โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

SET เดือน ส.ค. ลุ้น 1,300 จุด รับฟันด์โฟลว์ไหลเข้า

Manager Online

เผยแพร่ 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา • MGR Online

ทรีนีตี้ - ทิสโก้ มองหุ้นไทยเดือน 8 ไปต่อ ประเมินแนวต้าน 1,270-1,300 จุด แต่เตือนระวังความเสี่ยงการเมือง ทั้งคดีอดีตนายกฯ และคดีคุณสมบัตินายกฯแพทองธาร ขณะที่อาจมี Sell on Fact ระยะสั้น โดยทรีนีตี้ ชู หุ้นเด่นกลุ่มท่องเที่ยว โรงพยาบาล ด้านทิสโก้ มีมุมมองเชิงบวก จากกำไรโค้ง2 หุ้นแบงก์ และ Real Sector บางตัว เปิดสถิติ 5 ปี และ 10 ปี เดือน ส.ค.ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสขึ้นในระดับสูงที่ 80% - 70% ผลตอบแทนเฉลี่ย +2.8% และ +1.2% แถมทิศทางการลงทุนของต่างชาติโดดเด่น เพิ่มโอกาส MSCI - FTSE เพิ่มน้ำหนักลงทุน ดึงดูดเม็ดเงินต่างประเทศไหลกลับ

ทรีนีตี้ ให้กรอบ SET ส.ค. ที่ 1,180-1,270 จุด แนะขึ้นขาย-ลงซื้อ

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยว่า SET Index เดือน ส.ค.จะแกว่งตัวในกรอบ 1,180-1,270 จุด โดยระดับแนวต้านที่ 1,270 จุด มีที่มาจากเป้าหมายดัชนี SET ในกรณีฐานตามวิธี PE Model ตามเดิม และเป็นระดับที่อิงสมมติฐานการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของ กนง.ที่ 0.25% ในช่วงที่เหลือของปีนี้เรียบร้อยแล้ว

ส่วนระดับแนวรับที่ 1,180 จุด เป็นระดับที่เคยประเมินว่าดัชนี SET จะยืนเหนือได้ หากอัตราภาษี Tariff สุดท้ายที่ไทยถูกสหรัฐฯเรียกเก็บอยู่ในระดับ 20% หรือต่ำกว่า ซึ่งสุดท้ายแล้วเป็นเช่นนั้นจริง

หลังจากผ่านพ้นประเด็น Tariff ในช่วงต้นเดือนไปแล้ว ตลาดน่าจะเริ่มหันมาให้น้ำหนักกับปัจจัยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่กำลังทยอยออกมามากขึ้น รวมถึงปัจจัยการเมืองในประเทศที่จะกลับมาเข้มข้นอีกครั้งในเดือนนี้ ไม่ว่าจะเป็นการพิพากษาของศาลอาญาคดีนายทักษิณกรณีมาตรา 112, การพิพากษาของศาลฎีกาฯกรณีชั้น 14, การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญต่อนายกฯ แพทองธารว่าขาดคุณสมบัติการเป็นนายกฯหรือไม่ และการชุมนุมทางการเมืองที่กลับมาอีกครั้ง ทั้งนี้หากเหตุการณ์เหล่านี้ไม่ได้นำมาซึ่งเงื่อนเวลาของการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 69 ที่เปลี่ยนแปลงไป เชื่อว่าจะพอเป็นสิ่งที่นักลงทุนยอมรับได้ และไม่น่ามีผลกระทบต่อภาพ SET Index มากนัก

เชิงกลยุทธ์ แนะนำใช้กลยุทธ์ขึ้นขาย-ลงซื้อตามกรอบดัชนีที่ประเมินไว้ โดยมองโซนในการทยอยลดน้ำหนักหุ้นอยู่ที่บริเวณดัชนี 1,250-1,270 จุด ส่วนโซนในการทยอยเข้าสะสมหุ้นอยู่ที่บริเวณดัชนี 1,180-1,200 จุด สำหรับกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจในเดือนนี้ ได้แก่

1.กลุ่มท่องเที่ยวที่ Earnings เตรียมผ่านพ้นจุดต่ำสุดในไตรมาส 2 พร้อมๆกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง และมีมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวที่ภาครัฐอาจออกมาสนับสนุนในช่วงถัดไป เลือก AWC, BA, CENTEL, ERW

2.กลุ่มโรงพยาบาลที่เตรียมเข้าสู่ High season และเริ่มเห็นการฟื้นตัวของกลุ่มผู้ป่วยต่างชาติ และน่าจะมีความคืบหน้าในการจ่ายค่ารักษาประกันสังคมภาระเสี่ยงเพิ่มเติม รวมถึงค่ารักษา COVID ค้างจ่าย เลือก BDMS, BH, BCH, CHG

"ผลกระทบในแง่ของดัชนี SET อาจมีไม่มากนัก หรืออาจเห็นปรากฏการณ์ Sell on fact บ้างในระยะสั้น แต่ในส่วนของกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้องโดยตรงอย่างกลุ่มส่งออก เช่นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และอาหารสัตว์เลี้ยง รวมถึงกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมนั้น ประเมินว่าความชัดเจนที่เกิดขึ้นจะเป็นตัวปลดล็อคความ Overhang ที่เคยกดดันตัวหุ้นมาก่อนหน้านี้ได้บ้าง ทั้งนี้สิ่งที่คงต้องติดตามต่อไปก็คือรายละเอียดของดีลที่เกิดขึ้นว่าไทยเราจะต้องมีการเปิดตลาดสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯรายการใดบ้าง และต้องมีการลดอากรขาเข้าต่อสินค้าเหล่านี้มากน้อยเพียงใด ซึ่งหากเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่มากอาจเป็นปัจจัยกดดันภาพ GDP ของไทยในช่วงถัดไป ผ่านตัวแปร Net export ที่ปรับลดลงได้" นายณัฐชาต กล่าว

ทิสโก้ ประเมินแนวต้าน 1,300 จุด แนะหุ้นงบโค้ง 2 เติบโต

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัด ระบุว่า มีมุมมองเชิงบวกอย่างระมัดระวังต่อแนวโน้มตลาดหุ้นไทยช่วงเดือน ส.ค.นี้ โดยในช่วงครึ่งเดือนแรกน่าจะได้อานิสงส์จากแนวโน้มเงินทุนต่างชาติที่เป็นบวก และการเก็งกำไรผลประกอบการและคาดหวังเงินปันผล แต่ในช่วงครึ่งเดือนหลังอาจต้องติดตามปัจจัยการเมืองที่อาจกลับมาสร้างความกังวลใจแก่นักลงทุน

สำหรับการคัดเลือกหุ้นลงทุนในเดือนนี้นั้น แนะนำนักลงทุนเลือกหุ้นที่แนวโน้มงบไตรมาส 2/68 จะออกมาดีหรืออย่างน้อยเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนและเลือกหุ้นบางตัวที่มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล รวมทั้งหุ้นที่ผู้บริหารร่วมงาน Thailand Focus ซึ่งจะสร้างความสนใจให้กับนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ

แนะนำลงทุนในหุ้น AMATA, COM7, GPSC, GULF, KKP, PR9 และ SCB โดยสำหรับด้านแนวรับสำคัญหุ้นไทยอยู่ที่ 1,190 - 1,200 จุด และแนวต้านสำคัญอยู่ที่ 1,270 – 1,300 จุด ตามลำดับ

ส่วนรายละเอียดที่ทำให้ บล.ทิสโก้มีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในหุ้นไทยมากขึ้นนั้น เนื่องจากภาพรวมกำไรสุทธิไตรมาส 2/68 ของหุ้นกลุ่มธนาคาร และหุ้น Real Sector ขนาดใหญ่บางตัวที่รายงานออกงบมาแล้ว อาทิ SCGP, SCC และ BH เป็นต้น ส่วนใหญ่มีกำไรดีกว่าคาด ซึ่งน่าจะช่วยกระตุ้นแรงซื้อเก็งผลประกอบการในระยะสั้นและทิศทางการลงทุนของต่างชาติในเดือนก.ค.68 พลิกเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 10 เดือน และถือเป็นสัญญาณที่ดี

ขณะที่ทิศทางการลงทุนของต่างชาติยังมีแนวโน้มเป็นบวกในระยะสั้นจาก

1.หุ้นไทยปีนี้ยังให้ผลตอบแทนติดลบกว่า 11% ถือว่ายัง Laggard หุ้นโลกมากที่ปรับตัวขึ้นทำสถิติใหม่ในเดือนที่ผ่านมา ขณะที่การประเมินมูลค่ายังต่ำกว่าหุ้นโลกมาก โดย Fwd. PER ปีหน้าตลาดหุ้น DM ล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 19 เท่า เทียบกับตลาดหุ้นไทยที่ 13 เท่า มีส่วนต่าง (Valuation Gap) สูงถึง 6 เท่า ซึ่งมากกว่า +2SD จากค่าเฉลี่ยระยะยาวในอดีตที่อยู่ที่ 1.6 เท่า

2.การถือครองหุ้นไทยของต่างชาติยังน้อยกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต ปัจจุบันถือครองอยู่ที่ 19.8% ของจำนวนทุนจดทะเบียน เทียบกับค่าเฉลี่ยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาที่อยู่ที่ 20.2% จากการประเมินของ บล.ทิสโก้ หากต่างชาติถือครองหุ้นเพิ่มขึ้นหรือลดลงทุกๆ 0.1% จะคิดเป็นเม็ดเงินราว 1.5 หมื่นล้านบาท

3.หุ้นไทยพลิกกลับมาปรับตัวขึ้นโดดเด่นในช่วงเดือนที่ผ่านมา +14% vs MSCI World Index +2% เพิ่มโอกาสที่ MSCI และ FTSE จะปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนหุ้นไทยในการทบทวนรอบเดือนสิงหาคมซึ่งจะมีการประกาศในวันที่ 7 ส.ค. และ 22 ส.ค.68 ตามลำดับ ซึ่งจะช่วยดึงดูดเม็ดเงินจากกองทุนต่างประเทศไหลกลับมา

มองสถิติหุ้นไทยเดือน ส.ค. มีโอกาสขึ้น 80% แต่เตือนระวังการเมือง

นอกจากนี้ข้อมูลเชิงสถิติ 5 ปี และ 10 ปี บ่งชี้เดือนส.ค.ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสในการปรับตัวขึ้นอยู่ในระดับสูงที่ 80% และ 70% โดยจะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยเป็นบวกที่ +2.8% และ +1.2% ตามลำดับ ซึ่งเป็นเดือนที่มีโอกาสในการปรับตัวขึ้นและให้ผลตอบแทนเฉลี่ยเป็นบวกสูงที่สุดเมื่อเทียบกับเดือนอื่นๆ บล.ทิสโก้มองปรากฎการณ์นี้เกิดจาก

1.แรงซื้อเก็งผลประกอบการและคาดหวังการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล และ 2.อานิสงส์เชิงบวกจากงาน Thailand Focus ที่มักจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนส.ค.ของทุกปี และตลาดหุ้นไทยมักตอบสนองในทางบวก

อย่างไรก็ตามการลงทุนในหุ้นไทยยังต้องจับตาและระวังคดีความทางการเมืองที่คาดว่าจะทยอยตัดสินในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า ซึ่งอาจสร้างความกังวลหวนกลับมา โดยเฉพาะคดี ส.ว.ยื่นถอดถอนนายกฯแพทองธาร หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขาดคุณสมบัติคล้ายกรณีนายกฯเศรษฐาในช่วงกลางปีที่แล้ว จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงตัวนายกฯและคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ ต้องเสียเวลาอย่างน้อย 1 เดือนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ที่มีอำนาจเต็มเข้ามาบริหารประเทศ

นอกจากนี้ด้านทางเลือกการลงทุนหุ้นต่างประเทศโดยผ่าน DR เดือนส.ค.นี้ แนะนำ CNTECH01 และ TENCENT80 อานิสงส์ภาษีทรัมป์หลังเจรจาที่ลดต่ำลงทั้งประเทศในกลุ่ม EM และพันธมิตรของสหรัฐฯ ช่วยหนุนตลาด โดยหุ้นกลุ่มเทคโลกยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น บล.ทิสโก้มองหุ้นกลุ่มเทคจีนได้ประโยชน์จากการกลับมาส่งออกชิปของสหรัฐฯแลกกับการส่งออกแร่หายากของจีน ขณะที่การประเมินมูลค่าหุ้นกลุ่มเทคจีนยังต่ำกว่าหุ้นเทคโลกและราคายังปรับตัวขึ้นช้า

website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Manager Online

เอาทุกทาง! กัมพูชายื่นฟ้อง OHCHR กล่าวหา 'กองทัพไทย' คุมตัวทหารเขมร 20 นายโดยมิชอบ

28 นาทีที่แล้ว

ยัวะจัด! 'ทรัมป์' ส่งเรือดำน้ำนิวเคลียร์เข้าประจำการใกล้ 'รัสเซีย' ตอบโต้คำขู่ 'เมดเวเดฟ'

38 นาทีที่แล้ว

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ พร้อมลุยศึกเอเชีย แรลลี่ 2025 — จากเวทีโลกสู่ทางฝุ่นไทย

42 นาทีที่แล้ว

“หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ” ติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ และนิ่วในท่อไต พูดน่าห่วง “ไปที่ชอบที่ชอบเร็วๆ นี้”

57 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

หอการค้าฯ ชง 4 ข้อ จับมือ พาณิชย์ พาไทยฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจโลก

การเงินธนาคาร

ปะทะชายแดน-อุทกภัย กด “ท่องเที่ยวไทย” ช้ำ ลุ้นครึ่งปีหลัง “จุดกลับตัวของการเติบโต”

การเงินธนาคาร

รมว.ท่องเที่ยวฯลงพื้นที่ภูเก็ตตอกย้ำมาตรการความปลอดภัยดึงความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว

สยามรัฐ

สนค. ยกระดับเซรามิกคราฟต์ไทย โอกาสปั้นดินสู่ดาว

หุ้นวิชั่น

Recap อเมริกาปิดดีลภาษีทั่วโลก ดินไหวใหญ่โลกใน 14 ปี IMF งัดจีดีพีโลก-ไทย | คุยกับบัญชา | 2 ส.ค. 68

BTimes

ราคาทองวันนี้ (2 ส.ค.) เปิดตลาด ปรับขึ้น 250 บาท/บาททองคำ ราคาทองรูปพรรณ ขายออกบาทละ 52,300

การเงินธนาคาร

ราคาทองวันนี้ 2 ส.ค. 68 พุ่งขึ้น 250 บาท ทองรูปพรรณขายออกบาทละ 52,300 บาท

สยามรัฐ

ราคาทองวันนี้ล่าสุด 2 สิงหาคม 2568 ปรับเพิ่ม 250 บาท ราคาทองรูปพรรณ บาทละ 52,300 บาท

Thairath Money

ข่าวและบทความยอดนิยม

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินภาษีตอบโต้ในอัตราที่ลดลงหนุนเศรษฐกิจไทยปี 68 โต 1.5%

Manager Online

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเผยเงินบาทปิดตลาดที่ 32.85-แตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 1 เดือน

Manager Online

ก.ล.ต.ฟันแพ่งผู้ถือหุ้น UREKA พร้อมพวกรวม 6 รายร่วมกันปั่นหุ้นสั่งปรับเกือบ 66 ลบ.

Manager Online
ดูเพิ่ม
Loading...