IPS ทางเลือกใหม่ผลิตไฟใช้เอง ลดต้นทุน พลังงานมั่นคง ใครเหมาะ?
สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จึงได้กำหนดหลักเกณฑ์ใหม่สำหรับผู้ผลิตไฟฟ้าไว้ใช้เอง โดยไม่ขายเข้าระบบของการไฟฟ้า ภายใต้กรอบที่เรียกว่า IPS หรือ Independent Power Supply
IPS หมายถึง ระบบการผลิตไฟฟ้าที่เจ้าของโครงการผลิตขึ้นมาเพื่อนำไปใช้ในกิจการของตนเองโดยเฉพาะ โดยไม่มีการขายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบของการไฟฟ้า และไม่กระทบต่อโครงข่ายไฟฟ้าหลัก
การผลิตไฟฟ้าในลักษณะนี้ อาจทำโดยเจ้าของกิจการเอง หรือจ้างผู้ให้บริการรายอื่นมาติดตั้งและบริหารระบบให้ โดยมีข้อแม้สำคัญว่า ต้องดำเนินการภายในพื้นที่ของผู้ใช้ไฟฟ้าเท่านั้น และห้ามเดินสายไฟฟ้าผ่านทางสาธารณะหรือที่ดินของเอกชนอื่น เว้นแต่จะอยู่ในพื้นที่เฉพาะ เช่น เขตนิคมอุตสาหกรรม ที่สามารถดำเนินการได้ภายใต้กฎหมายและมาตรฐานความปลอดภัยที่เกี่ยวข้อง
การเปิดทางให้ประชาชนและภาคธุรกิจขนาดเล็กผลิตไฟฟ้าใช้เอง ถือเป็นการเปิดประตูสู่พลังงานเสรี โดยเฉพาะในปัจจุบันที่แผงโซลาร์เซลล์มีราคาถูกลง และการติดตั้งทำได้สะดวกมากขึ้น
กลุ่มที่เหมาะกับการใช้ระบบ IPS ได้แก่ เจ้าของบ้านที่มีพื้นที่ติดตั้งแผงโซลาร์และต้องการลดค่าไฟ เจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก เช่น โรงงาน ร้านอาหาร คลินิก ที่ใช้ไฟช่วงกลางวันอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจในนิคมอุตสาหกรรมที่สามารถเลือกใช้พลังงานสะอาดในพื้นที่ และเจ้าของฟาร์มเกษตรหรือสถานประกอบการในชนบทที่ไฟฟ้าอาจเข้าไม่ถึงหรือไม่เสถียร
ในอนาคต หากมีการเปิดให้ใช้ทางสาธารณะมากขึ้นตามกรอบกฎหมาย ก็อาจนำไปสู่การรวมกลุ่มผลิตและใช้ไฟร่วมกันในระดับชุมชนหรือผู้ประกอบการรายย่อยได้ด้วย
ประโยชน์ของ IPS ที่เห็นได้ชัดคือ การช่วยลดค่าไฟฟ้า โดยเฉพาะในช่วงกลางวัน ที่สามารถใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์แทนการดึงไฟจากระบบหลัก นอกจากนี้ ยังช่วยเสริมความมั่นคงทางพลังงาน ทำให้กิจการเดินหน้าต่อได้แม้ในช่วงวิกฤต เช่น ราคาพลังงานผันผวน หรือระบบไฟฟ้าหลักมีปัญหา
นอกจากประโยชน์เชิงเศรษฐกิจ IPS ยังสนับสนุนเป้าหมายการลดการปล่อยคาร์บอน และช่วยขับเคลื่อนประเทศไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำตามเป้าหมาย Net Zero ตามที่ภาครัฐกำหนดไว้
แม้ระบบ IPS จะยังมีข้อจำกัด เช่น การใช้พื้นที่สาธารณะหรือการเดินสายไฟข้ามอาคาร แต่ถือเป็นก้าวสำคัญในการเปิดโอกาสให้ประชาชนและภาคธุรกิจเข้าถึงการผลิตพลังงานของตนเองได้มากขึ้น ช่วยให้วางแผนพลังงานอย่างมั่นใจ ทั้งประหยัดค่าใช้จ่าย และมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ความมั่นคงด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน