โอเปกพลัส จ่อเร่งฟื้นการผลิตน้ำมันในการประชุมเสาร์นี้ ราคาตก

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า กลุ่มโอเปกพลัส กำลังพิจารณาเร่งฟื้นกำลังการผลิตน้ำมันให้เร็วขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ ในการประชุมออนไลน์ซึ่งจะจัดขึ้นในวันเสาร์นี้ (5 ก.ค.) ตามที่ตัวแทนของกลุ่มกล่าว นักวิเคราะห์คาดราคาน้ำมันขาลงต่อเนื่อง

ซาอุดีอาระเบียได้แนะนำให้กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันเพื่อการส่งออก (OPEC) เพิ่มปริมาณการผลิตขึ้น 411,000 บาร์เรลต่อวัน ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา และขณะนี้กลุ่มกำลังพิจารณาเพิ่มการผลิตมากขึ้นไปอีกในเดือนสิงหาคม

กลยุทธ์ที่กล้าหาญนี้ ที่จะช่วยให้กลุ่มสามารถกลับมาชิงส่วนแบ่งตลาดจากผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกพลัส (OPEC+) แม้ว่าจะมีความเสี่ยงจากการที่อุปทานน้ำมันทั่วโลกอาจเกินความต้องการ ซึ่งอาจกดดันราคาลงอีก

การลดลงของราคาน้ำมันล่าสุดถูกมองว่าเป็นประโยชน์สำหรับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เห็นว่าราคาที่ต่ำลงจะช่วยลดค่าใช้จ่ายสำหรับผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อ

ราคาน้ำมันดิบร่วงลงแรง

สมาชิกพันธมิตรหลักแปดประเทศกำลังพิจารณาการเพิ่มการผลิตมากกว่า 500,000 บาร์เรลต่อวัน ตามที่ตัวแทนคนหนึ่งกล่าว ซึ่งจะทำให้ OPEC+ สามารถฟื้นคืนกำลังการผลิตที่เคยหยุดไป 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ได้ภายในเดือนกันยายน ซึ่งเร็วกว่าที่วางแผนไว้เดิม ตามที่ตัวแทนอีกคนกล่าวเสริม พวกเขาขอไม่เปิดเผยชื่อ

ราคาน้ำมันเบรนท์ล่วงหน้าอยู่ใกล้ 68 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในตลาดลอนดอนเมื่อวันศุกร์ โดยร่วงลงแรงถึง 13% ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงของสงครามระหว่างอิสราเอลและอิหร่านไปสู่การหยุดยิงที่เปราะบางนั้นทำให้การส่งออกพลังงานจากตะวันออกกลางไม่ได้รับผลกระทบมากนัก

“ด้วย OPEC+ ที่หันไปใช้กลยุทธ์เพื่อชิงส่วนแบ่งตลาดมากกว่าการปกป้องราคา การคงการลดการผลิตแบบสมัครใจไว้ดูจะไม่มีความหมาย” แฮร์รี ชิลลิงเคอเรียน หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Onyx Capital Group กล่าว “อาจจะดีกว่าที่จะเร่งการฟื้นฟูการผลิตให้เสร็จเร็วขึ้น และก้าวต่อไป”

คาดราคาอาจร่วงลงถึง 60 ดอลลาร์/บาร์เรล

ตั้งแต่เดือนเมษายน กลุ่มโอเปกและพันธมิตรได้เปลี่ยนจากการควบคุมการผลิตมาเป็นการเปิดวาล์วการผลิตน้ำมันอีกครั้ง ทำให้ผู้ค้าผลิตภัณฑ์น้ำมันดิบประหลาดใจและก่อให้เกิดคำถามเกี่ยวกับกลยุทธ์ระยะยาวของกลุ่ม การประชุมทางวิดีโอในวันเสาร์ถูกเลื่อนขึ้นมาอีกวันเนื่องจากเหตุผลด้านตารางเวลา

ตัวแทนกล่าวถึงแรงจูงใจหลากหลายที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้ รวมถึงการรองรับความต้องการเชื้อเพลิงสูงสุดในช่วงฤดูร้อน, ควบคุมการผลิตเกินความต้องการโดยสมาชิกบางราย, และชิงส่วนแบ่งตลาดกลับมาจากคู่แข่งเช่นผู้ผลิตน้ำมันจากชั้นหิน (shale) ในสหรัฐฯ เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ริยาดมีความกระตือรือร้นเป็นพิเศษที่จะเริ่มการผลิตที่ถูกหยุดไปให้เร็วที่สุด

ปริมาณบาร์เรลเพิ่มเติมอาจได้รับการต้อนรับจากประธานาธิบดีทรัมป์ที่ผลักดันให้ราคาน้ำมันต่ำลงอย่างต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจสหรัฐฯ และควบคุมเงินเฟ้อ ในขณะเดียวกันก็กดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐลดอัตราดอกเบี้ย

แต่การเพิ่มกำลังการผลิตอาจมีความเสี่ยงที่จะทำให้ส่วนเกินอุปทานที่กำลังเกิดขึ้นอยู่รุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งอาจทำให้ราคาต่ำลงจนสร้างภาระทางการเงินให้กับผู้ผลิต

ปริมาณสำรองน้ำมันทั่วโลกได้เพิ่มขึ้นในอัตราประมาณ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากความต้องการจากจีนลดลงและการผลิตเพิ่มขึ้นทั่วทวีปอเมริกา ตั้งแต่สหรัฐอเมริกาและกายอานา ไปจนถึงแคนาดาและบราซิล

สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศคาดการณ์ว่าตลาดจะมีส่วนเกินจำนวนมากในช่วงปลายปีนี้ บริษัทในวอลล์สตรีท รวมถึงธนาคาร JPMorgan Chase & Co และ Goldman Sachs Group คาดการณ์ว่าราคาอาจลดลงเหลือ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลหรือต่ำกว่านั้นภายในไตรมาสที่ 4