มากุโระ ส่ง “BINCHO” อาหารญี่ปุ่นย่างถ่านโบราณ เริ่ม 170 บาท/เซต รับคนกรุงกำลังซื้อชะลอตัว
ปัจจุบัน ตลาดร้านอาหารในไทย (อ้างอิงศูนย์วิจัยกสิกรไทย) 646,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.8% ใกล้เคียงกับ GDP ประเทศ ในจำนวนนี้ “ร้านอาหารญี่ปุ่น” ครองมูลค่า 2 หมื่นกว่าล้านบาท และยังคงเป็นที่นิยมในไทย
“จักรกฤติ สายสมบูรณ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท มากุโระ กรุ๊ปจำกัด (มหาชน) หรือMAGURO กล่าวว่า ช่วง 6 เดือนแรก (ม.ค. - มิ.ย.) ปี 2568 ภาพรวมยอดขายของตลาดร้านอาหารในไทยได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะทำเลใจกลางเมือง (CBD) อาทิ สยาม สุขุมวิท ปัจจัยหลักมาจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวช่วงปลายเดือนมีนาคม ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติชะลอตัวลง
[caption id="attachment_1528846" align="alignnone" width="2351"]
จักรกฤติ สายสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท มากุโระ กรุ๊ปจำกัด (มหาชน) หรือ MAGURO[/caption]
ขณะที่กำลังซื้อผู้บริโภคในประเทศถูกจำกัดด้วยภาวะเศรษฐกิจ ทำให้มีการวางงบประมาณค่าใช้จ่ายก่อนออกมารับประทานอาหาร เพื่อประหยัดเงินมากที่สุด
“ทำเลศูนย์การค้าที่เจาะชาวต่างชาติ มียอดขายลดลง ตามนักท่องเที่ยวที่หายไป เช่น สาขาสยามพารากอน สาขาเอ็มสเฟียร์ สวนทางกับสาขารอบนอก กทม. อาทิ บางนา ราชพฤกษ์ แจ้งวัฒนะ กลับมีแนวโน้มเป็นบวก จากโครงการบ้านจัดสรรใหญ่ ที่รวมกลุ่มผู้บริโภคกำลังซื้อสูงไว้“
ทั้งนี้ การเปิดแบรนด์ใหม่ “BINCHO” เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นย่างถ่านแบบญี่ปุ่นดั่งเดิม ด้วยเตาย่างอิโอริ และโรบาตายากิ เป็นอีกหนึ่งการแก้ Pain Point ด้านกำลังซื้อคนกรุงเทพฯ ชะลอตัวลง ด้วยราคาเริ่มต้น 170 บาท/เซต ส่วนรายการจานเดี่ยว A la carte เริ่มต้น 30 บาท
[caption id="attachment_1528848" align="alignnone" width="1880"]
BINCHO สาขาเมกา บางนา[/caption]
“BINCHO ถือเป็นแบรนด์ร้านอาหารเจาะกลุ่ม Mid Market ที่ราคาถูกที่สุดในกลุ่มมากุโระกรุ๊ป เฉลี่ยยอดซื้อจะอยู่ที่ 300-400 บาท/บิล เท่านั้น ขณะที่แบรนด์อื่น ๆ ในเครือ อาทิ มากุโระ มียอดซื้อ 700 บาท/บิล, ฮิโตริ ชาบู 800 บาท/บิล, ทงคัตสึ อาโอกิ 600 บาท/บิล เป็นต้น”
การปั้นแบรนด์ BINCHO เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของมากุโระ ที่ต้องการเจาะตลาดอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม และให้ประสบการณ์รับประทานอาหารที่สัมผัสได้ถึงวัฒนธรรมในญี่ปุ่น ที่หาได้ยากในไทย ซึ่งเน้นการใช้ Binchōtan หรือถ่านไม้ขาวโบราณในการทำอาหารเป็นหลัก
ซึ่ง ตลาดปิ้งย่างเตาถ่านโบราณนี้ ยังเป็น Blue Ocean การแข่งขันน้อย ด้วยมีผู้เล่นไม่กี่เจ้าในไทย และส่วนใหญ่เป็นร้านแนวอิซากายะ (รูปแบบบาร์ญี่ปุ่น) ให้บริการเครื่องดื่ม และอาหารในรูปแบบของว่างมากกว่า‘ต่างจาก BINCHO เน้นอาหารรูปแบบเซต’
เบื้องต้น BINCHO เปิดสาขาแรกที่ศูนย์การค้า เมกา บางนา ชั้น 1 ในวันที่ 9 กรกฎาคม ปี 2568 และจะเปิดสาขาที่ 2 ในต้นปี 2569
โดยในแผนใหญ่ในเฟส 1 (ระยะ 3 ปี) ตั้งเป้าขยายสาขา BINCHO จำนวน 10-20 สาขา ซึ่งใช้งบประมาณลงทุนราว 10 ล้านบาท/สโตร์
“ปี 2568 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโต 30% ซึ่งประเมินว่าในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก ถ้าไม่มีเหตุการณ์อะไรมากระทบตลาด ด้วยเป็นไฮซีซั่นท่องเที่ยว”
[caption id="attachment_1528849" align="alignnone" width="2053"]
การย่างเตาถ่านโบราณญี่ปุ่น เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยเอโดะ[/caption]