สุด

จากนั้นในนามทีมชาติกับศึกเดวิสคัพ เขาต้องเจอกับ โนวัค เป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 11 วัน ก่อนจะเซฟ 3 แมตช์พ้อยต์ติดๆ กลายเป็นคนแรกที่ทำได้กับ โนวัค ก่อนที่จะมาดวลกันอีกครั้งในประเภทชายคู่ ซินเนอร์ก็จับคู่กับลอเรนโซ โซเนโก เอาชนะ โนวัค ยอโควิช ที่จับคู่กับ มิโอเมียร์ เคซมาโนวิช

ทีมชาติอิตาลี ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ ก่อนจะเอาชนะทีมชาติออสเตรเลีย คว้าแชมป์เดวิสคัพ เป็นครั้งที่2 นับตั้งแต่ปี 1976 ก่อนจะปิดท้ายปีด้วยรางวัลผู้เล่นที่มีพัฒนาการดีที่สุดแห่งปีและขวัญใจมหาชนในการประกาศรางวัล ATP Awards ปี 2023

ผลงานของ ยานนิค ซินเนอร์ ในปี 2024

เข้าสู่ปี 2024 ซินเนอร์ ผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลฺิศศึก Australian Open เป็นครั้งแรกไปพบกับ โนวัค ยอโควิช มือวางอันดับ 1 ของโลก เจ้าของแชมป์เก่าเมื่อปีก่อน และสุดท้ายกลายเป็น ซินเนอร์ ที่ยัดเยียดความพ่ายแพ้ให้กับ โนวัค และถือเป็นการปราชัยครั้งแรกของ โนวัค ในรายการนี้ นับตั้งแต่ปี 2018 สร้างประวัติศาสตร์เข้าชิงแกรนด์สแลมครั้งแรกของตัวเองได้สำเร็จ และกลายเป็นชาวอิตาลีคนแรกที่เข้าชิงประเภทเดี่ยวในระดับเมเจอร์

ในรอบชิงชนะเลิศเขาโคจรไปเจอกับ ดานิล เมดเวเดฟ ก่อนจะโชว์ฟอร์มสุดยอดด้วยการพลิกสถานการณ์จากโดนไปก่อน 0-2 เซต กลับมาเอาชนะ 3 เซตรวด คว้าแชมป์แกรนด์สแลมแรกของตัวเองอย่างยิ่งใหญ่ และกลายเป็นนักเทนนิสอิตาลีคนแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์ Australian Open มาครองได้ และจากการแซงกลับมาเอาชนะใน 3 เซตหลัง ทำให้เขาเป็นคนที่ 2 ต่อจาก ราฟาเอล นาดาล ที่พลิกกลับแซงเอาชนะ เมดเวเดฟ ได้ในปี 2022

จากนั้นเขาแข่งขันในศึก Rotterdam Open ในฐานะมือวางอันดับ1 ของรายการ ก่อนจะผงาดคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ ส่งให้เขาทะยานขึ้นไปรั้งมือ 3 ของโลก เป็นนักเทนนิสที่มือวางสูงสูดในประวัติศาสตร์ของอิตาลี ก่อนที่ช่วงเดือนมีนาคม เขาแพ้ให้กับ คาร์ลอส อัลคาราซ ในรอบรองชนะเลิศที่อินเดียนเวลส์ ท่ามกลางประเด็นเรื่องการถูกตรวจพบการใช้สารกระตุ้น

จากนั้นเขายังแข่งขันในไมอามี่ ก่อนจะคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ ด้วยการเอาชนะ กริกอร์ ดิมิทรอฟ ในรอบชิงชนะเลิศ คว้าแชมป์ระดับมาสเตอร์ส 1000 เป็นสมัยที่2 ส่งให้เขาก้าวขึ้นไปรั้งมือวางอันดับ2 ของโลก

ซินเนอร์ ทะยานรั้งมือวางอันดับ1 ของโลก

10 มิถุนายน 2024 คือวันที่ ซินเนอร์ ก้าวขึ้นไปรั้งมือวางอันดับ1 ของโลก ก่อนจะเข้าร่วมในศึก Wimbledon และสามารถผ่านเข้าไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ ก่อนจะโดน ดานิล เมดเวเดฟ เอาคืนได้ในเกมที่เล่นกันถึง 5 เซต

ยานนิค ซินเนอร์ โดนแบนจากการใช้สารกระตุ้น

24 กรกฎาคม 2024 ซินเนอร์ พลาดแข่งขันในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก เนื่องจากอาการต่อมทอนซิลอักเสบ จากนั้นเขาได้รับคำตัดสินจากศาลอิสระ ที่ประกาศว่า ซินเนอร์ มีผลตรวจสารต้องห้ามเป็นบวก ซึ่งในคำชี้แจงของเจ้าตัวบอกว่าสาเหตุที่มีสารโคลสเตโบล เกิดจากการใช้ยานวดของนักภายภาพบำบัดที่มีส่วนผสมดังกล่าวเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บที่มือ ซึ่งต้องรอบทสรุปในการพิจารณาอีกขั้นสุดท้ายครั้ง

เข้าสู่แกรนด์สแลมสุดท้ายของปี ซินเนอร์ คว้าแชมป์ US Open มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ และเป็นการคว้าแชมป์เมเจอร์ที่ 2 ของตัวเอง กลายเป็นนักเทนนิสชายคนที่ 4 ในรอบ 50 ปี ที่คว้าแชมป์แกรนด์สแลมได้ 2 ครั้งในรอบปีเดียวกัน และกลายเป็นนักเทนนิสอายุน้อยที่สุดที่คว้าแชมป์เมเจอร์บนฮาร์ดคอร์ตได้ทั้งสองรายการในปีเดียวกัน จากนั้นในศึก China Open ด้วยการพ่าย คาร์ลอส อัลคาราซ ในรอบชิงชนะเลิศ จากนั้นเขาปิดท้ายปีด้วยการพาอิตาลี คว้าแชมป์เดวิสคัพ เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน

ผลงานของ ยานนิค ซินเนอร์ ในปี 2025

เปิดฉากในศึก Australian Open ในฐานะแชมป์เก่า และก็ยังสามารถรักษาฟอร์มเก่งด้วยการป้องกันแชมป์ของตัวเองเอาไว้ได้สำเร็จ จากนั้นในเดือนกุมภาพันธ์ WADA ได้ประกาศข้อตกลงยุติคดีเรื่องการใช้สารกระตุ้นของเจ้าตัว ด้วยการยอมรับเหตุผลและคำอธิบาย แต่เจ้าตัวก็ต้องได้รับโทษจากความประมาทของทีมงาน ด้วยการลงโทษแบน 3 เดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ - 4 พฤษภาคม 2025 ประเด็นดังกล่าวร้อนถึง โนวัค ยอโควิช ที่ออกมาวิจารณ์ว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ

อย่างไรก็ตามเขากลับมาอีกครั้งและผ่านเข้าชิงชนะเลิศรายการ Italian Open ในบ้านเกิดตัวเอง กลายเป็นนักเทนนิสเจ้าถิ่นคนแรกที่เข้าชิงชนะเลิศรายการนี้ ต่อจาก อาเดรียโน ปานัตตา ในปี 1978 แต่สุดท้ายต้องพ่ายให้กับ คาร์ลอส อัลคาราซ 3 เซตรวด

จากนั้นทั้งคู่โคจรมาเจอกันอีกครั้งในแกรนด์สแลมที่ 2 ของปี กับศึก French Open นัดชิงชนะเลิศ ซึ่ง ซินเนอร์ ขึ้นแท่นนำ 2-0 เซต แถมได้โอกาส 3 แมตช์พ้อยต์ แต่ปิดไม่ลง ก่อนจะโดน อัลคาราซ พลกกลับมาแซงเอาชนะ 3 เซตรวด พลาดแชมป์ไปอย่างน่าเจ็บใจ

อย่างไรก็ตามในอีกราวๆ 5 สัปดาห์ต่อมาในศึก Wimbledon เขาแก้แค้นได้สำเร็จกับการแซงเอาชนะ อัลคาราซ ในรอบชิงชนะเลิศ 3-1 เซต คว้าแชมป์ไปครองอย่างยิ่งใหญ่ และกลายเป็นชาวอิตาลี คนแรกที่ได้แชมป์ประเภทเดี่ยวของรายการนี้

ในวัยเพียงแค่ 23 ปี เส้นทางการเขียนเรื่องราวประวัติศาสตร์ยังคงมีหนทางอีกยาวไกล เชื่อว่าความสำเร็จของ ซินเนอร์ จะยังเป็นแค่จุดเริ่มต้น จึงไม่แปลกอะไรที่วงการเทนนิสจะยกให้เขาคือผู้สืบทอดเจนต่อไป ที่จะสั่นสะเทือนวงการหวดลูกสักหลาดไปอีกยาวนานนับทศวรรษ

อ่านเรื่องราวอื่นๆที่น่าสนใจ

ประวัติ แทร์ สเตเก้น จากกัปตันกลายเป็นส่วนเกิน บาร์เซโลน่า

ประวัติ โธมัส มุลเลอร์ ตำนานที่ถึงวันอำลา…25 ปี ในสีเสื้อบาเยิร์น มิวนิค

ลงเล่น 100 นัดให้ บาร์เซโลน่า ในวัย 17 ปี ประวัติ ลามีน ยามาล เด็กมหัศจรรย์คนใหม่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก TNN ช่อง16

"สมศักดิ์" พบเอกชนพังงา ชู "เมืองหลวงเวลเนสอันดามัน" แหล่งรายได้ใหม่ โกยปีละ 6 หมื่นล้าน

34 นาทีที่แล้ว

ตลาดรถยนต์ใช้แล้วครึ่งปีหลัง 2568 หดตัว 28% รับมือความท้าทาย EV-เศรษฐกิจ

50 นาทีที่แล้ว

วิศวกร AI ระดับสูงกลายเป็น "สมบัติ" ที่มีค่าที่สุดในการแข่งขัน AI l Editor's Pick

51 นาทีที่แล้ว

เปิดความหมาย “คายอ้อ” แปลว่าอะไร เบื้องหลังของหมอลำ น้อยคนที่จะรู้

53 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความกีฬาอื่น ๆ

สัญญากี่ปี-ค่าตัวเท่าไหร่? เปิดรายละเอียดดีล แมนยู คว้า เอ็มเบอโม่

SIAMSPORT

แมนยูเฮ! เบรนท์ฟอร์ดรับข้อเสนอซื้อเอ็มเบอูโม่ 65+5 ล้านปอนด์แล้ว

MATICHON ONLINE

ไก่เดือยทอง สร้างใหม่ในมือ “โธมัส แฟรงค์”

สยามรัฐ

'กรีลิช' หวนซ้อมเดียววีกนี้ รอหาสโมสรใหม่

Soccersuck

“ฮอนด้า แอลพีจีเอฯ มอบเงิบบริจาคแก่ศิริราชมูลนิธิ

Manager Online

ทัพแบดมินตันไทยฟอร์มร้อน! ซิวชัย 2 นัดรวด การันตีเข้ารอบ 16 ทีม ศึกม.โลก 2025

SIAMSPORT

“บิ๊กเอ” นำทีมบุกเกาะสมุย ลงพื้นที่ตรวจค่ายมวย เดินหน้านโยบายสร้างมูลค่าเพิ่มให้ “มวยไทย”

เดลินิวส์

‘ฉลามชล’ เปิดตัว ‘กีเก้ ลินาเรส’ ปราการหลังดีกรีทีมชาติฟิลิปปินส์ เสริมแกร่งแนวรับ

ไทยโพสต์

ข่าวและบทความยอดนิยม

ทีมเดวิสคัพไทยกำลังใจดี-ไร้อาการเจ็บ คุ้นชินสนาม-บอล-อากาศ พร้อมสู้ศึก!

TNN ช่อง16

เพียงธาร ผลิพืช ผงาดคว้าแชมป์หญิงคู่ ในศึกเทนนิส "W15 หม่าอันชาน"

TNN ช่อง16

เด็กไทยแชมป์ทั้งชาย-หญิง เทนนิส "เซาท์อีสต์ เอเชีย"

TNN ช่อง16
ดูเพิ่ม
Loading...