เครือสหพัฒน์ ปั้นแบรนด์ ORA PET CARE ชิงสินค้าสัตว์เลี้ยง 7.5 หมื่นล้าน
บุษบง มิ่งชวัญยืน ผู้จัดการโครงการผลิตภัณฑ์ ORA PET CARE บริษัท เบสท์ แฟคตอรี่ เอาท์เล็ท จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันเทรนด์ผู้บริโภครักสัตว์เลี้ยงเป็นสมาชิกในครอบครัวหรือ Pet Humanization ยังมาแรง ไม่ใช่แค่กลายเป็นทาสน้องหมา น้องแมว แต่ยังเปิดกว้างรับสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นๆ ทั้งปลา นก ฯ และกลายเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ตลาดผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอด 5 ปีที่ผ่านมา
ปัจจุบันภาพวมตลาดผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงมีมูลค่าราว 7.5 หมื่นล้านบาท ปีล่าสุดเติบโต 12% ในตลาดยังแบ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลากชนิด แต่อาหารสัตว์เลี้ยงมีสัดส่วนใหญ่สุด 60-70% ตามด้วยข้าวของเครื่องใช้ เช่น กระเป๋า ผ้าขนหนู เบาะรองนั่ง ฯ พฤติกรรมทาสยังมีการใส่เสื้อผ้าคู่กับสัตว์เลี้ยงตัวโปรด้วย
โอกาสตลาดดังกล่าว ทำให้เครือสหพัฒน์ รุกตลาดผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยง ด้วยการปั้นแบรนด์“ORA PET CARE” เข้าทำตลาดเป็นครั้งแรก จากที่ผ่านมาเครือมีการรับจ้างผลิตหรือโออีเอ็ม และโอดีเอ็ม ให้กับลูกค้าพันธมิตรมายาวนานอยู่แล้ว
สำหรับการบุกตลาด มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วยอาหารสัตว์เลี้ยง เสื้อผ้า สินค้าเสริมหรือ accessory ต่างๆ เช่น น้ำยาล้างอุปกรณ์ ผ้าเปียกทำความสะอาด ชุดสวมใส่หลังทำหมัน ป้องหันน้องหมา-แมวเลียแผล น้ำยาล้างอุปกรณ์สำหรับใส่อาหาร รวมกว่า 100 รายการ(เอสเคยู) เช่น ทั้งนี้ การผลิตอาหารสัตว์บริษัทจ้างผลิตผ่านบริษัท ฟีดสเปเชียลตี้ จำกัด เสื้อผ้าผลิตโดยวาโก้ ซึ่งการันตีคุณภาพและความพิถีพิถัน เป็นต้น
“ตลาดผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงเติบโตมาก และพ่อแม่หรือ Pet Parent ยินดีจ่ายเงินเพื่อสัตว์เลี้ยงมากถึง 1 หมื่นบาทต่อเดือน สำหรับน้องหมาน้องแมว ทั้งนี้การที่ ORA PET CARE เป็นแบรนด์น้องใหม่ เรามุ่งจับตลาดพรีเมียม แมส และโจทย์แรกคือการทำให้แบรนด์ครองใจกลุ่มเป้าหมายให้ได้ก่อน ผ่านการบอกต่อหรือ Word of Mouth ใช้คนดังหรืออินฟลูเอนเซอร์ เป็นกระบอกเสียงสร้างการรับรู้แบรนด์”
ด้านช่องทางจำหน่าย ORA PET CARE นำร่องเปิดร้านทางการหรือ Official Store ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น TikTok Shopee Lazada BIGXSHOW FRIDAY FAIR ฯ ส่วนออฟไลน์รุกช่องทางคลินิกรักษาสัตว์เลี้ยง และภายใน 3 เดือนนี้ จะขยายช่องทางจำหน่ายเข้าสู่ห้างค้าปลีก
อย่างไรก็ตาม จากการทดลองทำตลาดมาราว 1 ปี ตัวเลขยอดขายอาจยังไม่มา แต่บริษัทได้เรียนรู้ และเข้าใจระบบนิเวศหรืออีโคซิสเทมของตลาดมากขึ้น เบื้องต้นเป้าหมาย 3-5 ปี มองส่วนแบ่งตลาด 5% หรือมียอดขายระดับ 300-400 ล้านบาท และ 10 ปี ต้องการให้แบรนด์ก้าวไปอยู่ใน 10 รายชั้นนำหรือ Top 10 ครองใจผู้บริโภค จากปัจจุบันผู้นำ มีส่วนแบ่งตลาดราว 15-20%