สส.พรรคประชาชน เตือนสส. พึงสังวร ห้ามเกี่ยวข้องหรือมีส่วนได้ส่วนเสียกับงบประมาณ

อัพเดต 13 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 13 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ภาพไฮไลต์

สส.พรรคประชาชน พอใจผลวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณี “พิเชษฐ์” เชื่อจะเป็นบรรทัดฐานให้สส.พึงสังวร ห้ามเกี่ยวข้องหรือมีส่วนได้ส่วนเสียกับงบประมาณทั้งทางตรงและทางอ้อม

วันที่ 1 ส.ค. 2568 นายภัณฑิล น่วมเจิม สส.กทม. พรรคประชาชน ผู้ที่ยื่นคำร้องพร้อมสส.รวม 121 คน กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรพ้นจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พร้อมสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี กรณีโยกงบประมาณของสำนักงานสภาผู้แทนราษฎรไปลงพื้นที่ของตัวเอง ว่า เป็นไปตามที่ตนเองได้ยื่นคำร้องไป จากที่เคยอภิปรายวาระเรื่องการมีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวข้องกับงบประมาณในการแปรญัตติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144 สส.ไม่สามารถมีส่วนเกี่ยวข้องกับการแปรงบประมาณในเขตพื้นที่ตนเองได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม

นายภัณฑิล กล่าวด้วยว่า ข้าราชการสภาฯ ก็คงลำบากใจที่จะทำต่อ เพราะเสี่ยงผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ หากติดตามการพิจารณางบประมาณ ปี 2569 พบว่างบสภาฯ มีการถูกตัดมากที่สุดในประวัติการณ์ถึง 700 ล้านบาท ที่เป็นโครงการขนาดใหญ่ น่าจะเป็นตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่อยากให้ฝ่ายนิติบัญญัติตรวจสอบการใช้งบประมาณของฝ่ายบริหาร และถือว่าการทำงานของตนในสถานะ สส.สัมฤทธิ์ผลระดับหนึ่ง เป็นการป้องกันในอนาคต ใครอยากจะมีส่วนได้ส่วนเสียกับงบประมาณ การวิ่งเต้นงบประมาณก็ต้องระวังมาก ๆ

นายภัณฑิล ยอมรับว่าไม่แน่ใจว่าจะมีโครงการลักษณะนี้อีกหรือไม่ เรื่องนี้ตนเองตรวจสอบตามมาตั้งแต่ต้น เพราะเป็นผู้ใช้งานอาคารรัฐสภา และองคาพยพทั้งหมดที่จำเป็นต้องแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ดังนั้นต้องพึงระวัง รวมถึงการตรวจสอบงบประมาณอื่น ๆ ที่มีการแปรเปลี่ยน ในสภาฯ ยังมีอีกเยอะมาก แต่ก็ถูกยับยั้งไว้หมด เป็นเรื่องที่โชคดีที่ความเสียหายยังไม่บานปลายไปมากกว่านี้

เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่าหวังให้คดีนี้เป็นบรรทัดฐานกับ สส. หรือคนที่มีตำแหน่งทางการเมืองอื่น ๆ ที่อาจประพฤติโดยไม่ชอบหรือไม่ นายภัณฑิล กล่าวว่า เป็นผลประโยชน์ทับซ้อน ต้องแยกผลประโยชน์สาธารณะ ผลประโยชน์ส่วนตัว และการใช้งบประมาณแผ่นดินที่มาจากภาษีประชาชนไปใช้ หรือมีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงและอ้อม ซึ่งจะเป็นบรรทัดฐานให้ สส.อย่างตนเองหรือสมาชิกต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ “เราเป็นฝ่ายตรวจสอบ เราจะตำหนิติเตียนตรวจสอบคนอื่นและเป็นเสียเองคงไม่ได้ เราเป็นเสาหลักในสามอำนาจ ฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ” นายภัณฑิล กล่าว

ส่วนจะมีการรื้อโครงการเก่า ๆ ของนายพิเชษฐ์ ในสภาฯ อีกหรือไม่นั้น คงต้องติดตามการใช้งบประมาณต่อไปว่าจะถูกขุดขึ้นมาหรือไม่ เพราะมันสิ้นเปลือง ไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินทำอะไรใหญ่โต มีหลายโครงการที่ถูกเบรก หลายโครงการก็ผูกพัน แต่เราชะลอได้บางส่วน

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : สส.พรรคประชาชน เตือนสส. พึงสังวร ห้ามเกี่ยวข้องหรือมีส่วนได้ส่วนเสียกับงบประมาณ