บลจ.กสิกรไทยชี้ลุ้นSET1,300จุด ภาษี19%จับตาผลกระทบกำไรบจ.
#บลจ.กสิกรไทย #ทันหุ้น- บลจ.กสิกรไทย ลุ้นหุ้นไทยขาขึ้น หากระหว่างทางไม่กลับไปแตะจุดต่ำเดิม 1,050 จุด มีโอกาสเห็นดัชนี วิ่งไปแตะ 1,300 จุด ปีนี้ ขณะที่ภาพรวมการลงทุนยังคงมีความผันผวน ครึ่งหลังนักลงทุนจับตา กำไรบจ.ว่าจะรับผลกระทบภาษีที่สหรัฐเรียกเก็บ 19%มากน้อยแค่ไหน แนะลงทุนเลือกหุ้นปันผล ทนทาน พร้อมชูจัดพอร์ตแบบ กับ K-Wealth PLUS Series
นายวิน พรหมแพทย์, CFA ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด หรือ บลจ.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยอาจจะมีการปรับลงตัวบ้าง แต่หากไม่กลับไปจุดต่ำเดิมที่ 1,050 จุด ก็เชื่อว่าจะเป็นขาขึ้นของตลาดหุ้นไทย แต่อย่างไรก็ตาม ภาพรวมยังคงเห็นถึงความผันผวน แม้เรื่องของภาษีนำเข้าสหรัฐที่ไทยโดนเรียกเก็บ 19% จะเป็นตัวเลขที่สามารถแข่งขันกับเพื่อนบ้านได้ แต่ก็ต้องประเมินอีกทีว่าจะกระทบกับกำไรบริษัทจดทะเบียนมากน้อยแค่ไหน
“เหมือนจะเป็นข่าวดีที่ถูกเรียกเก็บ 19% แต่ก็เป็นตัวเลขที่สูงกว่าอดีต ดังนั้นจึงยังต้องประเมินกำไรของบริษัทจดทะเบียนเป็นรายกลุ่มว่ารับผลกระทบมากน้อยแค่ไหน เพราะบางกลุ่มอุตสาหกรรมก็โดนมากกว่า 19%ขณะเดียวกันก็ยังมีปัจจัยการเมือง การเบิกจ่ายงบ ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา รวมถึง จำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงเป็นปัจจัยกดดัน จึงน่าจะทำให้ตลาดหุ้นไทยยังมีความผันผวนต่อในครึ่งปีหลัง”
*ได้ลุ้น 1,300 จุด
ในส่วนของเป้าหมายดัชนีในปี 2568 นั้น บลจ.กสิกรไทย คาดว่าจะอยู่ที่ 1,300 จุด โดย นายวิน มองว่า ตอนนี้สิ่งที่จะเรียกฟันด์โฟลว์ต่างชาติกลับเข้ามาได้คือความเชื่อมั่น ซึ่งนักลงทุนจะต้องมั่นใจกับภาพเศรษฐกิจในระยะถัดไปของไทย และกำไรจากการเติบโตของบริษัท หลังจากประเมินผลกระทบภาษีของสหรัฐ 19%ซึ่งปัจจุบันก็เริ่มเห็นหลายสำนักออกทยอยออกบทวิเคราะห์ถึงผลกระทบที่แต่ละอุตสาหกรรมได้รับ
“อย่างไรก็ตาม ข่าวร้ายค่อนข้างรับรู้ไปมากแล้ว ทั้งเรื่องของการปรับลด GDP จำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี โดยคาดว่าปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวจะอยู่ที่ราว 32ล้านคน จากปีก่อนที่ 34 ล้านคน ดังนั้นในครึ่งปีหลังก็จะเหลือแค่การจับตากำไรบริษัทจดทะเบียนว่าแต่ละกลุ่มจะกระทบแค่ไหน”
สำหรับการลงทุนในหุ้นไทย ยังคงแนะนำหุ้นปันผล ซึ่งใน SET กลุ่มที่ปันผลดีและนักลงทุนหมายก็ก็จะอยู่ใน 4 กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงาน ธนาคาร อสังหาริมทรัพย์ และสื่อสาร ขณะที่กองทุน นายวิน แนะนำ กองทุนเปิดเค หุ้นปันผล (K-VALUE)ซึ่งลงทุนในหุ้นปัจจัยพื้นฐานดี มีผลการดำเนินงานมั่นคงในทุกภาวะเศรษฐกิจหรือในยามที่ตลาดมีความผันผวน และมีการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีและสม่ำเสมอในระยะยาว
ขณะเดียวกันยังแนะนำ กองทุนเปิดเค พรีเมียมอินคัมหุ้นโลก K-GPINUH ที่นอกจากทำกำไรจากหุ้นโลกแล้ว กองทุนยังสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มสม่ำเสมอทุกเดือนจากการใช้กลยุทธ์การขาย "Call Option" แบบรายสัปดาห์ ยิ่งในช่วงที่ตลาดหุ้นมีความผันผวน กองทุนจะทำหน้าที่รักษาสมดุลให้กับพอร์ตรวม โดยกองทุน K-GPINUH ลงทุนในกองทุนหลัก JPM Global Equity Premium Income Active UCITS ETF ที่มีประวัติจ่ายปันผลเฉลี่ย 6-7% ต่อปี
*แนะจัดพอร์ต Core & Satellite
อย่างไรก็ตาม บลจ.กสิกรไทย แนะนำว่าควรจัดพอร์ตแบบ Core & Satellite Portfolio ซึ่งจะรับมือกับสภาพตลาดท ผ่านกลุ่มกองทุน K-WealthPLUS Series ที่มีการจัดพอร์ตการลงทุนแบบสำเร็จรูปในสัดส่วนการลงทุนที่แตกต่างกัน กลยุทธ์การลงทุนที่เน้นกระจายการลงทุน (Asset Allocation) ในหุ้น ตราสารหนี้ และสินทรัพย์ทางเลือก โดยกลุ่มกองทุน K-WealthPLUS Series มีให้เลือก ตามระดับความเสี่ยง ตั้งแต่ กองทุนเปิดเค เวลธ์พลัส บาลานซ์ (K-WPBALANCED), กองทุนเปิดเค เวลธ์พลัส สปีดอัพ (K-WPSPEEDUP) และกองทุนเปิดเค เวลธ์พลัส อัลติเมท (K-WPULTIMATE)