ม็อบกัญชาปะทะคารม เลขาฯรมว.สธ. จี้ตั้งกรรมการร่วมแก้ประกาศ ตะเพิด ‘สมศักดิ์’ พ้นรมว.สธ. จ่อยื่นป.ป.ช.เอาผิด
เมื่อวันที่ 16 ก.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยได้ชุมนุมที่หน้าสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และยื่นข้อเสนอพร้อมร่างประกาศ สธ. เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2568 ฉบับเขียนอนาคตกัญชาไทย ถึงนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สธ. โดยนายประสิทธิ์ชัย หนูนวล เลขาธิการเครือข่ายฯ ให้สัมภาษณ์ว่า มาทวงคำตอบหลังจากยื่นข้อเสนอไปก่อนหน้า โดยหลักการคือ ให้ยกเลิกประกาศ สธ. เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2568 ลงวันที่ 23 มิ.ย. 2568 เพราะมีช่องโหว่ โดยเฉพาะการกำหนดต้องมีใบสั่งจ่ายยาและการรับรองมาตรฐานการปลูกและเก็บที่ดีของพืชกัญชาหรือ GACP นำไปสู่การทุจริตก่อให้เกิดการเรียกรับผลประโยชน์และก่อความไร้ประสิทธิภาพในการคุ้มครองผู้บริโภค
โดยขณะนี้เริ่มมีการซื้อขายใบสั่งจ่ายยาแล้ว จึงเสนอให้มีคณะอนุกรรมการร่วมระหว่างหน่วยงานรัฐและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ที่ต้องฟังเสียง เข้ามาร่วมกำหนดมาตรการต่างๆ และให้พิจารณาร่างประกาศ สธ.เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2568 ฉบับเขียนอนาคตกัญชาไทย หากไม่ดำเนินการ วันที่ 29 ก.ค.จะไปยื่นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบนายสมศักดิ์ เนื่องจากการออกนโยบายที่นำสู่การทุจริตในหลายมิติและยื่นนายกรัฐมนตรีให้ถอดถอนออกจากตำแหน่งรมว.สธ. หากไม่ดำเนินการก็เตรียมเคลื่อนไหวใหญ่เดือน ส.ค.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 13.30 น. นายธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.สาธารณสุข ลงมารับหนังสือ โดยทันทีที่มา นายประสิทธิ์ชัย ก็กล่าวซึ่งหน้าว่า ถ้าจะมารับฟังอย่างเดียวก็ขอให้กลับขึ้นห้องไป เพราะเรามาทวงข้อเสนอที่ยื่นไว้เมื่อวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา ทำให้นายธนกฤต กล่าวว่า “มีอะไรก็พูดมา” ทำให้เกิดการชุลมุนเสียงดังก่อนจะเริ่มพูดคุยอีกครั้ง กระทั่งตอนหนึ่งนายธนกฤต กล่าวว่า ตนเองไม่ได้มีหน้าที่ที่จะต้องพิจารณาหรือตัดสินทั้งหมด ทำให้เกิดการปะทะคารมกันขึ้นมาอีก โดยนายประสิทธิ์ชัย กล่าวด้วยน้ำเสียงดุดันว่า ข้อเรียกร้องของเราคือให้แค่แก้ไขประกาศกระทรวง คุณเพียงตอบว่า จะตั้งกรรมการหรือไม่ เราไม่สนใจ เพราะคุณบอกว่าบังคับใช้ไปแล้ว แต่ให้ตอบทันที อย่าเวิ่นเว้อ ไม่อย่างนั้นก็บอกมาว่าไม่ใช่หน้าที่ของคุณ (นายธนกฤต) จากนั้นมวลชนก็ส่งเสียงกดดันอื้ออึง
นายประสิทธิ์ชัย กล่าวด้วยว่า การออกประกาศกระทรวง สธ.นี้ ทำให้เกิดความเสียหายขึ้นแล้ว คุณต้องตอบให้ได้ 1. ถ้าบอกไม่มีอำนาจตัดสินใจก็ตอบมา 2. การตั้งกรรมการจะเกิดได้หรือไม่ และ 3. ประกาศนี้ เป็นตายก็แก้ไม่ได้ หรือถ้ากรรมการเห็นด้วยก็ต้องแก้ หรือรองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จะตอบได้หรือไม่ ว่าหลังจากนี้จะมี 2 ฝ่ายร่วมกันแก้ประกาศกระทรวง
ด้าน นายสมศักดิ์ กรีชัย รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า เราต้องใช้กลไกการนั่งคุย และคุยเป็นเรื่องๆ ทั้งการอบรม ที่อาจมองว่าถูกหรือไม่ถูก ถ้าคุยกันเข้าใจจะนำสู่การพิจารณาว่าจะแก้ไขประกาศหรือไม่ เบื้องต้นเครือข่ายต้องไปรวบรวมข้อมูลก่อน
ขณะที่นายประสิทธิ์ชัย กล่าวว่า ตอบแบบนี้จะได้ชัด แต่ประเด็นสำคัญคือ ระหว่างที่มีการพูดคุย ปกติที่มีการพูดคุยเจรจา เช่นที่ทำเนียบรัฐบาล มีประเพณีอย่างหนึ่งว่า ตราบใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งระหว่างประชาชนกับรัฐ และข้อขัดแย้งนั้นทำให้เกิดความเสียหายแล้ว รัฐจะต้องหยุดมาตรการเหล่านั้นในการบังคับใช้ไว้ก่อนเพื่อมาคุยกันก่อน แต่ที่คุณทำคือ อบรมมั่วไปหมด และเกิดความเสียหายแล้ว เกิดการฟ้องร้องแล้วในหลายจังหวัด พวกคุณได้เดินวิ่งขึ้นศาลกันสนุกแน่ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายไปมากกว่านี้ ตามหลักสากลคือต้องชะลอการดำเนินการใดๆ ตามประกาศกระทรวง จนกว่าการหารือจะมีข้อยุติ
วันเดียวกันที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก มีการอบรมเชิงปฏิบัติการการใช้กัญชาทางการแพทย์ ครั้งที่ 1 มี 6 วิชาชีพแพทย์และหมอพื้นบ้านลงทะเบียนร่วมอบรม ทั้งออนไลน์และออนไซต์กว่า 2,000 คนจากผู้สมัครทั้งหมด 4,800 คน โดยนพ.เทวัญ ธานีรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ เป็นประธานเปิดประชุมพร้อมกล่าวว่า จะทยอยอบรมที่เหลือให้ครบภายใน ก.ค.นี้ เพื่อให้เข้าใจประกาศ สธ.เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2568 ลงวันที่ 23 มิ.ย. 2568 ซึ่งกำหนดต้องมีใบสั่งจ่ายยา (ภ.ท.33) เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงกัญชามีหมอดูแลแท้จริง ที่ผ่านมาประชาชนจะซื้อกัญชาก็เข้าถึงร้านโดยตรง ทำให้ใช้ผิดวัตถุประสงค์และเกิดปัญหา และขณะนี้กรมฯ เปิดรับฟังความเห็นร่างกฎกระทรวงการอนุญาตให้ศึกษาวิจัยส่งออกจำหน่ายแปรรูปสมุนไพรควบคุม จะปิดระบบวันที่ 21 ก.ค.นี้ สาระสำคัญกำหนดให้ร้านจำหน่ายกัญชาต้องปรับตัวเป็นคลินิกทางการแพทย์ หรือร้านขายยาตามกฎหมาย โดยต้องขออนุญาตจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) และต้องมีแพทย์ประจำร้านที่ผ่านการอบรม.